“กลุ่มเสื้อแดง (อย่า) แกล้งโง่” คำเตือนจาก จำลอง ฝั่งชลจิตร

“จำลอง ฝั่งชลจิตร” เขียนบทความในเนชั่นสุดฯ เตือน “สามเกลอเสื้อแดง” อย่าแกล้งโง่จับประเด็น รมต.กษิต มาโจมตี ชี้ บุคคลในประวัติศาสตร์จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ล้วนต้องมี “แอ็กชั่น” ทั้งสิ้น ย้อน “วีระ-ณัฐวุฒิ-จตุพร” ที่เคลื่อนไหวอยู่ก็เพื่อ “อำนาจ” มิใช่หรือ? ระบุ “กษิต” เป็น รมต.ที่มีเกียรติ น่านับถือและเก่งที่สุด ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องรักษาคนเช่นนี้เอาไว้

หนังสือเนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา หน้าปก “จ.ใจ แดง” เป็นภาพ นายใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่หนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยังประเทศอังกฤษ หน้าที่ 36 ได้ตีพิมพ์บทความเรื่อง “กลุ่มเสื้อแดงแกล้งโง่” เขียนโดย จำลอง ฝั่งชลจิตร ในคอลัมน์เรื่องบางเรื่องเท่ากับเท่าไร

ในบทความเรื่อง “กลุ่มเสื้อแดงแกล้งโง่” ผู้เขียนได้กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดง นำโดย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ โจมตีการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของ นายกษิต ภิรมย์ โดยอ้างว่า ไม่เหมาะสม เพราะนายกษิตเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกันนั้น ก็พยายามสร้างเงื่อนไขให้รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ปลด นายกษิต ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี มิฉะนั้น จะก่อการชุมนุมใหญ่ โดย จำลอง ระบุว่า การที่กลุ่มเสื้อแดงยกกรณี นายกษิต เป็นเงื่อนไขในการขับไล่รัฐบาลนั้นเป็นเพียง “อาการแกล้งโง่” ของ นายวีระ นายณัฐวุฒิและ นายจตุพร เท่านั้น

“ผมกล้าพูดว่าพวกเสื้อแดงแกล้งโง่-หลอกคนโง่กว่าให้เชื่อตาม เพราะว่าผมเข้าใจธรรมชาติของการเมืองอยู่บ้าง

ผมเชื่อว่า คุณพี่วีระ มุกสิพงศ์ คุณน้องณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คุณน้องจตุพร พรหมพันธุ์ ย่อมเข้าใจธรรมชาติข้อนี้ดี คนที่มี “แอ็กชั่น” ทางการเมือง หรือผู้นำเท่านั้นที่จะได้เสวยผลประโยชน์จากการเมือง

ถ้า สมเด็จพระเจ้าตากสิน นโปเลียนมหาราช เหมา เจ๋อตุง โจว เอินไหล หรือ ฟีเดล คาสโตร ไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง บุคคลเหล่านี้จะถูกยกขึ้นมาเป็นผู้ครองรัฐ หรือผู้นำของรัฐได้อย่างไร” นักเขียนชื่อดังตั้งคำถาม พร้อมกันนั้น ยังได้อธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า

“ถ้าคุณพี่วีระยังถอนจูดอยู่แถวทะเลน้อย คุณน้องณัฐวุฒิ เป็นเด็กเก็บมะพร้าวอยู่แถวสิชล หรือ คุณน้องจตุพร เป็นเด็กยิกแลนในสวนปาล์มแถวพระแสง นึกให้ดีๆ เถิดว่า จะมาเป็นผู้นำฝีปากกล้าที่สนามหลวง และในสภาได้อย่างไร คนที่จะเสวยผลทางการเมืองต้องแสดงบทบาททางการเมือง

ผมเชื่อว่า ถ้าเหตุการณ์พลิกผัน คุณน้องณัฐวุฒิ ก็อาจจะได้เสวยชาติเป็นรัฐมนตรี เช่นเดียวกับคุณพี่วีระ หรือ คุณจาตุรนต์ ผมไม่มีวันเชื่อว่าคุณพี่คุณน้องจะกล้าปฏิเสธ เพราะคุณพี่คุณน้องได้ต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายมานั่นเอง และที่เคลื่อนไหวอยู่ทุกวันนี้ ในหูนัยน์ตาก็ไม่ได้ห่างจากเก้าอี้อำนาจ”

เจ้าของคอลัมน์ เรื่องบางเรื่องเท่ากับเท่าไร ในเนชั่นสุดสัปดาห์ ยังระบุอีกด้วยว่า ตนรู้สึกชื่นชม นายกษิต ที่ไม่ได้ปฏิเสธการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะนั่นแสดงว่านายกษิต ไม่ได้เป็นคนตอแหล อีกทั้งการเข้าสู่อำนาจกับการใช้อำนาจให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติบ้านเมืองนั้น เป็นคนละเรื่องกัน โดยเขาชี้ให้เห็นว่า ความน่ากลัวของ นายกษิต นั้นมีสองประการ คือ ความเป็นคนตรง และมีเครือข่ายในระดับรัฐต่อรัฐเป็นจำนวนมาก ซึ่งความน่ากลัวสองประการนี้ ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังหลบหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีของศาลฎีกา

ในตอนท้ายของบทความ จำลอง ได้กล่าวถึง นายกษิต อีกด้วยว่า “ในสายตาของผม รัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ คุณกษิต ภิรมย์ เป็นคนมีเกียรติที่สุด น่านับถือที่สุด เก่งที่สุด รัฐบาลที่มีเกียรติจริงๆ ไม่จอมปลอมแค่ต้องการรักษารัฐนาวาให้อยู่รอดจะต้องรักษาเกียรติของ คุณกษิต อย่างเข้มแข็ง ไม่เช่นนั้นรัฐบาลนั่นแหละจะไร้เกียรติ และค่อยๆ เสื่อมไป ในที่สุด”

สำหรับ จำลอง ฝั่งชลจิตร นักเขียนไทยร่วมสมัยชื่อดังในแวดวงน้ำหมึก เป็นชาวนครศรีธรรมราช คลุกคลีกับแวดวงหนังสือมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษมีผลงานชื่อดัง เช่น เรื่องสั้นเรือญวน วรรณกรรมเยาวชนขนำน้อยกลางทุ่งนา เรื่องสั้นคัดสรร ลิกอร์ พวกเขาเปลี่ยนไป โดยผลงานจำนวนหนึ่งได้รับรางวัลทางวรรณกรรม เช่น รางวัลช่อการะเกด รางวัลนักเขียนเรื่องสั้นยอดเยี่ยม ทั้งยังมีผลงานเข้ารอบรางวัลซีไรต์อีกด้วย