xs
xsm
sm
md
lg

เตือน “มาร์ค” อย่าประมาท “แม้ว” สั่งสู้-แนะใช้สื่อแพร่ความจริง-รื้อ ขรก.ทาสทักษิณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มาลีรัตน์” เตือน “มาร์ค” อย่าประมาท “ทักษิณ” สั่งลูกสมุนล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนสิ้น ก.พ.นี้ แนะแก้เกมโดยใช้สื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมรื้อข้าราชการที่ยังภักดีอำนาจเก่า เร่งจัดการพวกหมิ่นสถาบันเบื้องสูง แจงแทนรัฐบาล เงินคงคลังเหลือ 5.2 หมื่น ล.ไม่น่าห่วง มีทุนสำรองตุน 1 แสนกว่าล้านเหรียญ ขณะยุค"แม้ว"เงินคงคลังเคยหดเหลือแค่ 4 หมื่น ล. แถมทุนสำรองมีแค่ 3 หมื่นล้านดอลล์ ต้องกู้นอกถึง 1.7 แสนล้านบาท ขณะรัฐบาลปัจจุบันจะกู้แค่ 7 หมื่นล้านบาท

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" 

รายการ “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-23.00 น.วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 ดำเนินรายการโดยนางสาวเมธาวดี เบญจราชจารุนันท์ พบกับการปราศรัยของนางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 และนายอธิวัฒน์ บุญชาติ แกนนำกลุ่มอีสานกู้ชาติ คั่นรายการด้วยเพลงของ “หล่อ ภูบรรทัด”และปิดท้ายด้วยช่วงสนทนากับแขกรับเชิญคือ รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และนายโสภณ องค์การณ์ คอลัมนิสต์ ในประเด็นประเมินงาน 1 เดือนของรัฐบาลอภิสิทธิ์

เมธาวดี - สวัสดีคะพี่น้องคะ ต้อนรับเข้าสู่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2552 ประจวบเหมาะนะคะ วันนี้ก็เป็นวันที่หลายฝ่ายจับตามองเป็นพิเศษ เพราะว่าครบ 1 เดือนของการทำงานภายใต้การนำของรัฐบาลชุดนี้ คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และเหมือนเช่นเคย รายการพันธมิตรฯ ของเราวันนี้ ช่วงของการสนทนาจะได้มาพูดคุยกันถึงประเด็น 1 เดือน ในการทำงานของคุณอภิสิทธิ์ แขกรับเชิญทั้ง 2 ท่าน ที่เชิญมาวันนี้ ต้องบอกได้เลยว่าพี่น้องห้ามพลาดเลยทีเดียว มาร่วมกันกำหนดทิศทางการเมืองไปพร้อมๆ กัน

ส่วนในช่วงของการปราศรัยกันบ้างนะคะ วันนี้จะมีแกนนำรุ่นที่ 2 ก็มีแกนนำจากกลุ่มอีสานกู้ชาติจะได้มาปราศรัยพูดคุยกับพี่น้องนะคะ และเหมือนเคย ช่วงของบันเทิง วันนี้มีศิลปินกู้ชาติ วงนี้ต้องบอกว่า หล่ออย่างเดียว สวยไม่ได้ เพราะเป็นวงดนตรีที่ชื่อว่า “หล่อ ภูบรรทัด” ซึ่งจะมาพร้อมกับ 4 เพลง สำคัญที่จะนำความสนุกมาให้กับพี่น้องคะ

ช่องทางการติดต่อกับประชาสัมพันธ์กับรายการนะคะ เหมือนเคยคะ พี่น้องอยากจะประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวในส่วนต่างๆ หรือว่าอยากจะส่งข่าวนะคะ อยากจะให้รัฐบาลชุดใหม่ทำอะไรให้กับพี่น้อง ก็ส่งมาได้นะคะ ที่ SMS พิมพ์ N1 ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 หรือว่าโทรมาที่ 02-629-4433 คะ

แล้ววันนี้นะคะมีพี่น้องพันธมิตรฯจากแดนอาหรับนะคะ ตะวันออกกลางเป็นลูกแขกรักชาติเหมือนกับแอร์เลย วันนี้พาส่วนหนึ่งของหนังสือพิมพ์อาหรับนิวส์นะคะ มาฝากกันด้วยนะคะ ก็เป็นบทความดีๆ แล้วก็มีเป็นรูปนะคะ มีทั้งบทความ ลงข่าวแล้วก็มีรูป อันนี้ก็จะเป็นรูปเกี่ยวกับนักรบมือตบนะคะ ที่นำไปเสนอผ่านทางอาหรับนิวส์นะคะ มีลูกแขกรักชาติก็นำมามอบให้นะคะ แหม เข้ากันพอดีเลย อีกรูปหนึ่งนะคะที่นำมาฝากกัน นี่ก็เป็นความเคลื่อนไหวนะคะ ที่โลกอาหรับ สื่อของโลกอาหรับเขาก็ให้ความสำคัญนะคะ กับการเคลื่อนไหวภาคการเมืองของพี่น้องพันธมิตร แล้วก็มีบทความดีๆ นะคะ ซึ่งก็คนที่ทำข่าวอันนี้ก็คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเลยคะ พี่สุทิน นะคะ วรรณบวร จากสำนักข่าวเอพี ณ ตอนนั้นนะคะที่ได้ทำข่าวไป ก็เป็นภาพด้านหลังนี่ก็ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลนะคะ ทั้ง 3 อันนี้ ขอบพระคุณนะคะ ลูกแขกรักชาติ จากแดนอาหรับ วันนี้นอกจากจะมาเป็นกำลังใจให้กับเรา และนำภาพดีๆ มาให้พวกเราได้ภาคภูมิใจร่วมกัน ว่าการต่อสู้ของพันธมิตรฯ นั้นเป็นข่าวไปทั่วโลก และได้รับเสียงตอบรับจากหลายๆภาคส่วน ก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ต้องขอบพระคุณ พี่ๆ ลูกแขกรักชาติด้วย

เราจะมาติดตามความเคลื่อนไหวของพี่น้องพันธมิตรฯ ในภาคส่วนต่างๆ กันบ้างนะคะ วันนี้จะไปดูกันที่ จ.สงขลา คะ หลังจากที่เราได้นำเสนอการเคลื่อนไหวของพี่น้อง จ.สงขลา ในเรื่องของการร่วมคัดค้านการว่าจ้างเอกชนเข้ามาผลิตน้ำประปาให้แก่ชาวเมืองหาดใหญ่ วันนี้ก็มีความคืบหน้าล่าสุดออกมาด้วย พันธมิตรฯ สงขลาแรงงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานประปา ที่หาดใหญ่ สงขลา ก็ร่วมกันคัดค้านการว่าจ้างเอกชนเข้ามาผลิตน้ำประปาแก่พี่น้องชาวหาดใหญ่ เขาเชื่อว่าเป็นการแปรรูปเพื่อมุ่งหวังผลกำไร และผลักภาระให้แก่ประชาชน โดยได้มีการยื่นเรื่องให้ ส.ว.และ ส.ส.ในพื้นที่ ดำเนินการพิจารณาคัดค้านต่อไป ซึ่งพันธมิตรฯ จ.สงขลา ก็ได้เปิดวงเสวนาเรื่องการคัดค้านว่าจ้างเอกชนผลิตน้ำประปาหาดใหญ่ ที่ลานประวัติศาสตร์สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อย่างที่เห็นอยู่ในภาพนะคะ ก็มีบรรดาผู้ที่เคยขึ้นเวทีปราศรัย เช่น คุณเริงชัย ตันตระกูล ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา คุณวิรุณ สะแกคุ้ม เลขาธิการสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์สาขาหาดใหญ่ และคุณหมอเกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ก็ได้มาร่วมเสวนาในงานนี้ด้วย ซึ่งคุณหมอเกรียงศักดิ์ ก็บอกว่า หากว่าการประปาหาดใหญ่ถูกแปรรูปด้วยการว่าจ้างเอกชนมาดำเนินการผลิตน้ำประปา จะทำให้เป็นตัวอย่างที่ ทำให้การประปาทั่วประเทศต้องแปรรูปทั้งหมดคะ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา กำลังทำอยู่ ไม่ได้ทำเพื่อพี่น้องชาวหาดใหญ่เท่านั้นคะ แต่ว่าทำเพื่อคนทั้งประเทศ เพราะว่าเป้าประสงค์สำคัญนะคะของเอกชนที่จะเข้ามาดำเนินการผลิตน้ำประปา คือผลกำไรสูงสุด ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาน้ำประปาเพิ่มขึ้น แล้วผลักภาระส่วนนี้แหละคะให้กับประชาชน

หลังจากจบการเสวนานะคะ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สงขลา เอง ก็ได้ร่วมกับสมาพันธแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาหาดใหญ่ และพนักงานประปาหาดใหญ่ ได้ร่วมยื่นหนังสือคัดค้านการว่าจ้างบริษัทเอกชนผลิตน้ำประปาหาดใหญ่ ให้กับสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใน จ.สงขลา เพื่อช่วยหาทางยับยั้งโครงการดังกล่าวโดยเร็วที่สุดคะ

และสำหรับช่วงต่อไปนี้นะคะ ก็จะเป็นช่วงเวลาของการปราศรัย ก็ต้องบอกพี่น้องเอาไว้ก่อนเลยนะคะว่า วันนี้เนี้ยผู้ที่จะมาเป็นแขกในการปราศรัยของเรานี่นะคะ เมื่อสักครู่เนี้ยเจอท่านแล้วละคะ ท่านเป็นหญิงแกร่งนะคะ หญิงกล้าจากภาคอีสาน ท่านก็เคยเป็นอดีต ส.ว. จาก จ.สกลนคร ด้วย แล้วก็อยู่ร่วมต่อสู้นะคะ 193 วัน กับพี่น้องพันธมิตรฯมาโดยตลอดเลยคะ ท่านผู้นี้นะคะ ตอนแรกเนี้ยได้เข้ามาเป็นผู้ปราศรัยของเวทีพันธมิตรฯ และก็ผลงานของท่านนะคะ การต่อสู้ของท่าน โดยเฉพาะการผลักดันก็เรียกได้ว่าเหมือนกับเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงของพันธมิตรฯ ดอกไม้เหล็กของพันธมิตรฯตัวจริงเลยละคะ กระทั่งท่านก็ได้รับเลือกนะคะให้มาเป็นแกนนำพันธมิตรฯรุ่นที่ 2 ด้วย แหม พูดอย่างนี้แล้วพี่น้องก็คงจะนึกออกแล้วใช่ไหมคะ แล้วท่านก็มีบุตรชายด้วยนะคะ ก็ได้มาเป็นผู้ดำเนินรายการ รายการสำคัญรายการหนึ่งอย่างรู้ทันประเทศไทยร่วมกับ อ.เจิมศักดิ์ แล้วก็บุตรชายของท่านก็ได้มาร่วมเคลื่อนไหวนะคะ ในนามของสาธิตมัฆวาน ซึ่งก็เป็นกลุ่มเยาวชนที่มาร่วมกัน เป็นหนึ่งในกลุ่มของเยาวชน นอกจากจะมี YOUNG PAD แล้วนะคะ ก็ยังมีอีกหลายๆ กลุ่มมาร่วมกัน ก็เนี้ยแหละคะ ก็ได้รับการผลักดันสำคัญเลยนะคะ จากครอบครัวของท่านเอง แล้วตอนนี้เนี้ยท่านก็มาอยู่กับเราที่นี่แล้วนะคะ เดี๋ยวเราคงจะได้พบกับท่านกันนะคะ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ก็ขอให้พ่อแม่พี่น้องได้พบกับการปราศัยสดๆจากห้องส่งที่อาคารบ้านเจ้าพระยาแห่งนี้ กับผู้หญิงเก่ง ผู้หญิงแกร่ง ดอกไม้เหล็กตัวจริงของพี่น้องพันธมิตรฯ ปรบมือต้อนรับ คุณมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำพันธมิตรฯรุ่นที่ 2 คะ สวัสดีคะ

มาลีรัตน์ - สวัสดีคะน้องแอร์ สวัสดีคะท่านผู้ชมที่อยู่ทางบ้าน แล้วก็สวัสดีท่านผู้ชมที่อยู่ในห้องส่ง และพี่น้องที่อยู่ในต่างประเทศด้วยนะคะ วันนี้มาแบบฉุกเฉินนิดๆ นะคะ คิดว่าสัปดาห์ที่แล้วจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการปราศัยในห้องส่งนะคะ แต่ว่ามีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ดิฉันก็เลยมาประเดิมซะวันนี้ละนะ มีโอกาสประเดิมส่งท้ายนะคะ เพราะว่าสัปดาห์หน้าเราก็จะได้พบรูปแบบใหม่ของรายการในห้องส่ง ทราบว่าอย่างนั้นนะคะ

วันนี้จริงๆ ตอนแรกตั้งใจว่าจะคุย 2 เรื่อง คือเรื่องของการบินไทย แล้วก็เรื่องของน้ำมัน แต่ว่าคิดไปคิดมาเปลี่ยนใจไหนๆ ก็จะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่จะได้ปราศรัยในห้องส่งนะคะ เลยถือโอกาสส่งท้ายเตือนรัฐบาลที่วันนี้ทำหน้าที่ครบหนึ่งเดือนกว่าๆ เศษๆ แล้วนะคะ เพราะว่าแถลงนโยบายในวันที่ 28 ธันวาคม พี่น้องคงจะจำกันได้นะคะ ปรากฏว่า หนึ่งเดือนกว่าเนี้ย เหมือนสะบักสะบอมนะคะ น้องแอร์เองก็คงจะทราบ พี่น้องเราก็คงจะทราบดีว่ามันเหมือนสะบักสะบอมมากๆ เหมือนผ่านมาเป็นปีนะคะ ลุ้นเอาใจช่วยตลอดเวลา ลุ้นรายวัน เดี๋ยวนี้เนี้ยรายชั่วโมงด้วยซ้ำไปนะคะ ว่าจะรอดไม่รอด ไม่อยากจะเห็นอะไรที่ไปเร็วเกินไป มาเร็วไปเร็ว แต่มาไม่เร็วนะคะ มาช้ามาก รอบนี้ประชาธิปัตย์กว่าจะได้เป็นรัฐบาล รออยู่ตั้งแต่ 43 จนถึงตอนนี้ก็กี่ปีแล้วละ 9 ปี เกือบ 10 ปีทีเดียวนะคะ ตั้งแต่ปลายปี 43

ทีนี้ก็เลยจะคุยเรื่องสถานการณ์นี้ละตบท้าย ไม่อยากจะให้พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลประมาท ทำไมดิฉันถึงพูดอย่างนี้นะคะ วันนี้เราทราบเอาตั้งแต่ วันนี้มีโฟนอินใช่ไหมคะ ในการประชุมพรรคเพื่อไทย โฟนอินมาจากทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดิฉันไม่เรียกยศนานแล้ว จะถอดไม่ถอด เป็นทางการไม่เป็นทางการ ถือว่าถอดแล้วนะคะ เพราะว่ายศนี้เนี้ย ต่อให้ไม่ได้ปลดเป็นทางการ แต่ตามกฎหมายก็ต้องปลดแล้วเรียบร้อย จึงเรียกเฉพาะคุณทักษิณ สมัยอยู่ในเวทีต่างๆ ก็ยังให้เกียรติว่าเป็น พ.ต.ท.แต่วันนี้ไม่ใช่นะคะ วันนี้เขาโฟนอินมาอีกนะคะพี่น้อง หนึ่ง ขอบคุณสมาชิกพรรคเพื่อไทยนะคะ แล้วก็ให้อดทนเป็นฝ่ายค้าน แล้วยืนยันว่าตัวเองจะสู้ แล้วก็บอกว่าขอให้อยู่อย่างเสือ

เขาก็อธิบายต่อว่าอยู่อย่างเสืออย่างไร อยู่อย่างเสืออย่าอยู่อย่างหมา ดิฉันก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นเสือหรือเป็นหมา เพราะเขาบอกว่าอยู่อย่างเสือเนี้ย หิว ก็นิ่ง ก็แสดงว่าคุณบอกเองว่าพลพรรคของคุณเนี้ย หิว ใช่ไหมตอนนี้แต่ทำนิ่งๆ เพราะจะเป็นเสือนะคะ อันนี้ก็คืออยากจะย้อนกลับว่า เสือที่แท้จริงเนี้ย พี่เขาบอกว่าเสือลำบาก เสือที่แท้จริงจะต้องทำอะไร กล้า อยู่อย่างเสือ หรืออยู่อย่างสิงห์ ต้องกล้าผงาด กล้าสู้กับความเป็นจริง การกล้าสู้กับความเป็นจริงก็คือ มาซิคะ กลับมาประเทศไทย แล้วก็ให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นติดคุก 2 ปี ดำเนินคดีอื่นๆ ต่อเนื่องกันไป

ถ้าคุณทำแบบนั้น แสดงว่าคุณยอมรับกติกาบ้านเมือง แล้วเราก็จะนับถือคุณอย่างเสือ หรืออย่างสิงห์ ใช่ไหมคะพี่น้อง แต่ถ้ามาไม่ได้ อย่าอวดคุยว่าตัวเองเป็นเสือ อีกประการหนึ่งเราลองทบทวนว่า พลพรรคเสื้อแดงทำอะไรบ้างใน 1 เดือนครึ่ง ถ้านับจากประชาธิปัตย์ คือ คุณอภิสิทธิ์ ถูกโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เราจำภาพกันได้ไหมคะพี่น้อง วันที่ 15 ธันวาคม ดิฉันจำแม่นเลยวันที่ เพราะอะไร ไม่เคยพบไม่เคยเจอนะ อยู่หน้าสภาปิดล้อมรถ รถ ส.ส.ออกมาทุบรถ ถึงวันนี้ดำเนินคดีหรือยัง จักรภพ เพ็ญแข หรือ วีระ มุสิกพงศ์ คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เดินไปถึงไหนแล้ว ทำไมพยานมันถึงยืดเยื้อนัก เราดูระยะสั้นๆ ทำร้ายคน ทำลายรถ

คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บาดเจ็บด้วยในวันนั้น คุณองอาจ คล้ามไพบูลย์ ถูกคนเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่บาดเจ็บทั้งนั้น แล้วยังมีหน้าไปงานแต่งงานเขาอีก คุณจักรภพ เพ็ญแข ไม่รู้ว่าทำได้อย่างไร ใจนะคะ อันที่ 2 ล้อมสภา เสร็จสรรพเรียบร้อย หลังจากนั้นก็ตั้งสถานีโทรทัศน์สู้ ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าวันนี้เป็นอย่างไร วันหนึ่งก็ถอด คือดิฉันก็สะใจอ่านข่าว 2 - 3 วันก่อนว่า ขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งเป็นพวกเดียวกับเขาเนี่ย ไม้เบื่อไม้เมากับเรา งดถ่ายทอดรายการความจริงวันนี้ ออกสถานีวิทยุคนรักอุดร ทำกันเองทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นการตั้งสถานีก็คือการสื่อสาร บอกกับพี่น้องประชาชนคนไทยนั่นเองว่าเขาสู้นะ แต่เดี๋ยวเราจะดูต่อว่า รัฐบาลทำอะไร ประการที่ 3 เดินสายไปทุกสถานทูต ของอาเซียน ไปบอกขอร้องเขา ไม่ให้มาประชุมอาเซียน ดิฉันก็เพิ่งเคยเจอเนี่ยแหละ น่าอายขนาดไหน มากสุดที่เราเคยทำเวลามีประชุมในระหว่างประเทศก็ดี ที่มาประชุมในประเทศไทย อาเซม อาเซียน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มาประชุมในประเทศไทย มากสุดประชาชนคนไทยที่มีความเห็นต่างกับการประชุมนั้นๆ เขาจะไปประท้วงเขาก็ประท้วงอย่างเรียกว่า การชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ ประท้วงแบบน่ารัก เหมือนกับทั่วโลก ที่เขาทำกัน

แต่อันนี้ เดินสายไปขอร้อง อย่ามาประชุมในประเทศไทย ถ้าไม่บอกว่าพวกนี้ทำลายชาติ ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรแล้ว อันนี้เป็นอีกเรื่อง เรื่องที่ 3 เรื่องที่ 4 พี่น้องคงจะจำกันได้ ขบวนตีนตบอาละวาดปาไข่ ทำร้ายคน ไปหลายจังหวัดมากๆ ลำพูน ลำปาง ลำพูนก็สะใจดีเหมือนกัน ปาไข่ไปปาไข่มา พี่เขาแซวเลย เพรชวรรต นี่เป็นหัวหน้า นปช. หรือเสื้อแดงอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นเจ้าของโรงแรม เขาเข้าใจเอาว่า ดิฉันขอพาดพิงหน่อยนะ เพราะว่าเชียงใหม่เขาฟ้องมาเยอะมาก ว่าด่าฉันทุกวันเลย ไม่รู้คลื่นวิทยุอะไรของเชียงใหม่ นายเพชรวรรต ด้วย

วันนี้ก็เลยเอาคืนหน่อย จะไม่ด่าหรอก แต่จะบอกคุณว่า เรารู้นะ ว่าโรงแรมคุณกำลังจะล้มละลาย ตีนตบอาละวาดลำพูน ลำพูนก็เลยได้ ส.ส.ปชป. ตีนตบอาละวาดที่ลำปาง เชื่อไหมคะพี่น้อง ประชาธิปัตย์ไม่เคยได้คะแนนดีๆ เลยในลำปาง รอบนี้เกือบได้เป็น ส.ส.ขาดไปอีก 2,700 กว่าคะแนนเท่านั้น นี่ก็แสดงว่าขบวนการตีนตบที่อาละวาดกลับเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์นะคะ อันนี้ก็เป็นขบวนการที่อาละวาด หนำซ้ำไม่ต้องไปพูดที่อุบลราชธานี ไม่ต้องไปพูดในที่ต่างๆ แม้แต่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เอง เราทราบกันดีว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งอาจารย์ต้องไปแจ้งความจับ

ขบวนการเหล่านี้นำพามาสู่การชุมนุมในวันที่ 31 มกราคม ผ่านพ้นไปหมาดๆ คาดการณ์ตอนแรกบอกว่าเป็นแสน เอาเข้าจริงก็ เอาละดิฉันให้ราคาอยู่ที่ประมาณ 30,000 นี่บางคนโวย บอกว่ามากไป ถ้า 30,000 มันต้องปิด ถ.พิษณุโลก ชมัยมรุเชฐ ครบสมบูรณ์ ปิดเสร็จสรรพเรียบร้อย วันนั้นหลายคนคงจำได้ ดิฉันพูดที่สระบุรี บอกว่า จะอยู่ได้ไหม 7 วัน ที่ไหนได้ แดดเดียวหรือเปล่าไม่ทราบ แดดหนึ่งกับน้ำค้างหนึ่ง น้ำค้างก็ไม่ครบด้วย กลับไปเรียบร้อย เราก็ไม่ได้เยาะเย้ยนะ แต่ว่าเขาก็คาดการณ์ต่ออีกว่า เขาคาดโทษรัฐบาลบอกว่า ถ้าไม่ปลดท่านทูตกษิต ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ไม่ยุบสภา อีก 15 วันเจอกัน ให้ทำภายใน 15 วัน เทวดามาเสกยังไม่ได้เลยไอ้รัฐธรรมนูญ 15 วัน แล้วเลือกตั้งใหม่

เพราะฉะนั้นเงื่อนไขนี้ เป็นเงื่อนไขที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ทำไม่ได้นั่นเอง และเร่งดำเนินคดีกับพันธมิตรฯ วันก่อนมีหมอดูมาดู บอกว่ามาลีรัตน์ แม่นมากเลย ขึ้นศาลเป็นว่าเล่นจนอ้วกจะแตกว่าอย่างนั้นในปีนี้ แน่ๆ เลยนะคะ เพราะว่าเขาเร่งดำเนินคดีแถมออกมาสอดรับกัน ไม่เป็นไร

ทั้งหลายทั้งปวงนะคะ 5 เหตุการณ์ที่ร้อยเรียงกันมาเนี้ย อยากจะบอกพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะ ไม่ฝากพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ขอเตือนว่าอย่าประมาท ที่เตือนว่าอย่าประมาทเพราะว่าภายในและภายนอกเขาสอดรับประสานกัน ภายในรัฐสภาเขาให้เฉลิมก่อกวน คะแนนของคุณเฉลิมจากการสำรวจโพล คุณอภิสิทธิ์ 54.5 % ชื่นชอบคุณอภิสิทธิ์ คุณเฉลิมฟาดขึ้นมา 46% ไม่น้อยทีเดียวนะคะ ไล่เรียงเนี้ยเกือบๆ จะเท่าคุณอภิสิทธิ์ เพราะอะไรขบวนการในสภาก็ทำ ขบวนการนอกสภาก็ทำ ไม่หนำใจนะคะ เราไปดูอะไรบ้างนะคะ ที่เขาทำเนี้ย การสั่งสู้ของคุณทักษิณนั่นเอง

ทำไมคุณทักษิณถึงต้องสั่งสู้เร็วนัก เพราะเขารู้ว่าถ้ารัฐบาลนี้เนี้ยช้าไป ตั้งตัวได้นะคะ รัฐบาลนี้ช้าไปกว่านี้ เอาเป็นว่าถ้าช้ากว่ากุมภาพันธ์ตามโหรทำนายก็แล้วกัน รัฐบาลตั้งตัวได้จะอยู่ยาวครบจนวาระสภาก็คืออีก 3 ปีเศษๆ เนี้ย อยู่ได้สบาย ทักษิณจึงต้องเร่ง เพราะฉะนั้นในเดือนนี้ หรือจะอีกกี่เดือนก็แล้วแต่ ดิฉันไม่อยากให้รัฐบาลนี้ประมาท บอกว่าไม่ให้ราคา ดิฉันไม่เคยให้ราคากับพลพรรคคนเสื้อแดง

แต่เราอย่าประมาทนั่นเอง การไม่ประมาทเนี้ยจะต้องทำอย่างไรบ้าง ดิฉันมีข้อเสนอแนะ ยังจำได้ว่าจะต้องมีข้อเสนอแนะให้ ข้อเสนอแนะที่อยากจะเสนอแนะ ก็คือ หนึ่ง ถามตัวเองซิ หนึ่งเดือนที่ผ่านมา คุณสาทิตย์ วงศ์หนองเตย น้องรัก ซึ่งดิฉันเนี้ยชื่นชมเป็นพิเศษว่าอภิปรายทีไร จับใจผู้ฟังทุกครั้งเนี้ย อภิปรายจับใจอย่างเดียวไม่ได้นะคะคุณสาธิต ท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีทำอะไรหรือยังกับสื่อนะคะ หัวใจสำคัญที่สู้เขาได้สื่อเท่านั้น คุณตัดช็อตจาก ASTV บางช็อตไปออกได้ไหม เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้รู้ว่าสาระดีๆ ความจริงดีๆ ข้อมูลเจ๋งๆ มันอยู่ตรงนี้ ให้ประชาชนทั่วประเทศเขาได้ล้างใจ ว่าที่หลงเข้าใจทักษิณไปผิดๆ นั้นเนี้ย จริงๆ ทักษิณกอบโกยเข้าตัวเองเท่าไหร่นะคะ

อันนี้เป็นเรื่องที่หนึ่ง คุณทำอะไรหรือยัง อันที่สอง ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พี่ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อของรัฐมนตรีอนุทินนะคะ ดิฉันเคยพูดไปถึงท่านว่า วันนี้ท่านทำหน้าที่แทนลูกนะคะ คุณอนุทินยังมีอนาคตอีกไกล 5 ปี ไม่นานเกินไป ดิฉันก็โดน 5 ปี ยังไม่เห็นว่าอะไรซักหน่อยนะคะ ก็อยู่กันไปอย่างนี้นั่นแหละ ท่านรัฐมนตรีอนุทินเป็นลูกรักนะคะ คุณชวรัตน์ มาทำหน้าที่เหมือนแทนลูกเนี้ย ทำอย่างไรนะคะ รื้อหรือยัง ผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง นายอำเภอก็ดี ผู้ว่าฯ ก็ดี ที่รักคุณทักษิณเต็มหัวใจ ปกป้องคุณทักษิณสุดชีวิตจิตใจ เก็บเอาไว้ทำไม ปลายกุมภาฯ หรือกลางกุมภาฯ นี้ ขยับได้แล้วนะคะ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ดูแลกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำหรือยังละ ถ้าคุณไม่รื้อ ระบอบข้าราชการที่รับใช้ระบอบทักษิณนั้นเนี้ย คุณเจ็บตัวแน่ๆนะคะ เพราะอันนี้ก็คือสิ่งที่อยากจะฝากไว้นะคะ

ประเด็นที่สาม สองก็คือ รื้อนะคะ หนึ่งคือสื่อ สองคือรื้อแขนขาของคุณทักษิณ สามการดำเนินคดีอย่างเอาจริงเอาจังกับพวกหมิ่น ไปดูซิเราพูดไม่ออกใช่ไหมคุณแอร์ น้องแอร์ เราอ่านไม่ได้เลยนะ ว่าใครตะโกนอะไรขึ้นมา ในขณะที่จักรภพ เพ็ญแข พูด เราไม่อยากจะแปลความเลยว่าไอ้แม่นาคที่คุณเอาไปปาเป้า หรือผัวแม่นาคที่คุณเอาไปปาเป้าคือใคร ในความหมายของคุณ ไม่อยากจะคิดอกุศล แต่สื่อของคุณเนี้ย ทำให้เข้าใจอย่างนั้น ดิฉันไม่อยากจะพาดพิงไปถึง อ.ใจ แต่เอาเป็นว่าวันนี้ผิดหวัง ที่อ.ใจ ไปประกาศตัวนะคะ อาจจะเพื่อปกป้องตัวเอง แต่การประกาศตัวสนับสนุนคุณทักษิณ ทั้งๆที่เคยไม่สนับสนุนนั้น ก็บ่งบอกถึงการแลกผลประโยชน์ ที่จะสนับสนุนให้อ.ใจ พ้นผิดหรือไม่ ดิฉันไม่ทราบ แต่เอาเป็นว่าอย่าให้อะไรมันมากเกินไปก็แล้วกันนะคะ อันนี้คือเรื่องแรกที่เตือนรัฐบาลว่าอย่าประมาท

เรื่องที่สอง ขอยกยอดเรื่องอื่นไปในเวทีอื่นก็แล้วกัน ใครติดตามอีสานดิสคัฟเวอรี่นะคะ ก็คือช่องอีสาน ASTV4 วันเสาร์-อาทิตย์ สี่ถึงหกโมงเย็นก็ไปตามฟังที่นั่นก็แล้วกันนะคะ เสาร์-อาทิตย์ 2 วันนะคะ วันละสองชั่วโมงนะคะ ก็ตามเอาที่นั่น

วันนี้ขอพูดเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดใหญ่โต เรื่องเงินคงคลังที่ปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาบอกว่าเหลือเงินคงคลัง 52,000 ล้านบาท แล้วบอกว่าจะมีเงินเดือนจ่ายข้าราชการแค่เดือนครึ่ง ขอโทษคะ อย่านึกว่ามันพึ่งเกิดนะ ดิฉันจำได้ว่าปลายปี 48 ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาเตือน วราเทพ รัตนากร ขณะนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง คุณวราเทพเนี้ยหลุดปากออกมาบอกว่า เงินคงคลังเหลือประมาณ 40,000 ล้าน โอ้โห มติชนเอามาลงวันที่ 20 กว่าๆ ของเดือนพฤศจิกายนปี 48 คุณทักษิณอัดวราเทพนะคะ คุณทักษิณอัดมติชนบอกไม่รู้จริงแล้วเอามาพูด วันนี้ใครละที่มาว่าอยู่ ถ้าเป็นปลัดกระทรวงการคลังหรอ ย้ายแล้วนะคะ ถ้าออกมาพูดแบบวันนี้ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลนี้เอาปลัดนี้ไว้ทำไม สงสัยเอาไว้ทำบุญนะคะ

ก็เตือนอีกครั้งหนึ่งนะคะว่าเงินคงคลัง หมายถึงสถานะเงินสดของประเทศเรา ณ เวลานั้นๆ เงินสดของประเทศเราขณะนี้เนี้ย เหลือ 52,000 ล้านบาท ตอนปี 48 คุณทักษิณกู้ 170,000 ล้านบาท อย่านึกว่าประชาธิปัตย์กู้เป็นอย่างเดียว ทักษิณเนี้ยกู้มากกว่าด้วยนะคะ ในขณะที่คุณกรณ์เนี้ยได้บอกแล้วว่าจะกู้จาก ADB World Bank และ ไจก้า แค่ 70,000 ล้านบาท ดิฉันก็ไม่รู้ว่าดิฉันมาแก้แทนรัฐบาลทำไม งงตัวเองเหมือนกัน แต่อยากจะสร้างความเข้าใจกับพี่น้องเรา เพราะไม่มีใครพูดง่ายๆ เเบบนี้

ปี 47 เงินคงคลังของรัฐบาลทักษิณมีแค่ 30,000 ล้านเหรียญ อันนี้จำคำดิฉันไว้ แล้วไปตรวจสอบได้เลย สิ่งที่จะได้ว่าสถานะประเทศมันร้ายแรงหรือไม่ คือ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ก็คือเงินตราต่างประเทศเราที่เอาไปไว้ที่ธนาคารกลางนั่นเอง วันนี้ประเทศไทย มีเงินสำรองระหว่างประเทศ 111,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คะพี่น้อง อย่ากลัวไปเลย สมัยทักษิณมีแค่ 30,000 คะ ในปี 45 , 46, 47 ดิฉันดูแล้วมีแค่ 30,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐฯ เหลือมากกว่าสมัยทักษิณเยอะ อย่าไปกลัว เงินคงคลังกู้มาไม่เป็นไร กู้มาเพื่อหมุนเวียน ก็มีรายรับภาษีเข้ามา เดือนหน้ามันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คือเงินสดนั่นเอง เอาละคะ สรุปแบบง่ายๆ สั้นๆ ตบท้ายด้วยกลอน ขอฝากกลอนไปถึงพี่น้องเรา และไปถึงรัฐบาลด้วย

ทักษิณดิ้นรนอาละวาด            ประกาศสู้ตายไว้ลายชั่ว
สั่งสมุนสุนัขรับใช้ตัว               เร่งระรัวระดมพลคนเสื้อแดง
ขีดเส้นตาย 15 วันให้แตกหัก    อย่าช้าชักเนิ่นนาน เงินเหือดแห้ง (เงินใครไม่ทราบ)
หากนานวันเหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลง  ต้องเร่งแรงแผลงฤทธิ์ บ่อนทำลาย
ต้องทุ่มโถมโหมโฉด โฉดให้สุด      ให้ปี้ป่นโทรมทรุดไม่ขาดสาย
ให้บ้านเมืองวิกฤตจนวอดวาย          อย่าได้สบายสงบสุขอีกต่อไป
ทักษิณพยาบาทอาฆาตร้าย            ต้องรู้ทันอันตรายมากลายใกล้
ต้องขุดรากระบอบทักษิณให้หมดไป  จึงพ้นภัยพิบัติของชาติเอย”

พบกันใหม่คะ สวัสดีคะ

รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ช่วงที่ 2

เมธาวดี
- อยู่กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนะคะ ช่วงนี้จะเป็นอีกหนึ่งช่วงคะ ที่จะขอเชิญพี่น้องได้รับฟังการปราศรัย วันนี้เราได้รับเกียรติจากแกนนำอีสานกู้ชาติ อยู่กับเราที่นี่เป็นที่เรียบร้อยแล้วคะ ขอเชิญพบกับ คุณอธิวัฒน์ บุญชาติ คะ สวัสดีคะ

อธิวัฒน์ - พี่น้องเอ้ย พี่น้องเอ้ย สู้ไม่สู้ สู้ไม่สู้ (สู้สู้) ยังจำได้ ยังต้องสู้ต่อ สวัสดีพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พี่น้องท่านผู้ชมที่ชมรายการอยู่ทางบ้าน และที่ต่างประเทศ จริงๆ แล้ววันเวลาในการต่อสู้ของเรายังไม่ได้ปิดฉากเลยแม้แต่วันเดียวนะครับ เพราะว่าถ้าเป็นพี่น้องประชาชนทั่วไปอาจจะบอกว่า ตั้งแต่สุวรรณภูมิที่เราหยุดการปราศรัย ก็คงจะหยุดการชุมนุม แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะแต่ละเวที แต่ละจังหวัดมีกิจกรรมโดยตลอด และเชื่อว่ามีต่อไปเรื่อยๆ ส่วนของการที่เรายังมีเวที หรือกิจกรรมไปเรื่อยๆ เพราะว่าเรายังมีความเชื่อมั่นว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ นั้น เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อะไรสำเร็จก็ช่าง ถือว่าสิ่งที่ได้ ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ได้ทั้ง 2 ฝ่าย

แต่วันนี้ฝ่ายที่เสื้อแดงทำนั้น ถือว่า เป็นการทำเพื่อบุคคลเพียงคนเดียว ซึ่งทุกครั้งที่เขาชุมนุมเขาก็จะชูรูปของทักษิณขึ้นมา ซึ่งนั้นสามารถบอกได้เลยว่า การที่เสื้อแดงออกมาชุมนุม ก็เป็นเพื่อประโยชน์ของกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งต่างจากพันธมิตรฯ ซึ่งเราได้ทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ทำทุกอย่างให้กระจ่างแจ้ง แม้แต่วันนี้อีก รัฐบาลอภิสิทธิ์ หรือรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ และพี่น้องหลายๆ ท่านก็ตรวจสอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนไหน หรือท่านใด ถ้าทำถูกต้อง เราเห็นดีด้วย ช่วยส่งเสริม แต่ถ้ากระทำผิด เราก็ต้องตรวจสอบ เพราะว่าสิ่งที่พันธมิตรฯ ทำไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มคนเพียงแค่กลุ่มเดียว ไม่ใช่ทำเพื่อ 5 แกนนำ ไม่ใช่ทำเพื่อแกนนำรุ่น 2 ไม่ใช่ทำเพื่อแนวร่วม แต่เราทำเพื่อประโยชน์ของมวลรวมทั้งหมด

อย่างวันนี้ เราก็จะเห็นว่า เสื้อแดงเขาออกมาตั้งประเด็นไว้ 4 ข้อ ในการที่ไปยื่นหนังสือ ซึ่งถามว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่การที่เขากำหนดไว้ 15 วัน อยากจะบอกพี่น้องว่าไอ้ 15 วัน ก็คือว่า เขาโยนหินถามทาง เพราะการที่เขาชุมนุม เขายังมีมวลชนไม่มากพอ เมื่อไม่มากพอ การที่จะไปปิด หรือจะไปยืดเยื้อเหมือนพันธมิตรฯ ซึ่งมาด้วยใจ มาทั้งแรงใจ และแรงทรัพย์นั้น เขาไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะขนาดว่าเอาคนมาจำนวนที่ผมก็ดู ว่าเป็นจำนวนมากพอสมควร แต่ก็ยังมีการสตางค์ มีการรอท่อน้ำเลี้ยง ซึ่งถามว่ามันต่างจากพันธมิตรฯ พันธมิตรฯ ถ้าเปรียบเสมือนสายน้ำ คือแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน น้ำบางน้ำเปรี้ยว บางปะกง ปากน้ำโพ ไหลมาบรรจบกัน และรวมกันเป็นพันธมิตรฯ แต่ของ นปช.กลุ่มเสื้อแดง คือต่อท่อแป๊บมาแค่นั้นเอง ถ้าเปิดก๊อกชุมนุมได้ ถ้าก๊อกไม่เปิด ไม่มีทางจะมีน้ำเลี้ยงการชุมนุม

ฉะนั้น ความแตกต่างจะเห็นได้ชัด อย่างข้อเรียกร้องของเรา เราเรียกร้องกลุ่มคนที่เข้ามาเป็นรัฐบาล และมีการตรวจสอบว่ามีการทุจริต มีการคอร์รัปชั่น มีการเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องและวงศาคณาญาติ แต่ข้อเรียกร้องของ นปช.ให้ท่านทูตออก ให้แก้รัฐธรรมนูญ เอารัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ จะให้ดำเนินการกับพันธมิตรฯ ซึ่งความคิดเเบบนี้เป็นความคิดที่ง่ายมาก เราไปสั่งอาหาร สั่งกระเพราไก่ไข่ดาวยังยากกว่า ยังคิดยากเลยจะสั่งกระเพราไก่ไข่ดาวหรือกระเพราหมูไข่ดาว

แต่แนวคิดของ นปช.ที่ไปยื่น 4 เรื่อง เป็นเรื่องที่ง่ายๆ แต่การที่เขาบอกว่า 15 วัน เขาจะมาชุมนุม ด้วยเหตุหนึ่ง การชุมนุมของ นปช.เอง คือ เขาชุมนุม เขาไม่สามารถจะคุมมวลชนได้ คือมวลชนที่มาเป็นการจัดตั้งมาส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งมาจากความรักชอบกับตัวบุคคล ฉะนั้นแล้วการที่จะคุม ก็คุมได้เพียงแค่ว่า ใครพามา ใครจ่ายสตางค์ พอรับสตางค์เสร็จแล้วก็หาเรื่องที่จะกลับ

เขาชุมนุมกันที่สนามหลวง 30,000 แต่เอาจริงๆ 3,000 ถึงหรือเปล่านะครับ นี่คือ สิ่งที่มันไม่เป็นธรรมชาติ แต่พันธมิตรฯ เพียงแค่บอกว่าพร้อมไหม สู้ไม่สู้ บางทียังไม่ทันได้บอก รู้แล้วว่าจะต้องไปทางไหน ไปอย่างไร แล้วควรจะทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าเหมือน นปช. พอเขาเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง เขาก็จะใช้เงินในการเคลื่อนไหว ถ้าเงินไม่มา ก็เคลื่อนไมได้ ก้าวไม่ออก ฉะนั้นการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นอะไรที่ยังจะต้องยืนหยัดต่อสู้ต่อไป

พอพูดถึงฝั่งเสื้อแดง ก็อยากจะพูดถึงว่า วันนี้เขามีสถานีโทรทัศน์ก็พยายามตั้งสถานีมาเพื่อจะปราศรัยโจมตีพันธมิตรฯ ซึ่งผมถามว่าการตั้งสถานีมาเพื่อจะโจมตีพันธมิตรฯ อย่างเดียวนั้น มันเป็นสถานีแบบไหน เพราะว่าการตั้งสถานีมันจะต้องทั้งออกข่าวทั้ง 2 ฝ่าย ต้องเสมอภาคพอสมควร อย่างเราเห็นหลายสถานีที่ออกอากาศทางดาวเทียม ทางเคเบิล เขาก็จะพูดกัน ทั้ง 2 ฝ่าย อาจจะมีการเหลื่อมล้ำทางด้านคำพูดบ้าง แต่ก็ถือว่าแสดงออกทั้ง 2 ฝ่าย แต่รายการของสถานีนี้คือพูดโจมตีอย่างเดียว โจมตีรัฐบาล น้อยกว่าโจมตีพันธมิตรฯ โดยหลักทั่วไปรัฐบาลจะตกเป็นฝ่ายที่ถูกตรวจสอบ ถูกโจมตีมากกว่า

วันนี้ก็ต้องพูดถึงรัฐบาล ต่อจากพี่มาลีรัตน์ เมื่อสักครู่ว่า รัฐบาลนั้นวันนี้ก็ถูกเขาเล่นเกมภายใน โดยเฉพาะรัฐมนตรีหลายๆ ท่าน จะพูดถึงรัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องปลากระป๋องเน่า ก็ต้องเห็นใจ ตอนแรกผมเห็นว่ารัฐมนตรีจะไม่รู้เชียวเหรอว่าปลากระป๋อง มันหมดอายุไม่หมดอายุ ก็ต้องไปดูใต้กระป๋อง ก็จะมีวันผลิต วันหมดอายุ ซึ่งผมก็เคยไปถามเจ้าของโรงงานที่ผลิตปลากระป๋อง บอกว่า ไอ้ที่เน่ามันมีอยู่ คืออาจจะไม่หมดอายุ แต่เพียงว่ากระบวนการผลิต หลังจากผลิตแล้วถ้านำมาบริโภคเลย มันจะดูหืน ดูคาว เหมือนจะเน่า แต่จริงๆ ยังไม่หมดอายุ ยังไม่เน่า เพียงแต่ว่า ตัวซอสมะเขือเทศมันยังไม่เข้าไปยุ่ยในตัวเนื้อปลา ทำให้ปลานุ่มหอมอร่อย

แต่พอมาตรวจสอบจริงๆ แล้ว ปรากฏว่าก็เป็นการ ถ้าเป็นเกม ก็คือการวางสนุ้ก ให้รัฐมนตรีรับผิดชอบ ถามว่า วางสนุ้กอย่างไร พี่น้องท่านผู้ชม พี่น้องพันธมิตรฯ ลองตรวจสอบตามผมดูว่า ในกระทรวงแต่ละกระทรวงจะมีบริษัทที่มารับผิดชอบในการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งผมเคยพูดว่าสมัยรัฐมนตรีมหาดไทยที่มีการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพเวลาน้ำท่วม เวลาซื้อเรือท้องแบน เวลาน้ำท่วม เรือท้องแบนไม่ไป พอน้ำลดเรือท้องแบนไป ไม่รู้จะไปพายตรงไหน เรือต้องพึ่งน้ำ ไม่ใช่น้ำพึ่งเรือ

แล้วพอมาดูรัฐมนตรีชุดนี้ เราก็ตรวจสอบว่า รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องปลากระป๋อง ลองไปตรวจสอบย้อนหลังดูว่า มีบริษัทที่จัดซื้อจัดจ้างเกี่ยวกับเรื่องถุงยังชีพ เรื่องภัยหนาว ฝนแล้ง น้ำท่วม พอไปตรวจสอบ กลับกลายเป็นว่าบริษัทมีเป็น 10 บริษัท แต่บริษัททั้ง 10 เป็นบริษัทในเครือของคนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ.2546

ผมถามว่า ปี 2546 ใครเป็นรัฐบาล แล้วบริษัทนี้จดทะเบียนเดือนมิถุนายน เดือนกรกฎาคม มีการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ว่าจะเป็นปลากระป๋อง ผงซักฟอก น้ำดื่ม ผ้าห่ม เรือท้องแบน หรืออะไรก็ตาม มีเป็น 10 บริษัท เปลี่ยนชื่อบริษัทไปเรื่อย เป็น 10 บริษัท แต่บริษัทเหล่านี้มีคนอยู่เพียง 2 ตระกูล ที่เป็นกรรมการบริหารบริษัท แล้วพอสืบเข้าไปลึกๆ ก็จะรู้ว่าเจ้าของบริษัทคนนี้อยู่ที่โคราช แล้วคนที่อยู่โคราชก็เป็นเจ้าของบริษัทแม่ที่มาตั้งบริษัทลูก แล้วบริษัทลูกเหล่านี้ก็รับสัมปทานจัดซื้อจัดจ้าง หรือแม้แต่โครงการวางท่อ ทำถนน ลอกคลอง หรือแม้แต่โครงการที่ก่อสร้าง ก่อสร้างสถานที่ราชการ อบต. อบจ.ก็เป็นบริษัทเหล่านี้

แล้วถามว่า บริษัทเหล่านี้จดทะเบียนเมื่อไหร่ จดทะเบียนประมาณปี 45, 46 แล้วถามว่าใครได้รับสัมปทาน ใครได้รับจัดซื้อจัดจ้าง ก็คือบริษัทเหล่านี้ แล้วบริษัทเหล่านี้ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาล แล้วถามว่ารัฐบาลในปี 45, 46 เป็นใครนะครับ คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้วนะครับ

แล้วถามว่าวันนี้เนี้ยผมอยากจะให้รัฐมนตรีที่มีปัญหาเรื่องปลากระป๋องเนี้ย สอบย้อนหลังไปดูว่า บริษัทที่จัดซื้อจัดจ้างที่ผมพูดถึงนั้น ตั้งแต่ปี 46 นั้น มันมีความใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลจริงหรือไม่ หรือแม้ขณะว่าทุกวันนี้บริษัทที่จัดซื้อจัดจ้างก็ยังเป็นคนที่ใกล้ชิดกับอดีตที่เคยเป็นรัฐบาลอยู่

ทำให้วันนี้เนี้ยเป็นการดิสเครดิตรัฐบาลหรือรัฐมนตรีของประชาธิปัตย์ หรือรัฐบาลอภิสิทธิ์ ถามว่าก็ต้องเห็นใจ แต่ถามว่าความกล้าของรัฐมนตรีก็ต้องกล้าออกมา ออกมาตรวจสอบย้อนหลังดูว่าไม่ต้องไปถึงปี 46 หรอก เอาแค่ปี 48, 49 เนี้ย ก็จะเจอแล้วว่าบริษัทเหล่านี้ เป็นบริษัทที่ใกล้ชิดกับใคร

พี่น้องจำได้ไหมว่าเคยมีปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง แล้วมีการเอาถุงยังชีพไป ข้าวสาร 5 กก.นะครับ แต่ไปชั่งจริงๆ 3 กิโลครึ่ง 4 กก. แล้วหนำซ้ำยังมีมอด มีอะไรเต็มไปหมด ไม่สามารถที่จะหุง ขนาดล้างซาวน้ำ 3-4 ครั้ง ก็ยังไม่สามารถที่จะหุงกินได้ ไม่สามารถที่จะทานได้ แล้วถามว่าลองไปสือดูซิว่าไอตอนที่มันเกิดปัญหานั้น บริษัทนี้เป็นบริษัทของเจ้าของที่อยู่ที่โคราชหรือไม่ แล้วเป็นคนที่ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลหรือไม่

นี่คือ ระบอบที่เราบอกว่าการเมืองเก่า ถ้าสอบจริงๆ เข้าไปลึกๆ ผมถามว่าไม่ยาก คนที่มีอำนาจรัฐ มีเจ้าหน้าที่อยู่ในกำมือเนี้ย จะหาได้ง่าย ผมเป็นประชาชนคนธรรมดา ผมยังรู้เลย ถ้าให้ผมเอ่ยชื่อผมยังเอ่ยได้เลยว่า เจ้าของบริษัทแรกที่มีคำว่าเบสท์ฟอเรสต์ข้างหลังเนี้ย ชื่ออะไร บริษัทตั้งอยู่เลขที่เท่าไหร่ มีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่นะครับ ตั้งสำนักงานเมื่อไหร่ บริษัทลูก บริษัทแม่ เชื่อมต่อกับใคร เข้าไปเจรจาจัดซื้อจัดจ้างกับใคร ใครเป็นคนอนุมัติ หาเจอทั้งนั้นแหละครับ ประชาชนคนธรรมดานะ

ฉะนั้นแล้วรัฐบาลอภิสิทธิ์อย่าปล่อยนะครับ ถ้าจะไปสู่ข้างหน้า จะอยู่ยาวๆ จะอยู่นานๆ ให้พี่น้องรัก ให้เกิดความเป็นธรรม ต้องรีบแก้ไข ต้องรีบตรวจสอบนะครับ หรือถ้าไม่รู้จริงๆ นะครับ ผมเชื่อว่าคนในรัฐบาลประชาธิปัตย์ หรือแม้แต่ในกลุ่มเนวินรู้จักผม รู้จักแกนนำหลายๆ ท่าน แล้วมีความสนิทนะครับ ขอข้อมูลได้ ถามได้นะครับ หรือจะชวน เชื้อเชิญร่วมกันตรวจสอบก็ได้นะครับ

นี่คือเรื่องของปลากระป๋องนะครับ ซึ่งถามว่าทำไมต้องเป็นปัญหาใหญ่ เป็นปัญหาใหญ่เพราะว่าคนเดือดร้อนจากภัยน้ำท่วม ภัยหนาว ผ้าห่มก็บาง ปลากระป๋องก็เน่า หมายความว่าไปซ้ำเติมเขาอีกนะครับ แต่จะเป็นความผิดของใครนั้น เป็นความผิดของรัฐมนตรี เป็นความผิดของคนที่จัดซื้อจัดจ้าง หรือคนที่ดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องออกมาชี้แจงให้พี่น้องประชาชนเขารับทราบ ถึงข้อเท็จจริง

ถ้าผิดรัฐมนตรีต้องพร้อมที่จะลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ เราเคยพูดหลายครั้งว่าประเทศเพื่อนบ้าน แค่เขาสั่งเนื้อมาแล้วมีเชื้อที่ติดมา ตรวจสอบพบเล็กน้อยเนี้ย เขาก็ตัดสินใจลาออกนะครับ ฉะนั้นแล้วถ้าไม่ตรวจสอบ ถ้ามีปัญหาก็ต้องรีบลาออก แต่ถ้าไม่ลาออกรู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เหมือนที่ผมพูดต้องรีบไปตรวจสอบ แล้วก็มาชี้แจงกับพี่น้องประชาชน แล้วต้องดำเนินการกับคนที่จัดซื้อจัดจ้าง หรือคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้ แล้วจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน

อีกส่วนหนึ่งก็คือ เรื่องของการที่มีงบในการที่จะไปให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ก็บอกได้เลยว่ายังไม่โปร่งใสนะครับ เราเคยพูดกันไว้แล้วว่า เวลามีผ้าห่ม เวลามีของไปแจก พี่น้องครับ คนจนขับรถเบนซ์มารับผ้าห่ม คนจนขับรถเก๋ง ขับรถกระบะมารอรับข้าว มารอรับผ้าห่ม แล้วถามว่าเงินผู้สูงอายุ คนที่ได้รับเงินผู้สูงอายุก็คือ แม่ของผู้อำนวยการโรงเรียน พ่อของผู้ใหญ่ พ่อตาของ อบต. แม่ยายของกำนัล แต่คนที่จนจริงๆ คนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ กลับไม่มีรายชื่อได้รับ

เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องรีบในการที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การเมืองใหม่ ถามว่าการเมืองใหม่สำหรับแนวคิดของผมนั้น ผมอยากจะนำเรียนไปยังพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า การเมืองใหม่ อย่าไปคิดไปไกลมาก การเมืองใหม่คือหนึ่ง ถ้าเราเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ในระบบตัวแทน เราก็ต้องสรรหาคนที่มีความรู้ ความสามารถที่เราคิดว่าเก่ง ที่เราคิดว่ากล้า ที่เราคิดว่าเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้ สุจริต โปร่งใส เราก็สนับสนุนเขา แล้วก็ให้เขาลงเป็นตัวแทนของพี่น้องในการลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ในระดับจังหวัด ในระดับประเทศนะครับ

แล้วก็ไม่ต้องไปหวังอะไรมาก ชนะก็เข้าสภาไป แพ้ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้คนๆ นั้นได้รับการสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนจริงๆ วันนี้การเมืองเก่า เวลาไปขึ้นพูดบนเวที พี่น้องครับ ผมเสียสละเพื่อพี่น้องประชาชน ผมถามว่า พี่น้องรู้จักไหม ไม่รู้จัก ไม่รู้มาอย่างไร พอพ่อถูกตัดสิทธิ์ ก็เอาลูกลง พอสามีถูกตัดสิทธิ์ เอาภรรยาลง พอสามีถูกตัดสิทธิ์ ภรรยาถูกตัดสิทธิ์ เอาลูกลง พอลูกถูกตัดสิทธิ์ เอาหลานลง แล้วถ้าหลานถูกตัดสิทธิ์ เผลอๆ 15 ขวบ อาจจะลงได้สงสัยให้ลงหมด ใช่ไหมครับ

นี่คือการเมืองเก่า แต่การเมืองใหม่ เราอยากให้มีตัวแทนแต่ละจังหวัด ดูว่าใครเหมาะสมเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน สนับสนุนไป ทั้งแรงกายแรงใจแรงทุน แล้วก็ให้เขาได้มีโอกาสไปทำหน้าที่ นั่นคือเรื่องแรกที่อยากจะให้เป็นเรื่องการเมืองใหม่

เรื่องที่ 2 การเมืองใหม่ก็คือ อยากให้ประชาชนเข้มแข็ง กล้าที่จะตรวจสอบ กล้าที่จะติดตามตรวจสอบตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้านทำอะไร มีโครงการอะไรบ้าง ประชุมประชาคมเป็นอย่างไรบ้าง อบต.ทำอย่างไร จังหวัดทำอย่างไร ทุจริตหรือไม่ ถนน คอนกรีต ลาดยาง ได้มาตรฐานหรือไม่ ตรวจสอบให้ได้ ชี้นำ ชี้แจง ตรวจสอบ แล้วก็จะทำให้การเมืองใหม่เกิดขึ้น ถามว่านี่คือการเมือง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล น้ำมันขึ้นทุกคนได้รับผลกระทบ ของแพงขึ้น ทุกคนได้รับผลกระทบ เพราะว่ามาจากการเมือง แม้แต่คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องมาจากการเมือง คนที่เป็นรัฐมนตรีก็มาจากการเมือง เราหนีเรื่องการเมืองไม่พ้น

ฉะนั้นการเมืองใหม่ก็คือ ฝากไว้ 2 เรื่องพอ เรื่องแรกหาตัวแทนของท่านให้ได้ ในการที่จะส่งเข้าไปทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชนในส่วนของท่าน ในภูมิภาคของท่าน ข้อที่ 2 อย่าปล่อยให้เรื่องทุจริต คดโกงหลุดลอยไป เราต้องตรวจสอบ กล้าออกมา เหมือนที่วีรชนของเรากล้าที่จะออกมาชุมนุม แล้วรู้ว่ามาแล้วอาจจะบาดเจ็บ อาจจะโดนระเบิด อาจจะเสียชีวิต ก็ยังพร้อมที่จะออกมาต่อสู้ แล้ววันนี้อย่าให้วีรชนเล่านั้นต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เขาต่อสู้เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องทุจริต เรื่องการคอร์รัปชั่น

ฉะนั้นแล้วการเมืองใหม่ขอ 2 เรื่องไว้ก่อน เรื่องแรก หาตัวแทนให้ได้ 2.ร่วมกันตรวจสอบการทุจริต การทำงานตั้งแต่วงข้าราชการเล็ก หรือแม้แต่ในอำเภอ แม้กระทั่งเจอคนเรียกเก็บเงิน หรือคนเลือกปฏิบัติ เราก็ต้องร่วมตรวจสอบ ร่วมกันดูแล นี่คือการเมืองใหม่ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้าพูดลึกไปกว่านั้นก็ไม่สามารถที่จะทำได้ ก็จะเป็นปัญหา ตัวผมเองอยากจะให้ได้แค่ 2 เรื่อง ถ้าเรามีตัวแทนที่ดีแล้ว มีการตรวจสอบแล้ว ทุกอย่างมันจะโปร่งใส

และอยากจะฝากเป็นกำลังใจให้พี่น้องพันธมิตรฯ ที่จะจัดกิจกรรมจังหวัด ซึ่งวันที่ 14 ก็เป็น จ.อุดรธานี ผมคิดว่าจะเดินทางไปร่วมด้วย และอีกหลายจังหวัด ก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ อาจจะมีปัญหาบ้าง เข้าใจคลาดเคลื่อน ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนหมู่มาก ฉะนั้นแล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้พันธมิตรฯ ทุกท่านยืนหยัดสู้ต่อไป สวัสดีครับ







กำลังโหลดความคิดเห็น