ปธ.สภาฯ มั่นใจประชุมกรอบอาเซียนฉลุย ชี้การอภิปรายถือเป็นเอกสิทธิ์ของฝ่ายค้าน ไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย แนะสื่อมวลชนใช้ดุลพินิจกันเอง เชื่อ “บุญจง”ไม่ผิดฐานแนบนามบัตรพร้อมผ้าห่ม ไม่หวั่นแม้ซักฟอกกันเอง
วันนี้ (27 ม.ค.) นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนว่า เนื่องจากใกล้เวลาที่กำหนดแล้ว ไม่ใช่ปิดประชุมเพื่อหนีการนับองค์ประชุมแต่อย่างใด และการประชุมก็เป็นไปด้วยความเรียยร้อยดี เป็นไปตามเนื้อผ้าและเนื้อหาที่กำหนดไว้ สำหรับการอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นอย่างไรสื่อก็รู้ดีอยู่ ส่วนการประชุมในวันนี้ตนเห็นว่าคงไม่มีอะไร เพราะ ส.ส.ทุกคนคงมีความรับผิดชอบ คงไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น และที่สำคัญทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ มุ่งแก้ปัญหาของประเทศ และพิจารณากรอบข้อตกลงให้เสร็จสิ้น เนื่องจากในหลายประเทศพิจารณาเสร็จแล้ว แต่ประเทศไทยยังคงค้างอยู่
เมื่อถามว่าวันนี้จะพิจารณากรอบข้อตกลงอาเซียนเสร็จหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่รู้ว่าเสร็จภายในวันนี้หรือไม่ แต่หากพิจารณาไม่เสร็จคงต้องเลื่อนการพิจารณางบประมาณกลางปี 2552 ออกไปก่อน ส่วนจะเรียกฝ่ายค้านมาหารือหรือไม่นั้น ตนไม่มีอำนาจทำได้
เมื่อถามว่าจะขอความร่วมมือกับฝ่ายค้านให้อภิปรายเน้นรายละเอียดมากกว่าตัวบุคคลหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า การอภิปรายถือเป็นเอกสิทธิ์ของฝ่ายค้าน คงไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย แต่ผู้อภิปรายหากมีการละเมิดตัวบุคคล มีการหมิ่นประมาท คงต้องรับผิดชอบตามกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่าวันนี้การประชุมจะวุ่นวายหรือไม่ เนื่องจากวันนี้นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ จะมาชี้แจง นายชัย ตอบว่า คงไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย แต่ทั้งนี้จะพยายามคุมสถานการณ์ให้ปกติ
นายชัยกล่าวต่อถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีความเห็นให้สถาบันพระปกเกล้าดูแลเรื่องการปฏิรูปการเมืองนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง และนายกรัฐมนตรีไม่เคยหารือเรื่องนี้ เพราะฝ่ายบริหารคงทำหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ไม่ต้องหารือกับฝ่ายนิติบัญญัติ
เมื่อถามว่าเป็นห่วงกรณีของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่น่าห่วง เพราะทุกคนก็แจ้งบัตรแบบนี้กันทั้งนั้น เป็นเรื่องธรรมดา แต่หากมีการทุจริตจริง ก็ต้องทำตามกฎหมาย เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะมีความเป็นธรรม ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่อต่อ ป.ป.ช. ก็เป็นสิทธิ์ของเขา
เมื่อถามว่าอดีตเคยอยู่ฝ่ายเดียวกันแต่กลับต้องมาซักฟอกกันเอง นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมืองอย่าว่าแต่อยู่ฝ่ายเดียวกันเลยขนาดพี่น้องยังแย่งมรดกกันเลย
