xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” เยือนลาวชื่นมื่น ยันเข้าร่วมประชุมอาเซียนซัมมิตแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลาวต้อนรับ “มาร์ค” อบอุ่น ชื่นชมนั่งเก้าอี้นายกฯ ยืนยันเข้าร่วมการประชุมอาเซียนซัมมิตแน่นอน พร้อมร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนของทั้งสอง ปท.ขณะเดียวกัน จะขยายความร่วมมือด้านการศึกษา วิชาการ และการท่องเที่ยว ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกล่าวถวายพระพรแด่ในหลวง-ราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วย

วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการกองทัพบก และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมี ดร.นาม วิยะเกด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ทำหน้าที่รัฐมนตรีเกียรติยศ รอให้การต้อนรับ

นายกรัฐมนตรีร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์นักรบนิรนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี และนายบัวสอน บุปผาวัน นายกรัฐมนตรีลาว ร่วมหารือเต็มคณะ ประกอบด้วย บุคคลระดับสูงของทั้งสองฝ่าย อาทิ ดร.ทองลุน สีสุลิด รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว ดร.นาม วิยะเกด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว เป็นต้น บรรยากาศการหารือเป็นไปอย่างอบอุ่นและด้วยความยินดี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับ สารแสดงความยินดีในโอกาสรับตำแหน่ง และบัตรอวยพรปีใหม่ ไทยและส.ป.ป.ลาว มีความสัมพันธ์พิเศษเปรียบเสมือนญาติมิตร ความร่วมมือสองประเทศอยู่พื้นฐานเดียวกัน คือ “ความมั่งคั่งและความมั่นคงของลาว คือ ความมั่นคั่งและความมั่นคงของไทย” ไทยพร้อมสานต่อการทำงาน และยืนยันความร่วมมือต่างๆ ครอบคลุม ความร่วมมือด้านพลังงาน-ไฟฟ้า การพัฒนาเครือข่ายเส้นทางคมนาคม การค้า และการลงทุน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวชื่นชมบทบาทของลาวในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งความสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม GMS เมื่อกลางปีที่ผ่านมา และการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 17 และภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน และ ACMECS

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรีลาว ยังได้มีการหารือและติดตามความก้าวหน้าของความร่วมมือในประเด็นต่างๆ ดังนี้

- การพัฒนาเส้นทางคมนาคม โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาจะเสด็จฯเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการเดินรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ เส้นทางรถไฟไทย-ลาว ระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคม พร้อมทั้งในพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) สะพานข้ามแม่น้ำโขง แห่งที่ 3 สำหรับโครงการก่อสร้างต่างๆ อาทิ โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) จะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำข้อตกลงทางการเงินกับฝ่ายจีน โครงการรถไฟไทย-ลาว ระยะที่ 2 ไทยพร้อมให้ความสนับสนุนการก่อสร้างเส้นทางรถไปต่อจากท่านาแล้ง ถึงนครหลวงเวียงจันทน์ ในรูปแบบเงินให้เปล่าและเงินกู้ 30:70 และการส่งเสริมการใช้ถนนเส้นทาง R3 สะหวันนะเขต-มุกดาหาร

- ความร่วมมือด้านพลังงานและไฟฟ้า ไทยพร้อมที่จะรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการต่างๆ ใน ส.ป.ป.ลาว ตามที่ได้กำหนดไว้ ในระดับราคาที่เหมาะสม และสอดคล้องกับค่าพยากรณ์ความต้องการไฟฟ้าของไทย

- การค้าและการลงทุน เร่งรัดการเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุน ไทยยังคงเป็นประเทศคู่ค้าและนักลงทุน อันดับ 1 ใน ส.ป.ป.ลาว ทั้งสองเห็นพ้องที่จะให้มีการขยายความร่วมมือการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีไทย ย้ำว่า นักลงทุนจะต้องมีส่วนช่วยเหลือพัฒนาสังคมและความเป็นอยู่ของปรชาชนในพื้นที่ด้วย

- ความร่วมมือด้านแรงงาน นายกรัฐมนตรีลาว ขอบคุณที่ไทยให้ความสนับสนุน และดูแลแรงงานลาวที่เข้าไปทำงานในไทย อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ขอให้ไทยเร่งรัดกลไกการพิสูจน์สัญชาติแรงงานลาว เพื่อให้เป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการพิจารณาออก หนังสือผ่านแดน และการให้วีซ่า อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะไม่กระทบต่อความร่วมมือด้านแรงงาน

- การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ให้มีการแล้วเสร็จตามที่ได้กำหนดไว้ คือ ทางบก ภายในปี 2009 และทางน้ำ ภายในปี 2011 ไทยยังกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-ลาว (JBC) ครั้งที่ 9 ในปี 2009 เพื่อร่วมมือและเป็นกลไกการรักษาความสงบเรียบร้อยตามบริเวณชายแดน เพื่อป้องกัน การลักลอบการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้ง 2 ประเทศยังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหัวเมือง ให้มีการแลกเปลี่ยนการเดินทางไปมาระหว่างกันในทุกระดับ

นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกความร่วมมือด้านการศึกษา การท่องเที่ยว และกีฬา ซึ่งเป็นสาขาที่รัฐบาลไทยจะให้ความสนับสนุน ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นการเน้นพัฒนาสมรรถนะ และทรัพยากรมนุษย์ เพื่อส่งเสริมทัศนคติและมิตรภาพระหว่างกันอย่างยั่งยืน ซึ่งไทยให้การสนับสนุน ส.ป.ป.ลาว ในการเป็นเจ้าภาพแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ในปี 2552 ด้วย

ส่วนปัญหาม้งลาวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จะดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว แบบทวิภาคี ซึ่งเป็นไปตามความต้องการของรัฐบาลทั้งสองประเทศ สำหรับปัญหาเรื่องการนำเข้าและส่งออกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์นั้น รัฐบาลได้กำชับให้หน่อยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล และให้ดำเนินการตามที่ได้มีการตกลงกัน

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีลาว กล่าวยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในไทย ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-1 มีนาคม และการประชุมอาเซียนกับประเทศคู่เจรจาระหว่างวันที่ 10-12 เมษายน นี้ด้วย ทั้งยังเห็นว่า อาเซียนยึดหลักการความร่วมมือบนพื้นฐานการไม่แทรกแซง ซึ่งและกันและความตกลงแบบฉันทามติ ด้วย

ต่อมาเวลา 15.00 น.นายกรัฐมนตรีเข้าเยี่ยมคารวะ นายทองสิง ทำมะวง ประธานสภาแห่งชาติ ซึ่งได้กล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรี และคณะในโอกาสเดินทางมาเยือน ส.ป.ป.ลาว และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในระบบสภา และประชาธิปไตย พร้อมทั้งกล่าวถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันถึงความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ทั้งด้านการค้าและการลงทุน และการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ของลาว นอกจากนี้ จะได้มีการขยายความร่วมมือด้านการศึกษา วิชาการ และการท่องเที่ยว ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

เวลา 16.10 นายกรัฐมนตรีไทย และนายกรัฐมนตรีลาว ร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารกีฬาอเนกประสงค์มิตรภาพลาว-ไทย ช่วงค่ำนายกรัฐมนตรีลาวได้เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำ ก่อนนายกรัฐมนตรีและคณะ จะเดินทางออกจาก ส.ป.ป.ลาว ในเวลา 20.45 น.และเดินทางถึงไทยในเวลา 22.20 น.ในวันเดียวกัน

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือทวิภาคีกับ นายบัวสอน บุปผาวัน นายกรัฐมนตรีลาว ณ ศูนย์การร่วมมือสากลและการฝึกอบรม เป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ว่า ได้เล่าสถานการณ์ในประเทศ โดยเฉพาะความคืบหน้าในการนำพาประเทศกลับเข้าสู่ภาวะปกติให้นายกรัฐมนตรีทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีลาวมีความเข้าใจ และยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียนซัมมิต) ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ และ 1 มีนาคม ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ และแสดงความมั่นใจว่า การทำงานในกรอบอาเซียนจะเดินหน้าต่อไปได้

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.เดินหน้ายื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อคัดค้านนายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนประเทศไทยในการประชุมดังกล่าว ว่า เป็นสิทธิของ นายจักรภพ ที่จะเคลื่อนไหว แต่ขณะนี้ทุกประเทศตอบรับมาแล้วว่าจะมาร่วมประชุม ซึ่งการประชุมอาเซียนซัมมิต จะเป็นผลประโยชน์กับคนไทยทั้งประเทศ และทั้งภูมิภาค ดังนั้น ควรร่วมมือกันที่จะทำให้การประชุมเดินหน้าต่อไป

นายกรัฐมนตรี ยืนยันด้วยว่า การประชุมอาเซียนซัมมิต จะจัดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่เปลี่ยนแปลง และขณะนี้กำลังตกลงเรื่องวันประชุมประเทศคู่เจรจาทั้งอาเซียน+3 และอาเซียน+6 ที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายน ว่า จะเป็นวันที่เท่าไร เพราะช่วงเดือนดังกล่าว ไทย และลาว จะติดเทศกาลสงกรานต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการหารือ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีลาว ที่ส่งสารมาแสดงความยินดี เมื่อครั้งที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และยังได้ส่งบัตรอวยพร เนื่องในเทศกาลปีใหม่ให้อีกด้วย

ขณะที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ปัญหาผู้อพยพชาวม้งที่อยู่ในประเทศไทย ประมาณ 3,800-4,000 คน ขณะอยู่ระหว่างขั้นตอนการส่งกลับ ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหากคนใดต้องการไปประเทศที่ 3 ก็ให้มีการกรอกแบบฟอร์มไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับประเทศนั้นๆ ว่าจะตอบรับหรือไม่







กำลังโหลดความคิดเห็น