รมต.สำนักฯ ยืนยันจะไม่นำประเด็น “นช.แม้ว” โฟนอินผ่านดีทีวี มาสร้างความสร้างความแตกแยกในขณะนี้ เพื่อขอเวลารัฐบาลทำงาน กระตุกต่อมสำนึกเจ้าของสำนึกให้คำนึงถึงความเหมาะสม แพร่ภาพนักโทษหนีคดีจ้อหน้าจอ มั่นใจวิสัยทัศน์ “มาร์ค” ไม่แพ้อดีตนายก
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสื่อ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโฟนอินเข้ามาในสถานีโทรทัศน์ดีสเตชั่น (ดีทีวี) หลังรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ถือว่าทำได้ ส่วนจะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่นั้น ไม่ได้เป็นห่วงอะไรเพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามาหลายครั้งแล้วและมีการติดต่อคนที่ยังสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ มาโดยตลอดซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากที่คนรู้จักกันจะคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะโฟนอินเป็นเรื่องวิสัยทัศน์และนโยบาย เกรงว่าจะเกิดการเปรียบเทียบหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะที่ผ่านมีการเปรียบเทียบว่านายกฯ ไปลอกนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหลังจากนี้ประชาชนจะได้มีข้อมูลมากขึ้น และรัฐบาลจะได้ทำงานด้วยความระมัดระวังขึ้น ถามอีกว่าการโฟนอินเป็นการตั้งใจให้ประเทศเกิดความสั่นคลอนหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า มีความตั้งใจหรือไม่ไม่มีใครทราบ อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ได้กังวล และจะไม่จัดตั้งหน่วยงานใดมาดูแลเป็นพิเศษ เพราะปกติก็ทำกันอยู่แล้ว โดยประเด็นที่พูดก็มีการบันทึกเป็นหลักฐานอยู่แล้ว ซึ่งถ้าผิดก็ว่าไปตามกฎหมาย แต่ก็ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังหนีคดีอยู่การมาออกทีวีจะเหมาะสมหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องคิดเอง ส่วนรัฐบาลทำได้แค่สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดี ซึ่งการโฟนอินนั้นต้องอยู่ในความรับผิดชอบของสถานี
ส่วนผู้ดำเนินรายการจะมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบหรือไม่ เพราะรู้ที่อยู่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มาให้ข้อมูลกับตำรวจ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ก็ต้องเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
“ต้องยอมรับว่าชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นที่ยอมรับของคนอยู่มาก แต่ประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากให้ประเทศสงบสุข และพร้อมให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศก็มีมากเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลจะไม่หยิบยกประเด็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาสร้างความแตกแยก” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว