กกต.ยกคำร้อง “อภิสิทธิ์” หนีเกณฑ์ทหาร ระบุ ไม่ได้อยู่ในบทบัญญัติต้องห้ามการสมัคร ส.ส.เห็นควรให้ยุติเรื่อง และไม่มีเหตุที่จะต้องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
นายประพันธ์ นัยโกวิท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต.ได้มีการประชุมพิจารณากรณีคำร้องของกลุ่มผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนร่วมปลุกจิตสำนึกประชาธิปไตย กรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี อาจขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหาร โดย กกต.ได้พิจารณาเห็นควรให้ยุติเรื่องและยกคำร้อง เนื่องจากข้อกล่าวหาดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในบทบัญญัติต้องห้ามการสมัคร ส.ส.จึงไม่ได้เป็นเหตุให้การเป็นสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลง
“สมาชิกภาพ ส.ส.จะสิ้นสุดนั้น กฎหมายได้กำหนดว่า ต้องมีโทษจำคุก หรือถูกไล่ออกจากตำแหน่งราชการ เพราะเรื่องทุจริต ดังนั้น กรณีของ นายอภิสิทธิ์ จึงยังไม่เข้าข่ายต้องห้าม เมื่อสมาชิกภาพของ ส.ส.ยังไม่สิ้นสุดลงความเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ถือว่ายังไม่สิ้นสุดด้วย ซึ่ง กกต.ก็ได้พิจารณาเห็นว่าควรยุติเรื่อง จึงให้ยกคำร้อง ซึ่งไม่มีเหตุที่ต้องส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา”
อนึ่ง กรณี นายอภิสิทธิ์ ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารนั้น ถูกกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย หรือพลังประชาชนเดิม รวมทั้งกลุ่ม นปช.นำไปเป็นประเด็นโจมตี นายอภิสิทธิ์ ตั้งแต่เริ่มมีการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบ โดยเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจาก นายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถเดินทางมาเข้ารับการเกณฑ์ทหารได้ตามกำหนดในปี 2529 เนื่องจากยังศึกษาอยู่ในต่างประเทศ แต่ต่อมาในปี 2530 ได้สมัครเข้ารับราชการทหารด้วยการเป็นอาจารย์โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นเวลา 2 ปี และได้รับพระราชทานยศร้อยตรี ซึ่งแม้ว่าจะไม่ผ่านการตรวจเลือก ก็ถือว่าได้เข้ารับราชการทหารแล้ว ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เคยให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องนี้จบไปนานแล้ว
