“สดศรี” ยอมรับการตรวจสอบพรรคการเมืองรับบริจาคเงินใต้โต๊ะ เพื่อผลประโยชน์ตอบแทน เป็นเรื่องยากที่จะตวจสอบ เรียกร้องสื่อและประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาและส่งข้อมูลให้ กกต.ตรวจสอบ ลั่นความผิดถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (4 ม.ค.) นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กล่าวถึงเรื่องการบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ จะมีการบริจาคแฝงหรือไม่ เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มทุนที่บริจาคให้กับพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด ดูเหมือนว่าจะเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้พรรคประชาธิปัตย์ต้องรีบหาทางช่วยกลุ่มเหล่านี้ก่อน ว่า เรื่องนี้ กกต.จะตรวจสอบก็ต่อเมื่อมีการร้องเรียนเข้ามา การบริจาคเรามองทุกพรรคการเมือง มีความสุจริตในการบริจาคทั้งนั้น แต่ถ้าร้องกันขึ้นมา ว่า มีเงื่อนงำหรืออะไรแอบแฝง หรือบริจาคโดยนิติบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีการแฝงไว้โดยจดทะเบียนในประเทศไทย กกต.จะตรวจสอบที่มาของเงินต่างๆ ว่า มีแหล่งที่มาอย่างไร ถ้าไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถูกยุบพรรค หัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการจะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีการบริจาคของบางคนที่อาจบริจาคต่อเนื่องเพื่อซื้อตำแหน่ง หรือบางคนไม่เคยบริจาค แต่มาบริจาคแล้วได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี นางสดศรี กล่าวว่า การบริจาคที่มีหลักฐานชัดเจน หากเป็นนิติบุคคลต้องมีการประชุมผู้ถือหุ้น มีการลงไว้ในรายงานการประชุม และพรรคการเมืองต้องประกาศให้สาธารณชนได้รับทราบ แต่การบริจาคใต้โต๊ะเป็นการยากที่ กกต.จะตรวจสอบไปถึง เราตรวจสอบได้เฉพาะหลักฐานที่ทางพรรคการเมืองนั้นๆ แจ้งมาเท่านั้น คนที่เห็นว่ามีข้อมูลก็สามารถแจ้งมาที่ กกต.ได้
“การบริจาคใต้โต๊ะไม่ได้เป็นปัญหาการทำงานของ กกต.แต่ว่าเป็นปัญหาต่อประเทศชาติ ผู้ที่ได้เงินมาแล้วมีการตอบแทนกันโดยตำแหน่ง สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นบ่อนทำลายระบอบประชาธิปไตย จุดนี้คงเป็นเรื่องที่ต้องดูและระมัดระวังกัน” นางสดศรี กล่าวและว่า ที่มีการมองว่า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์จำนวนมาก เพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหรือช่วยกลุ่มดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนและสื่อจะต้องช่วยกันตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ตั้งข้อสงสัยหรือไม่ การนำคนเข้าสู่สภาเป็นภารกิจของ กกต.ส่วนการตรวจสอบผู้อยู่ในสภาและทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีก็น่าจะเป็นหน้าที่ของสื่อและประชาชนต้องดูแลและตรวจสอบได้