ส.ส.เพื่อไทย หัวฟัดหัวเหวี่ยง “ชัย” โฟนอินเลื่อนประชุมเป็น 5 โมงเย็น อัดไม่เป็นกลาง พฤติกรรมเอนเอียงเข้าข้าง รบ.ไม่เหมาะนั่งเก้าอี้ ปธ.สภา เย้ยตัวแทนประชาชนอย่ากลัวประชาชน เดือดอีกที่นั่งประชุมปักป้าย “กลุ่มเพื่อไทย” โวยดูถูกไม่รอประชุมแล้ว
วันนี้ (29 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่รัฐสภา พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา สมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร สมาชิกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธนรัฐสภา โฟนอินเลื่อนเวลาการประชุมเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลเป็นครั้งที่ 2 ออกไปเป็นเวลา 17.00 น. โดย พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ตัวประธานรัฐสภาเองก็ไม่มาที่รัฐสภา มีเพียงแต่การโฟนอินเข้ามาว่ายังเจรจากันไม่เรียบร้อยขอเลื่อนการประชุมออกไปอีก ทั้งๆ ที่พวกตนก็มานั่งรออยู่ในห้องประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว ตนเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม เพราะยังไม่เคยเกิดกรณีแบบนี้มาก่อน ดังนั้น หากประธานรัฐสภามีพฤติกรรมแบบนี้ แสดงว่าเอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงไม่เหมาะสมที่จะนั่งตำแหน่งประธานรัฐสภาอีกต่อไป
ด้าน นายจุมพฏ กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ากลุ่มเสื้อแดงนั้นไม่มีอาวุธ และไม่มีการขอตรวจบัตรเข้าออกรัฐสภาเหมือนกลุ่มคนเสื้อเหลือง ดังนั้น หากใครบอกว่ากลุ่มเสื้อแดงมีอาวุธแสดงว่าเป็นการกล่าวเท็จ ส่วนการโฟนอินของประธานรัฐสภานั้นไม่มีข้อบังคับหรือกฎหมายใดให้กระทำได้ เท่ากับไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการซื้อเวลาโกหกประชาชน ประธานรัฐสภาควรจะเข้ามาที่สภา เพราะจะไม่เกิดอันตรายใดๆ ขึ้น ถ้าหากเป็นตัวแทนของประชาชนจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ควรจะกลัวประชาชน
นายจุมพฏ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หลังจากที่ตนเดินเข้าไปดูแผนผังที่นั่งในห้องประชุมก็พบว่าผังที่นั่งของพวกตนซึ่งเป็น ส.ส.อดีตพรคพลังประชาชนที่ถูกยุบพรรคไปนั้นถูกดูถูกเป็นอย่างยิ่ง เพราะป้ายที่นำมาปักไว้นั้นระบุว่าเป็นกลุ่มเพื่อไทย ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยที่พวกตนไม่สังกัดพรรคนั้นจดทะเบียนเป็นพรรคการเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งพวกตนก็ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.หลังจากที่อดีตพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคในวันที่ 2 ธ.ค. ตรงข้ามกับประธานรัฐสภาและกลุ่มเพื่อนเนวินที่ไม่รู้ว่าวันนี้ไปสังกัดพรรคการเมืองไหนแล้วหรือยังไม่รออภิปรายแถลงนโยบาย 5 โมงเย็น
“วันนี้พวกผมคงไม่รอประชุมในเวลา 17.00 น.แล้ว เพราะไม่มีป้ายพรรคเพื่อไทยในห้องประชุม หลังจากแถลงข่าวเสร็จแล้วพวกผมก็จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับเพื่อน ส.ส.ที่พรรคเพื่อไทยทันที”
