“บัญญัติ” ออกโรงเรียกร้องกลุ่มการเมืองหนุนหลัง นปช.ให้คำนึงถึงประเทศชาติและความรู้สึกของประชาชน หากยังเคลื่อนไหวแบบเก่าจะเป็นโทษต่อตัวเองโดยเฉพาะกลุ่มคนที่คิดจะทำงานการเมืองในระยาว
วันนี้ (29 ธ.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี นปช.ปิดสภาไม่ให้รัฐบาลเข้าแถลงนโยบายว่า เชื่อว่าก่อนวันที่ 7 ม.ค.51 รัฐบาลจะสามารถแถลงนโยบายต่อรัฐสภาได้ เนื่องจากเห็นวันนี้แล้วกระแสสังคมส่วนหนึ่งไม่สบายใจ เพราะสังคมต้องการเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้น อยากให้ความขัดแย้งทางการเมืองลดลง การเมืองนิ่ง และสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เมื่อบรรยากาศเป็นอย่างนี้แล้วเชื่อว่าหลายฝ่ายคงไม่สบายใจ ที่สำคัญช่วงนี้เป็นการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ คนไทยโดยทั่วไปถือคติกันว่าอย่าทำอะไรให้เกิดความขัดแย้ง หรือรุนแรง
นอกจากนี้ คนที่หวั่นไหวที่สุด คือ คนในภาคธุรกิจ ถึงขนาดลงทุนออกมาเรียกร้องให้มีการสลับขั้วการเมืองเพราะปกตินักธุรกิจระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่เป็นศัตรูกับฝ่ายการเมือง แต่ต้องออกมาเพราะไม่อยากให้เศรษฐกิจแย่ แต่หลังจากเริ่มตั้งรัฐบาลได้ ภาคธุรกิจก็อุ่นใจมากขึ้น แม้ว่าเริ่มตนจะได้ทีมเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ ตกใจไปพักหนึ่ง แต่หลังจากคนที่อยู่ในกระทรวงเกี่ยวกับเศรษฐกิจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นมือใหม่หัดขับ ก็ได้มีการตั้งทีมที่ปรึกษาที่ความรู้ความสามารถเข้ามาช่วยงาน แสดงว่าพร้อมที่จะรับฟังความเห็นจากผู้ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้งานเดินไปข้างหน้าทุกคนก็มีความหวัง ซึ่งทังหมดจะออกมาเป็นกระแสสังคม จนทำให้กลุ่มการเมืองและกลุ่มเคลื่อนไหวได้ตระหนักในความห่วงใยประเทศด้วย
นายบัญญัติ กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้กลุ่มการเมืองที่ยังออกมาเคลื่อนไหว หรือมีวาระซ่อนเร้นในหัวใจ มีความแค้นอยู่ในหัวใจ ขอให้นึกถึงประเทศชาติและความรู้สึกของประชาชน อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้จะเริ่มไร้น้ำหนักและทำให้ประชาชนถอยออกไปเอง และไม่คิดว่ากลุ่ม นปช.จะมีการระดมมวลชนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นได้ แต่สถานการณ์แวดล้อมทั้งหมดจะทำให้อ่อนกำลังลงไปในที่สุด เนื่องจาก 1-2 ปีที่ผ่านมา สังคมได้สรุปบทเรียนและบอบช้ำมามากแล้วจากความขัดแย้งจาการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และอยากขอร้องผู้สนับสนุนการชุมนุมหากยังเคลื่อนไหวไปตามแนวทางเก่า มีแต่จะเป็นโทษต่อตัวเองมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มคนที่คิดจะทำงานการเมืองในระยาว อย่างไรก็ตาม การออกมาเคลื่อนไหวอะไรอยากให้ดูที่ผลงานของรัฐบาลจะดีกว่าว่าจะทำได้จริงที่รัฐบาลจะแถลงหรือไม่