xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” ฟันธงเสื้อแดงแผ่วปลาย ชี้หัวขวดแตกคอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา
ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ประเมินม็อบเสื้อแดงเริ่มแผ่วปลาย เย้ยแกนนำเริ่มแตกคอ รับไม่ได้ “สามเกลอหัวขวด” เสนอหน้านำขบวน จับตากลุ่มฮาร์ดคอร์ใช้ความรุนแรงสร้างราคา หวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์หน้าบ้าน “ป๋าเปรม” แนะเอาเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ เป็นบทเรียน

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดง หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาในวันแถลงนโยบายว่า น่าจะมีคนเข้าร่วมน้อยกว่าทุกครั้ง เพราะในขณะนี้ขบวนมวลชนเสื้อแดงเริ่มมีปัญหาทั้งการนำและมวลชนพื้นฐาน เพราะแกนนำเริ่มไม่เป็นเอกภาพ เนื่องจากช่วงระยะหลังๆ การนำผูกขาดอยู่กับพิธีกรรายการความจริงวันนี้ ทำให้บทบาทของแกนนำคนอื่นหดหายไป ไม่ว่าจะเป็น นพ.เหวง โตจิราการ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นพ.สันต์ หัตถีรัตน์ ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และอีกหลายคนเริ่มไม่มีบทบาท

ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแกนนำบางกลุ่มไม่ต้องการเอาขบวนการเสื้อแดงไปผูกหรือขึ้นต่อการบัญชาการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มากเกินไป เพราะยิ่งเคลื่อนยิ่งทำให้เกิดแรงต้านจากสังมว่าเคลื่อนไหวเพื่อคนคนเดียว ไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อพัฒนาประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทำให้แกนนำบางส่วนเริ่มหายหน้าไปจากเวทีจนกระทั่งไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหว

นายสุริยะใสยังกล่าวอีกว่า ส่วนมวลชนพื้นฐานเดิมนั้นกำลังสำคัญของคนเสื้อแดงมาจากการจัดตั้งของ ส.ส.ในขุมข่ายของนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งมี ส.ส.และอดีต ส.ส.หลายคนเป็นแกนนำ ไม่ว่าจะเป็นนายสุทิน คลังแสง นายนิสิต สินธุไพร นายกุเทพ ใสกระจ่าง นายธีระชัย แสนแก้ว เป็นต้น ขณะที่เมื่อมีเปลี่ยนขั้วการเมืองคนกลุ่มนี้ก็เป็นแนวร่วมมุมกลับเกิดแรงต้านภายในของเครือข่ายคนเสื้อแดงไปโดยปริยาย จึงเป็นเรื่องยากที่จะระดมมวลชนได้มากเหมือนที่ผ่านมา

เมื่อมวลชนมากันน้อยจึงอาจจะเลือกใช้วิธีกดดันรุนแรงเหมือนกับช่วงเปิดสภาฯ ตอนโหวตนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ก็มากันไม่กี่ร้อย แต่เน้นความรุนแรงและก่อจลาจล ตรงนี้ทั้งแกนนำและเจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวัง แม้การชุมนุมโดยสันติจะเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ แต่ต้องระวังพวกฮาร์ดคอร์ที่อยู่ส่วนหน้า เพราะเคยปฏิบัติการหน้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มาแล้ว อาจจะทำให้มวลชนที่มาโดยสุจริตกลายเป็นเหยื่อได้ในที่สุด เป็นเรื่องที่ดีที่นายกฯ แนะให้ทั้งแกนนนำและเจ้าหน้าที่ตำรวจเอากรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาเป็นบทเรียน

นายสุริยะใสยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ที่สำคัญข้อเรียกร้องเรื่องยุบสภา ในขณะที่รัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบายเลยนั้นไม่เป็นเหตุเป็นผล อย่างน้อยก็ควรให้รัฐบาลนี้พิสูจน์ฝีมือซัก 2-3 เดือนน่าจะดีกว่า ในช่วงพันธมิตรฯ ต้านรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช พันธมิตรฯ ก็รู้ทั้งรู้ว่าเป็นรัฐบาลนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เราให้โอกาสบริหารงาน 4 เดือนจึงออกมาเคลื่อนไหว

ที่สำคัญในช่วงรัฐบาลนอมินีอำนาจในยุคนายสมัคร และนายสมชายเป็นนายกฯ สังคมเรียกร้องให้ยุบสภาฯ แต่รัฐบาลกลับไม่ยุบสภา พอเปลี่ยนขั้วอำนาจจะมาเสนอยุบสภาจึงเป็นข้อเสนอที่มีความชอบธรรมต่ำ
กำลังโหลดความคิดเห็น