“จตุพร-ณัฐวุฒิ” ชี้ ปชป.เปลี่ยนเอ็นบีที ต้องการแสดงอำนาจ รบ.ใหม่ โว “เพ็ญ” พลิกโฉม เป็นเอ็นบีที ทำเรตติ้งกระฉูด แขวะ “สาทิตย์” ไม่มีปัญญาทำได้ พร้อมจี้ “กษิต” ลาออกทันที ขอโทษอย่างเดียวไม่พอ อ้างต้องสอดคล้องกับ 9 กฎเหล็ก ที่ รบ.ออกมา ขณะเดียวกัน ขู่เพิ่มระดับการชุมนุม กดดัน รบ.ยุบสภา
วันนี้ (24 ธ.ค.) นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช.และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ กรณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุเตรียมจะเปลี่ยนชื่อกลับมาใช้ ช่อง 11 แทน NBT (เอ็นบีที) รวมทั้งปรับรูปแบบรายการใหม่ ว่า ถ้าเป็นความประสงค์ของรัฐมนตรี ที่มีอำนาจในขณะนี้ก็คงทำได้ เพราะเป็นธรรมดาของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะแสดงอำนาจให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง แต่ตัวรัฐมนตรี คือนายสาทิตย์ จะต้องรับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น เพราะต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนช่อง 11 มาเป็น เอ็นบีที มีคนดูช่อง 11 น้อย ต่างจากที่เปลี่ยนมาเป็นเอ็นบีที ซึ่งมีประชาชนชมเป็นจำนวนมาก เพราะมีรูปแบบรายการที่ทันสมัย รัฐบาลในขณะนั้นที่มี นายจักรภพ เพ็ญแข เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่รับผิดชอบ ก็มีเจตนาที่ดีต่อการเปลี่ยนมาเป็น เอ็นบีที
“ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ก็จะต้องให้ประชาชนเป็นผู้วัด เข้าใจว่า การออกมาพูดจะเปลี่ยนเอ็นบีที เป็นช่อง 11 ครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการแสดงอำนาจเชิงสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ให้เห็นว่า มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ใจว่า สุดท้าย นายสาทิตย์ และรัฐบาลประชาธิปัตย์ จะมีอำนาจเต็มในการเปลี่ยน เอ็นบีที เพราะมีคนในรัฐบาลบางกลุ่ม เข้าไปมีอำนาจอยู่ในเอ็นบีที” นายจตุพร กล่าว
เมื่อถามถึง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้ออกมาขอโทษในการพูดถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ นายจตุพร กล่าวว่า การขอโทษของ นายกษิต ยังไม่เพียงพอ กับความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นในการร่วมไปปิดล้อมสนามบิน ซึ่งถือเป็นข้อหาการก่อการร้าย ซึ่งการที่ นายกษิต ออกมาขอโทษครั้งนี้ ต้องถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะออกมาขอโทษด้วยหรือไม่ และจะจัดการอย่างไรกับ นายกษิต เพราะหากให้ นายกษิต ลาออกเอง เชื่อว่า คนอย่าง นายกษิต ที่ทำลายประเทศด้วยการไปปิดสนามบิน คงไม่ลาออกเอง
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงจะมีกดดันหรือไม่ หาก นายกษิต ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นายจตุพร กล่าวว่า นอกจากการอภิปราย นายกษิต ในสภาในการแถลงนโยบายแล้ว จะมีการเพิ่มระดับความเข้มข้นในการเคลื่อนไหวกดกันนายกษิต และให้รัฐบาลชุดนี้ยุบสภา เพราะถือเป็นเป้าหมายของกลุ่มโดยวันที่ 25 ธ.ค.นี้ เวลา 11.00 น.ที่ชั้น 6 พีทีวี ห้างอิมพีเรียล จะมีการแถลงถึงความพร้อมในการชุมนุมใหญ่เพื่อเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.และผู้จัดรายการความจริงวันนี้ กล่าวเสริมว่า การจะเปลี่ยน เอ็นบีที เป็นช่อง 11 ต้องดูกฎหมายก่อนว่าทำได้หรือไม่ เพราะว่าการเปลี่ยนเอ็นบีที สมัย รมต.จักรภพ เป็นการทำตามกฎหมายและเปิดเผย ได้รับกระแสความนิยมจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าดีอยู่แล้ว ดังนั้น หากจะเปลี่ยนชื่ออีก ต้องดูว่าเพราะอะไร อย่างไรเชื่อว่า นายสาทิตย์ ไม่มีปัญญาที่จะทำได้ เพราะก็รู้กันดีว่าใครเป็นใคร ในเอ็นบีที ขอเตือนว่าระวังว่าจะเป็นการก้าวพลาด และอาจเกิดความขัดแย้งกันเองของคนในรัฐบาล
ส่วนกรณี 9 กฎเหล็กที่นายกรัฐมนตรีออกมาควบคุมการบริหารรัฐมนตรีในรัฐบาล นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขอตั้งความหมายคำว่าในข้อ 9 ที่ระบุว่า ความรับผิดชอบทางการเมืองสำคัญมากกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย จึงขอถามว่า การที่ นายอภิสิทธิ์ หนีทหาร และการได้มาซึ่งอำนาจรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตาม ขอให้ นายกษิต ลาออกโดยด่วน เพราะการขอโทษไม่เพียงพอต่อความผิดและความเสียหายของประเทศ อีกทั้งจะต้องสอดคล้องกับ 9 กฎเหล็ก
