“จตุพร” อิจฉาตาร้อนโดดขวาง “อภิสิทธิ์” นั่งนายกฯ ถามซ้ำซากหนีเกณฑ์ทหาร โวยกองทัพแทรกแซงการเมือง รัฐประหารเงียบ ขู่ “ยุบสภา” แน่หากไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ด้าน “สุนัย” ซัด “อำนาจนอกระบบ-พธม.” ทำไทยล้าหลัง
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีคุณสมบัติของการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากหลบหนีการเกณฑ์ทหารซึ่งตามหลักกฎหมายชายไทยเป็นหน้าที่ของชายไทยทุกคนที่จะต้องได้รับการเกณฑ์เข้าไปเป็นทหาร ดังนั้น เมื่อนายกฯ เป็นอย่างนี้ก็จะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน วันนี้ถ้าเรามีทางเลือกคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นอดีต ผบ.ทบ.หรือ อดีต ผบ.ตร.ก็ยังดีกว่าชายไทยหนีทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้นายจตุพรได้หยิบเอากรณีที่นายอภิสิทธิ์ไม่ไปเกณฑ์ทหารตามกำหนดมาเป็นประเด็นโจมตีนายอภิสทธิ์ตั้งแต่เริ่มมีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลโดยจะให้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งประเด็นนี้เคยมีการนำมาโจมตีนายอภิสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อราว 10 ปีก่อน แม้ว่านายอภิสิทธิ์จะชี้แจงว่าได้แก้ไขเรื่องดังกล่าวโดยการเข้าไปเป็นอาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าแล้วก็ตาม
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ในส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ขณะนี้หากดูตัวเลขของทั้งสองฝ่ายคงจะต้องไปวัดกันในการประชุมสภาฯ เพื่อโหวตเลือกนายกฯ ส่วนวันโหวตเลือกนายกฯ กลุ่มคนเสื้อแดงจะไปปิดล้อมสภาฯ หรือไม่นั้น ความจริงแล้วการที่เราต้องออกมาทักท้วง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ร่วมพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ก่อนแถลงข่าวจับมือตั้งรัฐบาลที่โรงแรมสุโขทัยเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.นั้น เป็นพฤติการณ์ที่ฝ่ายประชาธิปไตยเห็นว่าสิ่งนี้คือการทำรัฐประหารเงียบ
“เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ บอกว่าจะไม่ยุ่งการเมือง ก็ต้องทำตามคำพูด รวมทั้งอดีตนายทหารสองคนที่ร่วมหารือด้วยนั้นมายุ่งอะไรด้วย ต่างคนต่างทำหน้าที่ ถ้ามาบีบบังคับกัน มันเดินไปไม่ได้ เพราะหากทหารเข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลมันก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย ที่ทักท้วงเพราะไม่ต้องการให้อำนาจนอกระบบอย่างกองทัพเข้ามาแทรกแซงในการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนคนเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหวหรือไม่จะต้องมีการพูดจากัน” นายจตุพร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้การยุบสภาจะเป็นทางออกหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า การยุบสภาคือวันที่พรรคประชาธิปัตย์มีความรู้สึกว่าเพลี่ยงพล้ำก็บอกว่าควรยุบสภา แต่วันนี้มีความรู้สึกตัวเองได้เปรียบก็บอกว่าเลยเวลามาแล้ว เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลทั้งสองซีก ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่มีความเบื่อหน่ายและขยาดนักการเมือง ดังนั้น เรื่องการยุบสภาก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ประชาชนบอกกล่าว และนักการเมือง ก็ควรรับฟัง
“ผมคิดว่าถ้าจัดตั้งรัฐบาลแล้วหาความสงบไม่ได้ แนวทางการยุบสภาก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง แต่ทั้งหมดจะต้องประมวลให้เกิดความรอบคอบในการตัดสินใจ” นายจตุพร กล่าว
ด้าน นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีคนวางหมาก รู้ว่าการที่มีการสั่งให้ยุบพรรคแล้วต่อไปอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้อำนาจนอกระบบพยายามผลักดันให้การเมืองเกิดการแก่งแย่งกันมาก เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าจะออกมาอย่างนี้ ใครไปได้ก็ไป ใครไปไม่ได้ ก็ไม่ต้องไป เขาต้องการให้มีการเปลี่ยนอำนาจ ตอนนี้การเมืองของไทยกลับมาอยู่ที่เดิมคือล้าหลัง กำลังเดินไปตามความต้องการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยซึ่งต้องกลับมาตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เป็นการเมืองนอกระบบ เล่นเกมอย่างสนุกสนาน จะส่งผลกระทบต่อระบบการเมือง เศรษฐกิจอย่างมหาศาล เป็นผลจากกรณีที่พันธมิตรฯยึดสนามบินทั้งสองแห่ง ทำให้ระบบเศรษฐกิจพังไปหมด เรารู้ แต่ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร
ขณะที่ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถึงขณะนี้เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะวันนี้มี ส.ส.เริ่มทยอยกลับเข้ามาอีกเป็นจำนวนมากหลังจากถูกกดดันจากประชาชนในพื้นที่ เพราะถ้าไม่ย้ายเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทย อนาคตการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะลำบากโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือจะไม่ให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่าแนวทางการยุบสภาจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากทุกอย่างตกลงกันไม่ได้ทหารอาจเข้ามาปฏิวัติก็ได้
ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายสุพล ฟองงาม รักษาการ รมช.มหาดไทย ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชาชน ที่เคยอยู่ในกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามถึง ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินคนอื่นๆ ว่าจะเดินทางมาด้วยอีกหรือไม่นั้น นายปวีณ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ตนมาเพียงคนเดียว ตนมาก็แล้วกัน จากนั้นนายสุพลจึงพานายปวีณขึ้นลิฟท์ไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รักษาการ รมว.วัฒนธรรมและรักษาการ รมว.ศึกษาธิการ เดินทางมาที่ทำการพรรคเพื่อไทยด้วย