“ปธ.สภา” ท่องคาถาไม่ไล่-ไม่ออก ยันไม่ได้ทำผิด ขอนั่งเก้าอี้ทำหน้าที่โหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ เหน็บกลุ่ม ส.ว.ยื่นศาล รธน.ตีความเชิญตามสบาย แลบลิ้นถูกยกนั่งแคนดิเดตนายกฯ ย้อนถามมีวาสนาพอหรือ
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีพระบรมราชโองการโปดรเกล้าฯ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งเดิมที่เคยกำหนดว่าจะมีการประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการกรอบข้อตกลงอาเซียน แต่เรื่องก็ตกไปแล้ว ตามข้อบังคับการประชุมข้อ 57 รัฐบาลต้องเสนอมาใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีรัฐบาลตัวจริงเสนอ เรื่องนี้ก็มีอันพับไป ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรีขณะนี้ยังไม่มีเรื่องเสนอมา จึงไม่ทราบว่าในวันที่ 8-9 ธ.ค.จะเปิดสมัยประชุมสภาได้หรือไม่ ถ้ามีพระบรมราชโองการลงมาก็ต้องเปิด
เมื่อถามว่า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี ระบุได้คุยกับประธานสภาอย่างไม่เป็นทางการ โดยกำหนดให้เลือกนายกฯ คนใหม่ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้แล้ว นายชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพียงแต่คุยกันนิดหน่อยในวันเข้าร่วมพิธีสวนสนามเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.โดยคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตนจึงบอกว่าถ้ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้มีการประชุมเราก็ต้องประชุม แต่ก็ต้องมีเรื่องว่าจะประชุมอะไร ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรเลย โดยทางสภากำลังรอให้รัฐบาลเสนอเรื่องเข้ามา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนเลือกนายกฯ ควรให้มีการตีความเรื่องสถานภาพ ส.ส.สัดส่วนออกมาชัดเจนก่อนหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ก็ดีเหมือนกัน โดยประธานวุฒิสภาก็ต้องดำเนินการตามที่มีส.ว.ยื่นเรื่องมาโดยส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญภายใน 7 วัน และเมื่อส่งเรื่องไปก็ต้องเลื่อนเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างที่ไม่มีความชัดเจน ประธานสภาผู้แทนราษฎรควรทำหน้าที่ต่อหรือไม่ ในการประชุมสภาที่จะถึง นายชัย กล่าวว่า เขายังไม่ได้ไล่ตนออก ตนก็ทำตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อเลือกตั้งมาแล้วเราก็ทำหน้าที่ ส.ส. เมื่อยังไม่มีความผิด ยังไม่ตาย และยังไม่ลาออก ยังไม่ถูกจำคุกยังไม่มีเรื่องที่ทำให้สภาเสียหายก็ยังไม่มีเรื่องอะไร ซึ่งการเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วนถือว่ายากกว่า ส.ส.เขต เนื่องจาก ส.ส.สัดส่วนมีพื้นที่เลือกตั้งถึง 8 จังหวัด และถ้าไม่หาเสียงเอาแต่ชื่อพรรคก็ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ถ้าศาลสั่งมาอย่างใดตนก็พร้อมปฏิบัติตาม
เมื่อถามว่า ถ้ามีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขณะที่สถานะประธานสภาไม่ชัดเจนจะเป็นความเสี่ยงต่อนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ตนไม่ได้ผิดอะไร ตนก็เป็น ส.ส.อยู่ ใครจะมาไล่ตน เอาคน 23 คนที่เสนอมายังประธานวุฒิฯ เพื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก็ต้องรอก่อน ตนก็ทำหน้าที่ไปถ้ามีการเปิดสมัยประชุม แต่ถ้าศาลมีคำสั่งว่าให้ตนพ้นสภาพจากการเป็นสมาชิก ตนก็พ้นตั้งแต่นาทีนั้น อย่างที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบ 3 พรรคการเมือง ซึ่งการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายจะไม่มีความเสี่ยงต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี อย่าไปตีความแบบศรีธนญชัยเลย บ้านเมืองจะวุ่นวาย
“ส่วนเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคงจะรอศาลวินิจฉัยไม่ได้ ถ้ามีพระบรมราชโองการให้เปิดสมัยประชุมวิสามัญเมื่อไหร่ก็ต้องเปิดภายในกำหนดระยะเวลา ไปขัดพระบรมราชโองการไม่ได้ โดยในวาระการโหวตเลือกนายกฯ มาก็ต้องปฎิวัติตามข้อบังคับและตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 172-172 ที่กำหนดว่าเมื่อเสนอชื่อมาและมีผู้รับรอง 1 ใน 3ของจำนวนสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรก็ดำเนินการไปมีผู้รับรองถูกต้องก็ดำเนินการไปไม่เห็นมีอะไร” นายชัย กล่าว
เมื่อถามว่ามีข่าวว่าได้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ นายชัย กล่าวว่า “โอ้ย วาสนาจะถึงรึ ตอนนี้ไม่มีใครทาบทามมา มีแต่หนังสือพิมพ์ลงเป็นข่าว ไม่มีใครสนับสนุนหรอก เป็นประธานสภาก็พอแล้ว ที่ผ่านมานายเนวิน ชิดชอบ ลูกชายก็ไม่เคยคุยกันเลย และถ้ามีการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วใครจะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคต
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมไม่ปฎิเสธให้ชัดไปเลย นายชัย กล่าวว่า ก็ปฏิเสธไปแล้ว และปฏิเสธอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะย้ายไปสังกัดพรรคไหน นายชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้สนใจ แต่พวกไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน ยังไม่รู้ว่าจะไปพรรคไหน เพราะมีเวลาถึง 60 วัน จะรีบร้อนไปไหน ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมไปได้