“สมเกียรติ” ปลื้มชัยเหนือ “ทรราช” วอน “พันธมิตรฯ” โอบอุ้ม “เอเอสทีวี” เพื่อประเทศชาติ

“สมเกียรติ” ประกาศชัยเหนือ “ทรราช” ชู “เอเอสทีวี” เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือปราบมาร พร้อมวอน “พี่น้องชาวพันธมิตรฯ” ช่วยอุ้มชู “สถานีโทรทัศน์อันทรงพลัง” ด้วยการช่วยอุดหนุน “ข้าวสารเอเอสทีวี” เพื่อให้เป็น “สื่อ” ที่มีความชอบธรรมอยู่ในอ้อมกอดตลอดไป

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (2 ธ.ค.) เมื่อเวลา 23.45 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยกล่าวถึงชัยชนะที่พันธมิตรฯ ได้รับ หลังจากต่อสู้มาอย่างยาวนานถึง 193 วันว่า ชัยชนะในครั้งนี้ทำให้รู้กันไปทั่วโลกว่า โดยเฉพาะคำพูดว่า “เอเอสทีวี” ซึ่งเปรียบเสมือนสิ่งเสพติดชนิดใหม่ หากพี่น้องพันธมิตรฯ ทิ้งสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี พวกเราก็จะต้องปิดฉากลง จึงขอให้พ่อแม่พี่น้อง ช่วยกันเก็บรักษา เอเอสทีวี เอาไว้เป็นหอกดาบทิ่มแทงศัตรู

“เฉลี่ยแล้ว เอเอสทีวี สร้างเครือข่ายได้มากมายถึง 15 ล้านคน แต่น่าเสียใจที่ประชาชนเป็นสมาชิกเพียงนิดเดียว ที่สำคัญเป็นสถานีโทรทัศน์ที่โดนอาวุธสงครามยิงถล่มมากที่สุด อีกทั้งยังโดนกรมประชาสัมพันธ์ฟ้องร้องถึง 2 ครั้ง เพื่อต้องการเพิกถอนสื่อที่ซื่อสัตย์ จนกระทั่งศาลปกครองตัดสินว่า เอเอสทีวี มีความชอบธรรมในการนำเสนอข่าวให้ความรู้แก่ประชาชน” นายสมเกียรติ กล่าว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า เอเอสทีวีเสียค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 1 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าจะให้เอเอสทีวี ซึ่งเป็นเครื่องมืออันทรงพลังของพวกเรา ตก 1 ปี ต้องใช้เงินสูงถึง 365 ล้านบาท ฉะนั้น ถ้าเอเอสทีวีจะดำรงอยู่ได้ ก็อยู่ที่พ่อแม่พี่น้อง และเงินบริจาค และขณะที่พี่น้องกำลังจะจากเอเสทีวีไป ทำให้เอเอสทีวี รู้สึกเหงา และเศร้าสร้อย ฉะนั้นภารกิจการค้ำจุนเอเอสทีวี จึงอยู่ที่พี่น้องพันธมิตรฯ เพราะในอนาคต ตนอาจจะไปจัดรายการที่ เอเอสทีวี โดยอาจจะใช้ชื่อรายการว่า ชิมไป ด่าไป

“ที่สำคัญเราจะมีการจัดทำข้าวสาร ยี่ห้อ เอเอสทีวี (กู้ชาติ) นอกจากนี้เรายังปรึกษากับนายศรัณยู วงศ์กระจ่าง ว่าจะมีการตั้งค่ายเพลง และทำภาพยนตร์ ดังนั้นผมจึงขอให้เอเอสทีวีอยู่ในอ้อมกอดของพี่น้องทุกคน และต่อไปในอนาคตเอเอสทีวีจะมีรายการประจำภาคต่างๆ โดยจะเชิญนักศึกษาของภาคนั้นๆ มาออกรายการ รวมทั้งรายการของเอเอสทีวี จะต้องไม่มีคำหยาบคาย ดังนั้นเราต้องประเดิมศักดิ์ราชใหม่ด้วยข้าวสารเอเอสทีวี ที่สำคัญสื่อ เอเอสทีวีเป็นสื่อที่รัฐบาลกลัวมากที่สุด ดังนั้น เราจะไม่ลืม เอเอสทีวี ซึ่งเป็นเครื่องมือชนิดเดียวที่ยังเหลืออยู่ของพันธมิตรฯ” นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย