“ลุงจำลอง” แฉตำรวจรัฐมารรับใช้ทรราชอำมหิต เกณฑ์พลจากต่างจังหวัด 4 พันนาย ปิดล้อมโดยรอบสุวรรณภูมิ ขณะที่ใน บช.น.ซ่องสุม ตชด.ไว้เพียบ ย้ำสัญญา หากพันธมิตรฯถูกสลาย ก็ขอให้กลับมาเจอกันใหม่ในจุดที่ถูกสลายและขอให้มามากยิ่งขึ้น เผยยุทธศาสตร์สงครามจิตวิทยา เปิดลำโพงเป่าหูตำรวจตลอดเย็น ตอกย้ำสำนึกความเป็นคนไทยที่ไม่เคยโกรธเคืองกัน ทีสำคัญทำไมต้องทำเพื่อปกป้องคนคนเดียว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
วันนี้ (29 พ.ย.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 20.19 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวปราศรัยบนเวที โดยเท้าความที่พี่น้องประชาชนมาชุมนุมกันตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.51 จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 189 วันแล้ว เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและให้รัฐบาลลาออก จนถึงวันนี้ที่เรายึดสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิได้ ซึ่งไม่คาดคิดเลยเหมือนกันว่าจะสามารถยึดสนามบินทั้งสองแห่งได้ด้วยมือเปล่า แต่ด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละอย่างใหญ่หลวงของพี่น้องทำให้เราทำสำเร็จ เขาอาจจะสลายเราได้ แต่เราก็จะกลับมายึดใหม่ได้
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตอนนี้มีข่าวยืนยันจากนายพลเอกท่านหนึ่งว่า ที่สุวรรณภูมินั้น ตำรวจได้เกณฑ์ตำรวจจากต่างจังหวัดเข้าไปใกล้ๆ ถึง 4 พันคน ไม่ใช่ข่าวลวงหรือข่าวที่ทำให้เราตกใจ แต่เป็นข่าวธรรมดา อย่างไรก็ตาม เดิมทีตกลงกันไว้ว่าจะไปเยี่ยมบ้านตำรวจสักคนที่กำลังเยี่ยมงานเรา แต่นายศิริชัย ไม้งาม แกนนำพันธมิตรฯ รุ่นสอง กับนายแซมดิน หารือว่าค่ำแล้วคงไม่เหมาะ ฉะนั้นเปลี่ยนที่ดีกว่า จึงเปลี่ยนไปสุวรรณภูมิ
“เราต้องป้องกันให้ได้ ถ้าเขาสลายเรา มีสัญญากันว่าพรุ่งนี้เราก็มา ถ้าตำรวจสลายเราอีก เราก็มาเพิ่มเติมอีกให้มากเข้าไว้ ดูสิว่าประชาชนคนไทยกับจำนวนตำรวจในประเทศไทยใครจะมากกว่ากัน ไม่ใช่เท่านั้น ต่างจังหวัดเขาเตรียมไว้แล้ว และก็ส่งข่าวมาบอกเราทำนองว่า มันไม่พอมือ เขาเตรียมไว้แล้วในจังหวัดต่างๆ ทันทีที่สลายในคืนนี้ เขาได้เตรียมคนไว้มาสมทบจุดที่ถูกสลายส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนหนึ่งก็ลุยสถานีตำรวจในจังหวัดของเขาเลย”พล.ต.จำลอง กล่าว และว่า ตำรวจฟังเราแล้วไม่ต้องหนาว ไม่ได้ขู่ เขาพูดทีไรเขาทำจริงทุกที เราไม่เคยขู่เลย
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง ยังเผยถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาว่า นายทหารผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ส่งลูกน้องไปช่วยเราลาดตระเวน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พบว่ามี ตชด.แต่งชุดเขียวจำนวนมากอยู่ในนั้น เราก็เอาเครื่องขยายเสียงไปจ่อใกล้ๆกำแพงแล้วพูดกับเขาว่า ข้าราชการตำรวจวัยน้องวัยหลานให้คิดให้ดีๆ ว่า หากใช้กำลังสลายพวกเราด้วยความรุนแรงจะเกิดความสูญเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย และเราต่างก็เป็นคนไทยญาติสนิทพี่น้องกัน ไมเคยโกรธเคืองบาดหมางกันมาเลย ลองคิดให้ดี และการเข้ามาสลายเราไม่ง่าย ถ้าสมมติท่านสลายเราสำเร็จในคืนนี้ เรื่องไม่จบง่ายๆ เรื่องมีต่อ ส่วนจะอย่างไร เรานัดไว้กับพันธมิตรฯทั่วประเทศให้เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ท่านสลายเราคืนนี้ที่ทำเนียบฯ พรุ่งนี้จะมาอีกมากกวานี้อีกหลายเท่า แล้วถ้าสลายก็จะมาอีกเรื่อยๆ ท่านฟังอย่างนี้แล้วจะตัดสินใจอย่างไรก็เรื่องของท่าน
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า พูดไปอย่างนี้พี่น้องตำรวจน่าจะได้คิดบ้าง เรามาชุมนุมตกระกำลำบาก ก็ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อสังคมและชาติ ท่านและครอบครัวก็ได้ผลสำเร็จไปด้วยไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้น จากนั้นก็ให้นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ขึ้นพูดบ้าง ยุทธวิธีอย่างนี้ทางการทหารเขาเรียกสงครามจิตวิทยา
พล.ต.จำลอง ได้เน้นย้ำว่า แม้จะมีตำรวจมาเยอะแยะในบช.น. เราก็พยายามดูแลความปลอดภัยโดยรอบตลอดเวลา โดยมีทั้งการ์ดของเราและทหาร ส่วนพี่น้องผู้หญิงจำไว้เลยว่า ถ้าเขามาแตะต้องตัว ผิดกฎหมายลวนลามทางเพศ มีกล้องถ่ายคลิปวิดีโอไว้เลย ขอให้พี่น้องมั่นใจว่า เราจะพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่
นอกจากนั้น พล.ต.จำลอง ยังเล่าว่า มีผู้ใหญ่ชาวต่างประเทศได้ขอร้องพวกเราให้ออกจากสุวรรณภูมิและดอนเมือง เราก็ขอร้องกลับไปว่า ถ้าเขาเป็นเราเป็นคนไทย รัฐบาลไทยหน้าด้านขนาดนี้ คุณก็ต้องทำเหมือนกับเราล่ะ ฉะนั้นเห็นใจพวกเรา นี่คือประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศอเมริกา หรือฝรั่งเศส ที่นักการเมืองของคุณหน้าบางเกินไป แต่วันนี้เขาก็เข้าใจดีแล้ว
