“สมเกียรติ” เชื่อสลายม็อบคืนนี้แน่ ลั่นสลายได้สลายไป เชื่อรวมตัวเผชิญหน้า ตร.อีก

แกนนำพันธมิตรฯ เชื่อ “โกวิท” สั่งลุยม็อบ 3 จุด คืนนี้แน่ ไม่สนสลายได้สลายไป เชื่อมวลชนจะกลับมาเผชิญหน้า ตร.ที่เดิมอีก ลั่นคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ถ้าทำให้ประเทศชาติดีขึ้น ดีกว่าคนที่โกงเงินเป็นแสนล้าน แล้วหนีไปต่างประเทศ จวกพวกปล่อยข่าวทำลายพันธมิตรฯ เผาสถานที่ราชการ

วันนี้ (28 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.05 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยบนเวทีทำเนียบรัฐบาลว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะสลายการชุมุนมทั้ง 3 จุดในคืนนี้ หลังจากมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเทศจะสูญเสียบ้างมันก็คุ้ม ดีกว่าปล่อยให้นักการเมืองโกงไป 7 แสนกว่าล้านแล้วล้านหนีไปต่างประเทศ แต่สิ่งพันธมิตรฯ ทำแลกกับข้อหาบุกรุก สิ่งที่ได้ต้องคุ้มแน่นอน เราเคารพกฎหมาย แต่กฎหมายต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เราไม่มีเวลาเจรจาแล้ว ยกเว้นนายกฯลาออก เราถึงจะเจรจาด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าป้ายสีว่าเราจะเผาสถานที่ราชการ การชุมนุมของพันธมิตรฯไม่เคยคิดสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ

“ผมขอขอบคุณนายทหารระดับสูงที่เข้าใจว่าเรารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หากมีการสลายวันนี้ขอให้ไปที่เดิม เผชิญหน้า ล้อมตำรวจอีกทีหนึ่ง สลายได้สลายไป จับแกนนำเราก็ไม่หนี จากนั้นแกนนำรุ่น 3 ก็ออกมา วันนี้ไม่มีเจรจาคำหวานแล้ว และขอให้ระวังกองทัพประชาชนจะบุกถึงบ้านคนที่สั่งการ” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

ส่วนบรรยากาศการชุมนุมที่ท่าอากาศยานดนอเมือง บริเวณส่วนอาคารรับรองผู้โดยสารภายในประเทศว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 28 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้บริจาครั้วลวดหนามจำนวน 50 ม้วนใหญ่และล้อยางรถยนต์ให้ตามที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรขอไป โดยกลุ่มการ์ดอาสาได้ทะยอยนำไปวางตลอดแนวรั้วของสนามบินดอนเมืองพร้อมทั้งได้ใช้ยางรถตั้งแนวป้องกันเป็นบังเกอร์ชั่วคราวบริเวณทางเข้าและออกอย่างแน่หนา

ขณะที่ช่วงเย็นได้มีผู้เข้าร่วมชุมนุมเดินทางมาสมทบมากขึ้นส่วนใหญ่ต่างหอบเสื่อและกระเป๋าเสื้อผ้ามาสำหรับนอนพักค้างเนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ พร้อมทั้งได้สมัครเป็นการ์ดอาสาตามที่โฆษกบนเวทีชั่วคราวขอกำลังเสริมตามจุดเป็นระยะ โดยนายเติมศํกดิ์ จารุปาน พิธีกรได้ปลุกเร้าผู้ร่วมชุมนุมว่าขณะนี้มีกระแสข่าวลือ ข่าวปล่อยว่าจะมีตำรวจเข้ามาสลายการชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง ซึ่งทางเวทีพันธมิตรที่ทำเนียบรัฐบาลได้ขอให้ผู้ชุมนุมที่จะมาร่วมใหม่ให้เดินทางมาเสริมกำลังเพิ่มเติมแล้ว นอกจากนี้พื้นที่สนามบินดอนเมืองอยู่ในการดูแลของกองทัพอากาศ ซึ่งทางกองทัพเองก็ได้ส่งกำลังทหารนอกเครื่องแบบสวมเสื้อเหลืองเข้ามาร่วมดูแลและเป็นแนวป้องกันให้ผู้ชุมนุมแล้ว

ต่อมาเวลา 17.30 น. กลุ่มการ์ดอาสาที่ตั้งเต้นท์ตรวจสัมภาระของผู้ที่มาร่วมชุมนุมบริเวณทางเข้าได้รับแจ้งว่ามีการตรวจพบวัตถุต้องสงสัยภายในมีโทรศัพท์มือถือและสิ่งของต่อสายอยู่ถูกทิ้งไว้ที่เสาไฟฟ้าใหญ่ด้านหน้าลานจอดรถของอาคาร จึงได้นำล้อยางรถยนต์ไปตั้งครอบและประกาศกันให้คนที่มาร่วมชุมนุมห้ามผ่านบริเวณดังกล่าว ซึ่งตรงกับข่าวที่ทางโฆษกของเวทีพันธมิตรฯเคยประกาศเตือนว่า ระยะนี้มีการกว้านซื้อโทรศัพท์มือถือมือสองจำนวนมากผิดสังเกตจึงเกรงว่าจะมีการนำมาใช้เป็นเครื่องจุดระเบิดเช่นเดียวกับ 3จังหวัดภาคใต้

ซึ่งภายหลังการตรวจสอบของการ์ดอาสาก็พบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ให้แตกตื่น และได้มีการกำชับให้กลุ่มการ์ดและผู้เข้าร่วมชุมนุมช่วยเป็นหูเป็นตา ป้องกันเหตุร้ายของคนที่อาจแฝงตัวเข้ามาร่วมชุมนุม พร้อมทั้งได้มีการประกาศเตือนไม่ให้ผู้ร่วมชุมนุมและประชาชนที่ผ่านไปมาอย่ายืนค้างอยู่บนสะพานลอยคนข้าม เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลสร้างสถานการณ์ได้ยิงปืนและหนังสติ๊กใส่การ์ดและผู้ร่วมชุมนุมในช่วงเวลากลางคืนของวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา