4 ฝ่ายถกวิกฤตการเมือง เห็นพ้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ 8-9 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณากรอบการเจรจาที่จะนำไปใช้ในการประชุมอาเซียนเท่านั้น “ชัย” ขอเอาเกียรติเป็นประกันจะไม่มียัดไส้เรื่องการแก้ไข รธน.ไม่ว่าฉบับใด ขณะที่ “อภิสิทธิ์” เร่ง รบ.เจรจาพันธมิตรฯ ย้ำชาติตกอยู่ในความเสี่ยง หากแก้ปัญหาขัดแย้งไม่ได้
วันนี้ (24 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ตัวแทน 4 ฝ่าย ประกอบด้วย นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมด้วยนายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือถึงสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น ที่ห้องประชุมรำไพพรรณี อาคารศูนย์สัมมนา ชั้น 5 สถาบันพระปกเกล้า โดยใช้เวลาหารือประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายชัย นายประสพสุข และนายอภิสิทธิ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดย นายชัย กล่าวว่า ได้หารือผู้นำฝ่ายค้านและประธานวุฒิสภาว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย จึงได้มีข้อตกลงร่วมกันที่จะเสนอให้รัฐบาลเปิดประชุมร่วมกันรัฐสภาสมัยวิสามัญเป็นกรณีพิเศษ ในวันที่ 8-9 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเฉพาะเรื่องกรอบข้อตกลงที่กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆมีข้อผูกมัดไว้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่งจะต้องมีการลงนามเซ็นสัญญาในการประชุมอาเซี่ยนซัมมิทกับประเทศต่างๆ ในวันที่ 14-16 ธ.ค.นี้ โดยจะขอให้รัฐบาลเปิดสมัยประชุมวิสามัญเป็นกรณีพิเศษเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เพื่อพิจารณาข้อตกลงทั้งหมด จะไม่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใดทั้งสิ้น เมื่อถามว่าหากกลุ่มพันธมิตรฯ ขู่จะมาปิดล้อมรัฐสภาอีกครั้ง จะต้องเลื่อนการประชุมออกไปอีกหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่มีเวลาจะเลื่อนอีกแล้ว เพราะใกล้จะถึงวันประชุมอาเซี่ยนซัมมิทแล้ว ถ้ายังประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณากรอบข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้ ประเทศไทยจะเสียหายร้ายแรงที่สุด จึงอยากขอให้เอาชาติอยู่รอดก่อน อยากไปเป็นขี้ข้าเขาอย่างนั้นหรือ
ด้าน นายประสพสุข กล่าวเสริมว่า ในระเบียบวาระการประชุมรัฐสภานัดพิเศษ จะมีเพียงเรื่องกรอบการเจรจาข้อตกลงฉบับต่างๆ เท่านั้นจะไม่มีเรื่องอื่นเข้ามาต่อท้ายเด็ดขาด
ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ติดใจกับการตัดสินใจสั่งงดประชุมของประธานรัฐสภาเมื่อช่วงเช้า แต่ความขัดแย้งพื้นฐานยังเป็นเรื่องที่ตนอยากเห็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ชุมนุม หากมีอะไรที่ฝ่ายสภาจะช่วยได้ก็พร้อมและยินดี ในระหว่างนี้รัฐบาลในฐานะผู้ถืออำนาจรัฐ และคนที่เป็นผู้นำประเทศต้องยื่นมือออกไปก่อนว่าพร้อมจะเจรจา
ทั้งนี้ กว่าจะถึงวันประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 8 ธ.ค.จะต้องมีกระบวนการเจรจาเกิดขึ้นก่อน เพราะสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ รัฐบาลต้องหาตัวผู้กระทำผิดในเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาให้ได้ หากยังเพิกเฉยไม่ทำอะไร ถือว่าประเทศยังเสี่ยงที่จะเกิดเหตุไม่น่าไว้วางใจขึ้นอีก ตนและประธานวุฒิสภาช่วยได้เพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ต้นเหตุของปัญหาคือรัฐบาลและผู้ชุมนุมต้องเจรจากันให้ได้
