“สมชาย” ได้ที นักข่าวไข่แม้วถามชง พันธมิตรฯ ชอบโยนผิดรัฐบาลอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด อ้างไม่มีใครอยากทำให้คนไทยด้วยกันบาดเจ็บ ทำทีวอนมือที่ 3 - ที่ 4 หยุดก่อเหตุรุนแรง ออกตัวค้นหามือบึ้มไม่ใช่เรื่องง่าย แถมตีฝีปากโบ้ยพันธมิตรฯ ขวางเข้าตรวจสอบ
เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (20 พ.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว สนามบินดอนเมือง กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดใส่ที่ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้ามืดวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ได้ให้ตำรวจพยายามติดตามว่ามาจากไหน เป็นใคร เป็นปกติที่ต้องมีการติดตามจับกุมคนร้าย คงต้องรอฟังตำรวจว่าเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามนายสมชาย ว่า หลังเกิดเหตุแล้วพันธมิตรฯ ได้เปิดให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า อย่างครั้งก่อนก็ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเห็นว่าเวลาเข้าไปต้องผ่านด่านอะไรต่างๆ ให้เข้าตรงไหน ไม่ให้เข้าตรงไหน ก็เป็นอุปสรรคบ้าง แต่ก็ได้เข้าไปตรวจสอบ ถ้าถามเรื่องระเบิดครั้งล่าสุดต้องรอเจ้าหน้าที่สอบสวนก่อน
ผู้สื่อข่าวรายนั้นถามนายสมชาย ว่า ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่า เกิดเหตุระเบิดครั้งใดมักโยนเป็นรัฐบาลเป็นผู้ลงมือ นายสมชาย กล่าวอย่างได้ทีว่า ตนไม่มีนโยบายในการที่จะทำให้เกิดความวุ่นวาย “ไม่มีใครหรอกครับที่จะทำให้คนไทยด้วยกันได้รับบาดเจ็บ แต่ผมก็อยากจะขอร้องว่า ใครที่ไม่หวังดี หรือเป็นมือที่สามที่สี่ทำให้มีปัญหาก็อย่าได้ทำ เราอยากใช้มาตรการทางกฎหมายมีอะไรก็ว่ากันไป อย่าไปใช้กำลัง”
ผู้สื่อข่าวรายนั้นได้ถามนายสมชายแบบชี้นำว่า เกิดเหตุทีไรก็ไม่เปิดให้ไปตรวจสอบทันที ทำให้ไม่สามารถหาต้นตอได้ นายสมชาย กล่าวว่า อย่างที่บอกจากการติดตามข่าวก็ตีสี่ตีห้า อาจเป็นช่วงปลอดคน อย่างไรก็ตาม ตำรวจต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่ช้าก็เร็ว แม้ว่าการเข้าไปตรวจสอบภายในทำเนียบอาจลำบากนิดหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมเกิดเหตุทุกครั้งไม่สามารถหาสาเหตุผู้ลงมือได้ นายสมชาย กล่าวว่า “ก็นั้นแหละครับ ก็อย่างที่บอก มันคงไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าง่ายคงหาได้แล้ว”
เมือถามต่อว่า พันธมิตรฯประกาศว่าจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่วันที่ 23 พ.ย.นี้ นายสมชาย กล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอกครับไอ้เรื่องการชุมนุมไม่มีปัญหาอะไร”
เมื่อถามอีกว่า การชุมนุมใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจะทำให้เกิดปัญหาจนนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีอะไร เราจะพยายามดูแลให้ดี
ต่อมา นายสมชาย ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาถึงกรณีที่พันธมิตรฯ ประกาศจะเคลื่อนไหวใหญ่วันที่ 23 พ.ย.และอาจจะมากดดันหน้ารัฐสภาในวันประชุมรัฐสภาวันที่ 24 พ.ย.ว่า ไม่ทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะมาบุกทำไม
ผู้สื่อข่าวตอบว่า พันธมิตรฯ เกรงว่า จะรัฐสภาจะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ คปพร.มาพิจารณาจึงต้องมากดดัน นายสมชาย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ เพราะร่างดังกล่าวไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เมื่อถามต่อว่าประเด็นนี้เกรงหรือไม่ว่าจะเกิดความรุนแรง นายสมชาย กล่าวว่า ถ้าไม่มีใครทำอะไร ไม่มีใครทำความวุ่นวายก็ไม่มีความรุนแรง ส่วนการป้องกันการก่อเหตุนั้นเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็วางมาตรการอยู่แล้วและดูแลความเรียบร้อยตามปกติ อันนี้เป็นแผนที่ต้องดูแลความเรียบร้อยอยู่แล้ว ส่วนข้อเสนอที่ว่ารัฐสภาควรย้ายที่ประชุมนั้นเรื่องนี้คงเป็นดุลพินิจของ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา เพราะตนบอกแล้วว่าร่าง คปพร.ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง แต่ประชาชนเข้าชื่อมาเอง
เมื่อถามว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยให้มีการนำอาวุธสงครามเข้ามาก่อเหตุกลางเมือง ตรงนี้จะเข้าไปกวดขันหรือไม่ นายสมชาย ย้อนถามว่า “แล้วจะให้ทำอย่างไร เพราะตำรวจเขาทำเต็มที่อยู่แล้ว เหน็ดเหนื่อยกันมาก ดูแลกันตลอด”
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องปรับแผนเรื่องความมั่นคงหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ คง เพราะเป็นหน้าที่ตำรวจที่ต้องดูแลอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พันธมิตรฯ ประกาศจะเคลื่อนมาหน้ารัฐสภารัฐบาลจะต้องออกมาตรการอะไรพิเศษหรือไม่ นายสมชาย นิ่งคิดแล้วกล่าวว่า ก็ทำได้แค่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดูแลและขอร้องอย่าให้เกิดความรุนแรง ความวุ่นวาย ส่วนที่ถามว่าลำพังเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่พอจะขอกำลังเสริมจากทหารหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ต้องดูว่าเขาทำได้แค่ไหน เวลาขอตำรวจก็จะต้องเป็นคนขอเอง
