“สุริยะใส” ชี้ วิปรัฐบาล ชะลอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นแผนลวง ย่องแก้ไขบางมาตราแทน หวังลดกระแสต้าน พันธมิตรฯ ไม่หลงกล ยื่นแก้เมื่อไหร่ ฮือต้านทันที ระบุ “แม้ว” เตรียมทำสงครามครั้งใหญ่ ปลุกระดมมวลชน ใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่พันธมิตรฯ พร้อมรับมือ แฉ 3 พรรควิ่งล็อบบี้ตุลาการฯ หวังยื้อคดียุบพรรค 4-6 เดือน
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (19 พ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงข่าวกรณีที่วิปรัฐบาลจะชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เพื่อนำเข้าที่ประชุมสภาในสมัยหน้า อาจจะเป็นแผนลับ ลวง พราง แต่ก็ยังเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสาเหตุที่วิปรัฐบาลชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ คงเกรงว่าจะเกิดการต่อต้านจากพันธมิตรฯ และเป็นชนวนทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น ทางวิปรัฐบาลจึงได้เปลี่ยนเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราแทน นำร่องโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 คือ การตัดบทบาทของสภาในการตรวจสอบสนธิสัญญาระหว่างประเทศ แสดงให้เห็นว่า พรรคพลังประชาชน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีความคิดที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อฟอกความผิดให้กับตนเองและอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ดังนั้น จุดยืนของพันธมิตรฯ คือ เฝ้าติดตาม และหากมีการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อไหร่ก็จะคัดค้านให้ถึงที่สุด
นายสุริยะใส ประเมินถึงสถานการณ์ในขณะนี้ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินหน้าทำสงครามมวลชนอย่างเต็มกำลัง ซึ่งกำลังเดินไปสู่สงครามกลางเมือง ทาง พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็ไม่ยอมเสียสละเพื่อบ้านเมือง หากสารภาพผิดยอมรับคำพิพากษา บ้านเมืองก็จะสงบสุขเกิดสันติภาพ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังโจมตีสถาบันเบื้องสูง และตุลาการภายหลังที่มีคำพิพากษาในคดีที่ดินรัชดาฯ ให้ติดคุก 2 ปี โดยการบิดเบือนข้อมูลผ่านสื่อของรัฐ เพื่อปลุกระดมมวลชน หลังจากที่กลยุทธ์เดิมที่เคยใช้ คือ จ่ายเงิน ครอบงำฝ่ายตรงข้าม โดยการแทรกซึมแทรกซื้อนั้น ทำไม่ได้แล้ว จึงหันมาใช้กำลังและความรุนแรง เป็นวิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำสงครามทั้งบนดินและใต้ดิน
ถามว่า ต่อจากนี้ไป พันธมิตรฯจะมีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยอย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า มีการระมัดระวังความปลอดภัยอยู่แล้ว ได้ประสานงานไปยังสารวัตรทหาร เพื่อมาดูแลพื้นที่แล้ว และยังมีการประชุมในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งหลังงานพระราชพิธี ก็คงจะเกิดความรุนแรงได้ตลอดเวลา
ส่วนกรณีการยุบพรรค พลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคดังกล่าว ภายในเดือน พ.ย.นี้ มีกระแสข่าวว่า ส.ส.ทั้ง 3 พรรค ได้มีการวิ่งล็อบบี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่าน เพื่อเลื่อนการวินิจฉัยออกไปอีก 4-6 เดือน ตนจึงอยากให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ระมัดระวัง อย่าตกเป็นเกมทางการเมือง