“พล.ต.จำลอง” ขอบคุณหน่วยราชการช่วยรื้อสิ่งของและทำความสะอาดถนนราชดำเนินนอกเพื่อเป็นเส้นทางเสด็จ พร้อมนำพี่น้องพันธมิตรฯ ยืนเข้าแถวถวายความเคารพหลังทราบเวลาเสด็จ จี้ “สมชาย” แสดงสปิริตหลัง กมธ.วุฒิฯ 3 คณะ สรุปตรงกันว่ารัฐบาลสั่งใช้ความรุนแรง 7 ต.ค. ยกจุดแข็งพันธมิตรฯ ในมุมมอง “หมอประเวศ” ให้กำลังใจผู้ชุมนุม
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 12 พ.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงการขนย้ายส่งของออกจากถนนราชดำเนินนอกว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ยังขนไม่เสร็จ เนื่องจากสิ่งของที่ได้รับบริจาคมาสำหรับทำแนวป้องกันทั้งยางรถยนต์ กระสอบทรายนั้นมีจำนวนมาก แต่วันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมีหน่วยราชการหลายหน่วยมาช่วยขนรื้อย้าย และล้างทำความสะอาดถนนให้ด้วย ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้มีใจตรงกันกับเราคือ ต้องการถวายความจงรักภักดีให้ถึงที่สุด แม้จะลำบากขลุกขลักแค่ไหนก็ทำให้เสร็จ
นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณพันธมิตรฯ ผู้อาวุโส 2 ท่านที่มาช่วยเรา คือ นายดำรง ริ้วเหลือง อดีตผู้ตรวจราชการ กทม.ที่มาทำหน้าที่หัวหน้ารักษาความสะอาด และ พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ อดีตแม่ทัพภาค 4 ที่มาทำหน้าที่ระดับผู้บังคับหมวด จนวันนี้ทำให้ถนนโล่ง เป็นเส้นทางเสด็จที่สวยงามมาก ซึ่งเราจะประกาศให้ทราบว่าพระองค์จะเสด็จเมื่อไหร่ เราจะไปยืนเข้าแถวถวายความเคารพ
ต่อมา พล.ต.จำลองกล่าวถึงผลการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการวุฒิสภา 3 คณะเกี่ยวกับเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งได้แก่คณะกรรมาธิการศึกษาและตรวจสอบเรื่องทุจริต คณะกรรมาธิการสาธารณสุข และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน ทั้ง 3 คณะมีข้อสรุปตรงกันว่าการปฏิบัติการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมในวันที่ 7 ตุลาฯ นั้นกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หลังจากทั้ง 3 คณะตรวจสอบย่างละเอียดทุกแง่มุมของเหตุการณ์และได้ประกาศออกมาว่ารัฐบาละตำรวจเป็นฝ่ายผิด ถึง 11 เรื่อง ที่สั่งตำรวจ ใช้ความรุนแรงกับพันธมิตรฯ
“ถ้าเป็นประเทศอื่น ผิดแค่เรื่อง 2 เรื่อง เขาก็ลาออกไปแล้ว แต่คราวนี้เขาลาออกไหม ยังไม่ออก มีคนไปถามนายสมชาย เรื่องที่คณะกรรมาธิการ 3 คณะประกาศผลการสอบสวนเรียบร้อยแล้วมีความเห็นอย่างไร นายสมชาย บอกว่า “เหรอๆๆๆ เขาตรวจแล้วเหรอ” แล้วพูดสั้นๆ ว่า “ผมยังไม่เห็นข้อมูล” ถ้าเป็นอย่างนี้ก็สมแล้วที่เราเรียกร้องให้ลาออก”
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ข่าวเตือนรัฐบาลว่าต้องประคับประคองการใช้จ่ายให้ดีเพราะเศรษฐกิจตกต่ำแน่ๆ แต่เขาคงไม่เชื่อธนาคารชาติ ถ้าเชื่อจะสร้างรัฐสภาใหม่ทำไม ตอนเราต่อต้านเราเห็นว่าไม่คุ้ม ไม่จำเป็นต้องไปทุบตึกที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ เราเป็นรัฐบาลร่ำรวยมาจากไหนจึงมาทุบตึกทิ้งเล่นๆ จึงสมควรแล้วที่เราเรียกร้องให้รัฐบาลนี้ลาออกไป
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งซึ่งเมื่อบ้านเมืองมีปัญหาท่านจะออกมาบอกว่าปัญหาคืออะไร และเสนอทางออกว่าควรทำอย่างไร ท่านผู้นั้นคือ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งท่านได้พูดถึงพันธมิตรฯ โดยตรง และติเราไว้สั้นนิดเดียวว่า เรามีจุดอ่อนคือการเกรี้ยวกราดใส่คนที่เห็นต่างทำให้เสียแนวร่วม ซึ่งพวกตนที่พูดบนเวทีน่าจะฟังท่าน ส่วนจุดแข็งของเรามีมากมายหลายประการ แต่ขอนำมาเล่าให้ฟัง 3 ข้อ เพื่อให้พวกเรามีกำลังใจ
ประการแรกพันธมิตรฯ เป็นขบวนการต่อสู้อำนาจรัฐที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะฉะนั้นเราอย่าไปฟังปากหอบปากปูที่ว่าเราแย่ลงแล้ว คนน้อยลงแล้ว ต่อไปนี้ขอให้พวกปาหอยปากปูหุบปากลงเสีย
ประการที่ 2 พันธมิตรฯ ใช้การชุมนุมและการสื่อสารด้วยเอเอสทีวีไปสู่คนจำนวนมากเป็นเครื่องมือ มีผู้บริจาคอาหาร ข้าวของเครื่องใช้และเงินทองเพื่อการต่อสู้อย่างไม่ขาดสาย และประการที่ 3 พันธมิตรฯ มีจุดแข็งอยู่ที่การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐโดยไม่ถูกต้อง มีคุณูปการต่อประเทศเหลือหลาย ต่อไปการเมืองจะไม่เหมือนเดิม นักการเมืองจะโกงยากขึ้น เพราะเสี่ยงต่อการติดคุกติดตาราง
พล.ต.จำลอง กล่าวสรุปว่า พวกเราไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม แต่สามารถทำให้คนอื่นติดคุกติดตารางมากมายหลายคนแล้ว เพราะเราเป็นหน่วยสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง เราไม่ได้มาชมกันเอง นพ.ประเวศ อย่างมากก็ดูเอเสทีวี ไม่ได้มาเห็นพวกเราว่าทำยังไงกันบ้าง ท่านพูดด้วยความเห็นของท่านโดยไม่ได้เข้าข้างเรา ฉะนั้นขอให้เราตั้งใจต่อไป และให้รู้ว่าแม้ใครไม่เห็นแต่ผู้รู้ทั้งหลายท่านเห็น และให้กำลังใจพวกเราตลอดเวลา
