“ชวน” จี้ รัฐบาลสั่งตำรวจดูแลประชาชน ให้ได้รับความปลอดภัยทุกกลุ่ม เลือกที่รักมักที่ชังไม่ได้ เตือนจะสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงบานปลาย ชี้ “แม้ว” สร้างเรื่องทำให้ชาวบ้านเข้าใจผิดว่าถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่ไม่เคารพกติกาไม่ยอมมาต่อสู้คดีในศาล
วันนี้ (11 พ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นขณะนี้ ที่มีการลอบวางระเบิด ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องดูแล แต่รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะแบ่งแยกว่าจะชอบหรือไม่ชอบ แต่พันธะหน้าที่ของรัฐบาล คือ ต้องดูแลความปลอดภัยให้กับเขาด้วย เพราะฉะนั้นการที่ปล่อยให้มีการวางระเบิด หรือยิงกันทุกนั้นวันไม่ได้ มันจะกลายเป็นเงื่อนไขและชนวนใหญ่ต่อการสูญเสียในวันข้างหน้า จนเป็นเรื่องร้ายขึ้นมา เมื่อถึงวันนั้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วย เพราะฉะนั้นตนเห็นว่า วันนี้รัฐบาลควรจะสนใจเรื่องนี้มากๆ ฝ่ายตำรวจเองก็เช่นกัน ด้วยการใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นว่า สามารถดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนได้มาใช้อย่างจริงจัง อย่าทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อตำรวจน้อยลงไปกว่านี้
“จะให้คนมาเรียกร้องทหารคงจะไม่ได้ ทหารไม่มีหน้าที่เรื่องพวกนี้ ทหารต้องดูเรื่องวความมั่นคงของประเทศ แต่อาชญากรรม หรือความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ความรุนแรงในสังคม ล้วนเป็นหน้าที่ตำรวจทั้งสิ้น ตำรวจควรใช้โอกาสนี้แสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะดูแลควบสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองได้ ผมจึงอยากฝากเรื่องนี้ไว้ เพราะไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นตามมาจนกลายเป็นเงื่อนไขใหญ่ต่อไป” นายชวน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาที่จะประกาศรายชื่อผู้ที่เป็นศัตรูทางการเมือง จะเป็นการสร้างความขัดแย้งมากขึ้นหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ที่จริงตนเคยพูดมาหลายครั้ง ว่า ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไขและเคารพกติกาบ้านเมือง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปใหม่ๆ ก็มีคนเคยพูดในเรื่องการกลับเข้ามาภายในประเทศ ว่า ไม่ให้กลับบ้าง ตนจำได้ว่าตนเป็นคนยืนยันว่า ย่อมมีสิทธิ์กลับประเทศเสมอ คนไทยมีอย่างเดียว คือ ไม่ให้ออกนอกประเทศ ก็มีบ้างเป็นบางกรณี แต่จะห้ามไม่ให้กลับไม่ได้ แม้คนนั้นจะกระทำผิดหรือเป็นอาชญากร หรือเป็นผู้ต้องหาก็ตาม ก็มีสิทธิ์ที่จะกลับประเทศไทยเสมอ กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เช่นกัน ถ้าจะกลับก็กลับได้ทุกวัน เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องกลับไม่เกี่ยวกับข้อห้ามในประเทศ แต่เป็นเรื่องที่ท่านไม่มาสู้คดี ฉะนั้น ปัญหานี้ไม่ควรที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า มีใครไปแกล้งให้ท่านกลับมาไม่ได้
เมื่อถามว่า กรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะนำประชาชนจำนวนมากไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนเป็นการกดดันเรื่องมวลชนหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า อย่างนี้ไม่เป็นไร แต่คนส่วนใหญ่ต้องรู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดขึ้นจากการตัดสินแล้ว และ พ.ต.ท.ทักษิณ กับครอบครัว ก็หนีไปต่างประเทศและไม่กลับมา ไม่ใช่ว่ามีใครไปห้ามไม่ให้กลับ ทุกฝ่ายก็อยากให้กลับมาสู้คดี ส่วนการที่ผู้ที่สนับสนุนจะทำอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลับมา เพราะกลัวติดคุกนั้น ตนไม่ทราบ แต่ตอนนี้เรื่องสิทธิคนเข้าใจผิดว่าตอนนี้ไม่ตรงกับความเป็นจริง เหมือนมีคนไปแกล้งจนทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาไม่ได้ แต่ความจริงคือไม่ใช่ เพราะท่านไม่กลับมาเอง ถ้าจะมาสู้คดีก็มาได้ เพียงแต่มาแล้วก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของไทย ตนเองเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยในสมัยนี้มีความเป็นธรรมและคุ้มครองแต่ละฝ่ายได้ดี โดยเฉพาะฝ่ายศาลที่ต้องถือว่าตรงไปตรงมามากกว่ายุคอื่นๆ เพราะว่าการดูแลบ้านเมืองศาลยังเป็นที่พึ่งสุดท้าย
“วันนี้ใครจะวิจารณ์ศาล อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเราเปรียบเทียบก็จะเห็นว่า การเข้าไปแทรกแซงในขณะนี้ก็เป็นเรื่องทำยาก มันมีความพยายามในสมัยก่อน ในการแทรกแซงตำรวจไม่ต้องพูดถึง หรือแม้แต่สถาบันอัยการ ซึ่งความจริงแล้วก็น่าเชื่อถือ แต่ก็มีบ้างช่วงที่มีการรุกล้ำเข้าไปแทรกแซง แต่ผมคิดว่าศาลก็ยังทำยาก กระบวนการชองศาลในภาพรวม ผมเห็นว่าเป็นสถาบันที่น่าเชื่อถือได้ สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำลงไปนั้น ก็น่าจะรู้ว่าทำอะไรลงไป รวมถึงถูกหรือผิดหรือไม่” นายชวน กล่าว