“จำลอง” ฟันธงไม่บุกสภา วัดใจ “เขยแม้ว” ชะลอบรรจุร่างแก้ รธน.

“พันธมิตรฯ” ปรับกลยุทธ์วัดใจรัฐบาลเหตุไม่บรรจุวาระแก้ รธน. ยกเลิกแผนปิดล้อมรัฐสภา เปิดประตูรับเจรจาเครือข่ายสันติธรรม ปฏิเสธ “สุเมธ” ส่งสัญญาณเตือนพันธมิตรฯ มั่นใจ 1 พ.ย. นปช.ไร้เขี้ยวเล็บไม่กล้าบุกทำเนียบ หวั่นพันธมิตรฯ ลุกฮือ

วันนี้ (27 ต.ค.) ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต. จำลอง กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีวาระประชุมเรื่องประเมินสถานการณ์ไทย-กัมพูชา โดยไม่มีวาระร่างพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางพันธมิตรฯ จึงจะไม่เคลื่อนไหวไปกดดันบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การประชุมดังกล่าวจะมีการนำพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คปพร.เข้าไว้ด้วย ซึ่งขัดกับข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ทางรัฐบาลได้บอกมาชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการนำร่างดังกล่าวเข้าที่ประชุม แต่หากมีรัฐบาลก็คงโกหก

เมื่อถามว่า กรณีที่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ปาฐกถาให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พันธมิตรฯ ไม่ใช่ฝ่ายที่ก่อให้เกิดความรุนแรง ที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ชุมนุมอย่างสงบ สันติ อหิงสามาโดยตลอด ซึ่งหากรัฐบาลไม่ใช้ตำรวจปราบปรามประชาชนก็ไม่เกิดความรุนแรง

“คนไทยโชคร้ายที่มีรัฐบาลหน้าไม่อาย ถ้าเป็นชาติอื่นทำผิดก็คงลาออกไปนานแล้ว” พล.ต. จำลอง กล่าว และว่า ตามที่ ดร.สุเมธ นำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องของความสามัคคีมากล่าว ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงตน

“ไม่ใช่การส่งสัญญาณอะไร ไม่ใช่ผม แล้วพระราชดำรัสฯ ก็มีหลายส่วนหลายตอน เช่นเรื่องเราไม่สามารถทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ แต่หน้าที่ของเราก็คือปกป้องไม่ให้คนไม่ดีขึ้นมามีอำนาจ แล้วก็สนับสนุนคนดี ซึ่งพวกเราทำมาโดยตลอด” พล.ต.จำลอง กล่าว

ถามอีกว่าทางเครือข่ายสันติธรรมจะมีการตั้งผู้ประสานงานเจรจา ทั้ง นปช. พันธมิตรฯ ฝ่ายค้าน และรัฐบาล ซึ่งหากมีการติดต่อเพื่อเจรจาหาข้อยุติ ทางพันธมิตรฯจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา แต่หากติดต่อมาก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพูดคุยกัน เพียงแต่พันธมิตรฯ ขอนำเรื่องดังกล่าวหารือประชุมก่อนว่าควรจะมีทิศทางใด ตลอดเวลาที่ผ่านมาพันธมิตรฯ ก็พร้อมที่จะเจรจาทุกเมื่อ ไม่ได้ต่อต้านการเจรจาใดๆ เพราะการเจรจาเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลมีความพยายามทุ่มเงินกว่าพันล้านเพื่อซื้อตัว ส.ว.เพื่อให้เสียงข้างมากในสภาสนับสนุนการตั้ง ส.ส.ร 3 เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทางพันธมิตรฯเห็นว่าอย่างไร นายพิภพ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจว่าข่าวดังกล่าวจะเป็นความจริงหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลชุดก่อนก็มีข่าวอยู่เสมอว่ามีการใช้เงินเพื่อซื้อตัว ส.ส.และ ส.ว.ในรูปแบบการเมืองเก่า ถ้าหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้นก็เท่ากับว่าระบบการเมืองเก่าไปไม่รอด มีการใช้เงินใช้ทองซื้อเสียง รัฐบาลต้องการจะอยู่ยาวเพื่อต้องการหางบประมาณให้แก่ของพรรคตัวเอง

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า การตั้ง ส.ส.ร.3 มีการคัดค้านมาจากหลายกลุ่ม เพราะการตั้ง ส.ส.ร.3 ทำให้เสียเวลาเสียเงินแทนที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง แต่กลับทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ยอมฟังใคร ในที่สุดก็จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย

สำหรับคำถามที่ว่า ในวันที่ 30-31 ต.ค.จะมีการระดมพลจากกลุ่ม นปช.เพื่อมารวมกับผู้ชุมนุมในวันที่ 1 พ.ย. ทางพันธมิตรฯ มีการประเมินว่าจะมีการเคลื่อนพลมาปิดทำเนียบหรือไม่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ข่าวเช่นนี้มีอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็บอกผู้ชุมนุมว่าอย่าตกใจ แต่ครั้งนี้เชื่อว่ามีการรวมพลกันจริง แต่ที่ไม่มีการปิดล้อมทำนียบฯ คงเป็นเพราะกลุ่ม นปช.คงเห็นแล้วว่าหากเข้ามาสลายผู้ชุมนุมได้แล้วเรื่องคงยังไม่จบ เพราะพันธมิตรฯ จากต่างจังหวัดจะลุกฮือขึ้นมามากมาย กลุ่ม นปช.ก็คงจะกลัวผลที่จะตามมามากกว่า

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สล้าง บุญนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ จะเดินทางมารับเหรียญพระบิดาฝนหลวงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายพิภพ กล่าวว่า หากการเดินทางมาครั้งนี้มาเพียงรับเหรียญดังกล่าวโดยไม่มีการเคลื่อนพลมาเพื่อปิดล้อมทำเนียบฯ คงจะไม่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น