“สุทัศน์” สะกิดต่อมสำนึก “สมชาย” แถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวโทษพี่เมียตำหนิศาลต่อประชาคมโลก ทวงสัญญาอดีตนั่งปลัดเคยเห็นชอบร่างตั้งศาลฎีกา เอาผิดนักการเมืองชั่ว
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ว่า การที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง มีคำพิพากษาจำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเวลา 2 ปี เพราะเป็นเรื่องการเมืองว่า คำพูดดังกล่าวทำให้เกิดความสับสน และเสียหาย ต่อกระบวนการยุติธรรม ตนเป็นคนที่เสนอร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลฏีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง เมื่อปี 2542 ซึ่งขณะนั้นนายสมชายวงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม และเป็นผู้หนึ่งที่ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว และต้องผ่านความรับผิดชอบของนายสมชาย ทั้งนี้ เจตนารมณ์ในการศาลดังกล่าวเพื่อให้มีบทลงโทษนักการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ที่มีอำนาจ มีอิทธิพล มีเงิน หากทำการทุจริตเมื่อขึ้นศาลปกติจะล่าช้า และยากต่อการติดตามมาลงโทษ จึงมีศาลนี้ขึ้นมาโดยใช้ระบบใต่สวน ไม่มีอุทธรณ์ฎีกา จนกระทั่งมีรัฐธรรนูญ ปี 50 จึงให้มีอุทธรณ์ได้ ดังนั้นศาลนี้ไม่ใช่ที่จะมาลงโทษใครได้โดยเฉพาะ
นายสุทัศน์ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวตำหนิศาล เพราะเหมือนเป็นการทำร้ายประเทศชาติ เพราะหากต่างชาติไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมของไทยแล้ว ศักดิ์ศรีของประเทศก็จะเสียไป พรรคพลังประชาชนเคยมีความพยายาม ที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของศาลฎีกาฯ มาโดยตลอด ล่าสุดมีการคว่ำร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความในศาลคดีฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดการทกระทำดังกล่าวขึ้นอีก ส่วนที่นายสมชายระบุว่าการที่ พ.ต.ท.ทักษิณถูกลงโทษไม่ใช่เป็นเรื่องการทุจริตตรงนี้ ตนไม่สบายใจ เพราะนายสมชายเคยเป็นอดีตผู้พิพากษา และเป็นนายกรัฐมนตรี จึงเกรงว่าประชาชนจะสับสน เพราะการทุจริตที่ขึ้นสู่ศาลดังกล่าว ประกอบไปด้วย การกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายราชการ และการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ซึ่งความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณหรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ตามกฎหมายอื่น คือ กฎหมายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
“ขอเรียกร้องนายกรัฐมนตรี จะต้องออกมาปกป้องสถาบันตุลาการ และกระบวนการยุติธรรม เพราะท่านเป็นอดีตผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ จะละเลยที่จะให้กระบวนการยุติธรรม หรือผู้พิพากษาถูกใส่ร้ายไม่ได้ โดยเฉพาะเป็นฐานะนายกรัฐมนตรี จะต้องปกป้องศักดิ์ศรีกระบวนการยุติธรรมทั้งประเทศ และจะต้องชี้แจงเรื่องนี้ต่อประชาคมโลก และต่อประชาชนรวมทั้งต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม เพราะเวลานี้ศาลเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนอยู่ และขอเร่งรัดให้อัยการสูงสุดดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดน นำตัว พ.ต.ท.ทักษิณมาลงโทษให้ได้” นายสุทัศน์ กล่าว