“สนธิ” ระบุพันธมิตรฯ กำลังสร้างการเมืองแบบ “ไฮเปอร์” ก้าวทันโลกในยุคข้อมูลข่าวสาร สร้างสังคมอุดมปัญญา ขณะที่นักการเมืองในสภา และนักวิชาการตีนไม่ติดดินไม่เข้าใจ ย้ำวันศุกร์นี้ได้เสียถ้า “หมัก” ไป “น้องเขยแม้ว” มา ชี้ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ต้องจบเร็ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น. วันที่ 10 ก.ย.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันนี้ได้มีที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองของสถานทูตออสเตรเลีย ที่เป็นฝรั่งสองคนมาพบ และถามจุดยืนของพันธมิตรฯ ก็ได้ตอบกลับไปว่ากำลังทำการเมืองแบบไฮเปอร์
นายสนธิ กล่าวว่า มนุษย์ถือเป็นสัตว์ประเสริฐ และในช่วงการพัฒนาการในช่วงกว่า 4 หมื่นปีที่ผ่านมา แต่มนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด พร้อมทั้งยกตัวอย่างการส่งจดหมายไปสหรัฐอเมริกาเมื่อ 20 ปีก่อน กว่าจะตอบกลับมาต้องใช้เวลาถึง 14 วัน แต่ทุกวันนี้สามารถส่งอีเมล์และตอบกลับภายในไม่เกินครึ่งนาที ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว เร็วกว่าเดิมประมาณ 17,000 เท่า นั่นหมายความว่า การส่งข้อมูลข่าวสาร 1 รอบเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่วันนี้ส่งได้ 17,000 รอบ
“เวลานี้ข้อมูลข่าวสารถาโถมเข้ามามากมาย และเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าการเมืองในสภาเวลานี้ ดังนั้น คนอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา คนอย่าง เสนาะ เทียนทอง หรือคนอย่าง สมัคร สุนทรเวช ไม่มีวันเข้าใจ เพราะเวลานี้การเมืองได้เปลี่ยนเป็นไฮเปอร์สปีด ซึ่งเหนือกว่าซูเปอร์สปีด” นายสนธิ ระบุ และว่า ทุกคนในที่นี้มีความรู้มากกว่าพวกดอกเตอร์หลายคนที่ตีนไม่ติดดิน เพราะคนพวกนี้ไม่เข้าใจว่าสังคมได้เปลี่ยนไปมากแล้ว
นายสนธิ ยังกล่าวอีกว่า คนที่มาร่วมชุมนุมสามารถมองป่าทั้งป่าได้เข้าใจ ไม่ได้มองแค่ต้นไม้เพียงต้นเดียว เหมือนกับกรณีที่ว่า เมื่อนายสมัคร ไปแล้วแล้วเอานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มา พี่น้องที่นี่จะร้องยี้ เพราะรู้ว่า นายสมชาย เป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่คนอื่นไม่เข้าใจ ดังนั้น เราต้องสร้างสังคมอุดมปัญญาให้เกิดขึ้นให้มากที่สุด เพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอด และจะเป็นชัยชนะอย่างแท้จริง
นายสนธิ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง วันศุกร์นี้ยังไม่รู้ว่าหมู่หรือจ่า เพราะพวกนั้นพยายามดิ้นรนรักษาอำนาจ แต่ด้วยความที่มีแต่มิจฉาทิฐิก็จะพบกับจุดจบที่ไม่คาดหมาย ขอให้เชื่อเถอะ ในวันนั้นถ้าไม่เสนอชื่อนายสมัคร ก็เสนอชื่อ นายสมชาย พี่น้องก็ต้องรู้ว่าเป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ต้องทำให้จบ เพราะคนที่ห้ามไม่ให้นักเรียน นักศึกษา มีกิจกรรมทางการเมือง บ้านเมืองฉิบหายแน่
“มีคนถามผมว่าเหนื่อยหรือเปล่า ก็ต้องบอกว่านั่นเป็นแค่กายภาพ แต่ใจยังแกร่ง เพราะมีชาติและลูกหลานเป็นเดิมพัน” นายสนธิ กล่าวย้ำ