“ภูวดล ทรงประเสริฐ” ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ย้ำ 5 แกนนำยังเหนียวแน่น พร้อมดำเนินยุทธศาสตร์สู่การเมืองใหม่ ระบุรัฐบาลหุ่นเชิดพยายามปล่อยข่าวดิสเครดิต ป้ายสี กล่าวหาแตกคอ หวังสลายการชุมนุม เผยพฤติกรรมรัฐบาลหุ่นเชิด ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลพลัดถิ่นดีๆ นี่เอง
วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 01.40 น. ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวได้หลบหนีคดีไปอยู่ที่ประเทศอัง การเมืองไทยได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันบรรดานักการเมืองข้าราชการกังฉิน ที่รับใช้ระบอบทักษิณก็เริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อย่างเป็นกระบวนการตลอดเวลาเช่นกัน
ทั้งนี้ หากศึกษาให้ดีจะเห็นว่าจริงๆ แล้วเท็กติกหรือยุทธวิธีของสุนัขรับใช้ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เน้นวิธีการข่มขู่ คนเหล่านี้จะอยู่ด้วยเงินทอง อามิสสินจ้าง ขณะเดียวกันการเลือกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ดูจะไม่มีน้ำยา ประกาศออกมาแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันได้
ศ.ดร.ภูวดล กล่าวว่า วันนี้การเมืองไทยกำลังสับสน การยึดครองทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรฯ ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลอย่างสิ้นเชิง ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับกันในวันนี้ อีกทั้งพฤติกรรมของรัฐบาล ก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลพลัดถิ่นดีๆ นี่เอง ในเชิงรัฐศาสตร์รัฐบาลได้สูญเสียความชอบธรรมไปนานแล้ว เพียงแต่ว่ารัฐบาลยังมีผู้นำที่เปรียบเสมือนสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณ จึงไม่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
“วันนี้นายกรัฐมนตรี มีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือก คือ 1.ถูกนิมนต์ไปทำรายการชิมไปบ่นไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวได้ชิมถึงที่ประเทศอังกฤษ และ 2.ถูกกระบวนการยุติธรรมลงโทษ เป็นไปตามหลักนิติธรรมสากล แต่ปัญหาอยู่ที่คนไทยจะทนได้หรือไม่เท่านั้น มนุษย์พันธุ์ชั่วนี้ คงจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ อย่าไปกลัวกับการปล่อยข่าวว่าผู้นำพันธมิตรฯ แตกแยก ประสบการณ์ของคนที่ทำงานอยู่ที่นี่ ต่างรักและสามัคคีกัน เอาประสบการณ์ชีวิตจริงมาเรียนรู้ มาปรับใช้สู้กับอธรรม ขอให้เบาใจได้” ศ.ดร.ภูวดล กล่าว
นอกจากนี้ ศ.ดร.ภูวดล ยังย้ำถึงความเชื่อมั่นในยุทธศาสตร์ของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ แกนนำทุกคนยังเป็นผู้นำที่มั่นคง จงเดินตามแนวทางที่ตนเหล่านี้ได้สังเคราะห์ นี่คือเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่การเมืองใหม่ที่แท้จริง ขณะเดียวกัน ขอให้จงมั่นใจพลังพันธมิตรฯ ไม่มีวันพ่ายแพ้อำนาจใดๆ ในประเทศนี้ เพราะเราไม่ใช่คนขายชาติ เป็นคนกู้ชาติกู้แผ่นดิน ต้องการให้ ประเทศนี้มีอนาคตที่ดีขึ้น ไม่ใช่อยู่กับสิ่งหมักหมม สิ่งชั่วร้ายที่นักการเมืองพันธุ์ชั่วสร้างขึ้น
วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 01.40 น. ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ภายในทำเนียบรัฐบาลว่า ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวได้หลบหนีคดีไปอยู่ที่ประเทศอัง การเมืองไทยได้พัฒนาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันบรรดานักการเมืองข้าราชการกังฉิน ที่รับใช้ระบอบทักษิณก็เริ่มปรับเปลี่ยนกระบวนยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อย่างเป็นกระบวนการตลอดเวลาเช่นกัน
ทั้งนี้ หากศึกษาให้ดีจะเห็นว่าจริงๆ แล้วเท็กติกหรือยุทธวิธีของสุนัขรับใช้ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เน้นวิธีการข่มขู่ คนเหล่านี้จะอยู่ด้วยเงินทอง อามิสสินจ้าง ขณะเดียวกันการเลือกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ดูจะไม่มีน้ำยา ประกาศออกมาแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอันได้
ศ.ดร.ภูวดล กล่าวว่า วันนี้การเมืองไทยกำลังสับสน การยึดครองทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรฯ ถือเป็นการตบหน้ารัฐบาลอย่างสิ้นเชิง ความเป็นจริงที่ต้องยอมรับกันในวันนี้ อีกทั้งพฤติกรรมของรัฐบาล ก็ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลพลัดถิ่นดีๆ นี่เอง ในเชิงรัฐศาสตร์รัฐบาลได้สูญเสียความชอบธรรมไปนานแล้ว เพียงแต่ว่ารัฐบาลยังมีผู้นำที่เปรียบเสมือนสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณ จึงไม่ยอมรับชะตากรรมของตัวเอง
“วันนี้นายกรัฐมนตรี มีทางเลือกอยู่ 2 ทางเลือก คือ 1.ถูกนิมนต์ไปทำรายการชิมไปบ่นไปให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวได้ชิมถึงที่ประเทศอังกฤษ และ 2.ถูกกระบวนการยุติธรรมลงโทษ เป็นไปตามหลักนิติธรรมสากล แต่ปัญหาอยู่ที่คนไทยจะทนได้หรือไม่เท่านั้น มนุษย์พันธุ์ชั่วนี้ คงจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ อย่าไปกลัวกับการปล่อยข่าวว่าผู้นำพันธมิตรฯ แตกแยก ประสบการณ์ของคนที่ทำงานอยู่ที่นี่ ต่างรักและสามัคคีกัน เอาประสบการณ์ชีวิตจริงมาเรียนรู้ มาปรับใช้สู้กับอธรรม ขอให้เบาใจได้” ศ.ดร.ภูวดล กล่าว
นอกจากนี้ ศ.ดร.ภูวดล ยังย้ำถึงความเชื่อมั่นในยุทธศาสตร์ของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ แกนนำทุกคนยังเป็นผู้นำที่มั่นคง จงเดินตามแนวทางที่ตนเหล่านี้ได้สังเคราะห์ นี่คือเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่การเมืองใหม่ที่แท้จริง ขณะเดียวกัน ขอให้จงมั่นใจพลังพันธมิตรฯ ไม่มีวันพ่ายแพ้อำนาจใดๆ ในประเทศนี้ เพราะเราไม่ใช่คนขายชาติ เป็นคนกู้ชาติกู้แผ่นดิน ต้องการให้ ประเทศนี้มีอนาคตที่ดีขึ้น ไม่ใช่อยู่กับสิ่งหมักหมม สิ่งชั่วร้ายที่นักการเมืองพันธุ์ชั่วสร้างขึ้น
