โฆษก พปช.บิดเบือนกล่าวหาพันธมิตรฯจับมือวุฒิสมาชิก ปฏิรูปการเมืองใหม่ล้วนมีผลประโยชน์แอบแฝง ตะแบงตั้งทีม ปชส.แก้ต่างทุกกระบวนท่า ยกหาง “หมัก” กัดฟันสู้อย่าโดดเรือหนี
วันนี้ (7 ก.ย.) ที่ทำการพรรคพลังประชาชน ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ว่า สิ่งที่เป็นปัญหาเพราะคนไม่ได้สนใจประเด็นข้อกฎหมาย ไม่ได้สนใจว่าใครกำลังทำผิดกฎหมาย ซึ่งชัดเจนแล้วทางออกที่มีการพูดกันนั้น ทั้งการให้นายกฯลาออก หรือการยุบสภา ก็ไม่ใช่การยุติปัญหา เพราะคนที่เรียกร้องอยู่ขณะนี้ ต้องการนำแผนการเมืองใหม่มาใช้ ซึ่งต้องบอกว่าการเมืองใหม่ที่เขาเสนอนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย เราต้องถามคนทั้งประเทศ ว่า เขาเข้าใจหรือยังว่าการเมืองใหม่คืออะไร เพราะการที่มี ส.ส.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หรือถ้ามีก็น้อยนั้น การยุบสภาจะทำให้สถานการณ์พัฒนาไปเร็วมากโดยจะนำสูตรการเมืองใหม่ คือ 70-30 มาใช้ เนื่องจากตอนนี้มี ส.ว.ส่วนหนึ่งมาจากการแต่งตั้ง นี่คือ การรุกคืบการเมืองของฝ่ายพันธมิตรฯ ที่เขาเรียกร้องก็เพราะเขาได้ประโยชน์ จะเห็นได้ว่า หลังการรัฐประหารจะมีคนของพันธมิตรฯเข้าไปอยู่ในองค์กรต่างๆจำนวนมาก และหลงใหลในอำนาจ ก็เลยออกมาเรียกร้องเพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่ที่จะใช้เป็นการถาวร และจะสร้างความแตกแยกในสังคม
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนเห็นอันตรายที่จะเกิดขึ้น ถ้านายกฯลาออก หรือยุบสภา นอกจากเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ดีให้กับการเมืองไทยในอนาคต ด้วยการที่มีคนใช้วิธีที่ผิดกฎหมายกดดันจนสำเร็จ ดังนั้น พรรคพลังประชาชนจึงตั้งทีมทำงานในด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะได้มีการชี้แจงอธิบายความให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าใจได้รู้ถึงพิษภัยของการเมืองใหม่ดังกล่าว เพราะตอนนี้สังคมกำลังหลงประเด็นไปคิดว่าถ้ามีการยึดทำเนียบแล้ว รัฐบาลลาออกก็จบ ที่จริงไม่ใช่ เพราะเป้าหมายที่เขาแฝงลึกอยู่มันไปไกลว่านั้น เราจึงสนับสนุนให้ท่านนายกฯยืดหยัดต่อสู้ปกป้องประชาธิปไตยต่อไป
“การที่นายกฯลาออ ก็จะกลายเป็นสถานการณ์ปั่นป่วนยกใหญ่ และการยุบสภาก็จะยิ่งเข้าทาง เพราะวุฒิสภาก็จะเป็นรัฐสภา แล้ววุฒิสมาชิกครึ่งหนึ่งก็มาจากการแต่งตั้ง เขาก็สามารถใช้อำนาจวุฒิฯในการแก้ หรือยกเลิกรัฐธรรมนูญบางมาตรา ดำเนินการให้สอดคล้องกับกลุ่มพันธมิตรฯ และทำให้เกิดการเมืองใหม่ เพราะเราเคยเห็นการยุบสภาแล้วว่าเมื่อยุบสภาแล้วอำนาจก็จะไปอยู่ในมือวุฒิสภา ซึ่งไม่ได้ถูกยุบไปด้วย” ร.ท.กุเทพ กล่าว