แกนนำพันธมิตรฯ สุดทนพฤติกรรมตำรวจ จวกทำเกินเหตุ ใช้แก๊ซน้ำตา-กระสุนยาง ยิงประชาชน ระบุแค่ไปกดดันการกระทำเมื่อช่วงกลางวันนี้เท่านั้น ไม่ได้ไปทำลายแต่อย่างใด แต่ กลับใช้ความรุนแรงกับประชาชน
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2551 นายวัชระ เพชรทอง นายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที นางอารม มีชัย นายการุณ ใสงาม และนายศิรชัย ใสสะอาด ซึ่งเป็นคณะพันธมิตรฯ ที่เป็นแกนนำร่วมชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แถลงข่าวถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาหัวคํ่าของวันนี้ โดยนายวัชระ ระบุว่า ตำรวจเป็นผู้สร้างความรุนแรงขึ้นมาก่อนโดยเฉพาะการยิงแก๊ซนํ้าตาเข้าสู่ประชาชนกว่า 10ลูก โดยพันธมิตรได้ประกาศตลอดเวลาว่า ระหว่างที่ไปกดดันที่หน้า บชน. นั้น โดยทั้งหมดได้ชูมือทั้ง 2 ข้างขึ้นว่าเป็นการมาสอบถามว่าทำไมตำรวจถึงมาตี คนแก่ ผู้หญิง และเด็ก เราเพียงอยากจะถาม โดยเฉพาะในช่วงที่นายการุณ เป็นแกนนำปราศัยนั้น ยืนยันได้ว่าไม่มีใครจะพังประตู เพียงยื่นมือไปเคาะประตู แต่กลับโดนยิงแก๊ซนํ้าตากว่า 10 ลูกยิงใส่
นายยุทธิยง กล่าวว่า เราอยากจะถามเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่กลับวิตกกังวลเกินเหตุ เรายืนยันว่าเราไม่ได้เข้ามาทำลาย อยากให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาคุยแต่กลับวิตกเกินเหตุ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นต้องทบทวน เหมือนกับว่าจะมีใครในนั้น เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ต้องคิดมาก จนต้องยิงแก๊ซนํ้าตากับกระสุนยางเข้ามา
ขณะที่นางอารมณ์ มีชัย บอกว่า หลังเกิดเหตุภรรยาของตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ในนั้น บอกกับตนเองว่าใน บชน. นั้น มีทั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว อยู่ข้างใน ซึ่งอยากจะถามว่าตำรวจต้องการอะไร หรืออยากให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้ ซึ่งการเดินทางไปของเรานั้นเป็นไปในลักษณะของสัญลักษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่องของกองทัพธรรมถูตำรวจเอาไปรวมทั้งนักศักษา2 คนื้ถูกจับตัวไปด้วย
ทั้งนี้ นายวัชระ กล่าวว่า เหตุใด เจ้าหน้าที่ จึงไม่ใช้เครื่องขยายเสียง บอกจะชาชนให้ทราบก่อนที่จะทำการสลายหากไม่ยุติ แต่ตำรวจไทยกลับไม่ประกาศ ซึ่งตนเองเห็นว่าตำรวจไทยขี้ขลาด ซึ่งเป็นการปฎิบัติหน้าที่ที่เกินขอบเขต นอกจากนี้ตนเองขอตั้งขอสังเกตุว่า การที่นางสร้อยฟ้า โอสุกลทิพย์ ผู้ระกาศข่างของ สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที พยายามบอกับผู้ชุมตลอดเวลาว่า ตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่ภาพที่ออกมาในวันนี้ต้องถามว่านางสร้อยฟ้าคิดอย่างไร รวมทั้งเรื่องที่นายสมัคร อ้างว่าอาวุธปืนที่อยุ่ในประจำการของตำรวจนั้นหายไป 8 กระบอก ขอยืนยันว่าพันธมิตรไม่ได้เอาไปแม้แต่กระบอกเดียว
นอกจากนี้ จากกรณีที่ ช่อง เอ็นบีที แะลช่อง 3 รายงานข่าวว่าถังนํ้าที่ตำรวจยึดได้นั้นเป็นยาเสพติดชนิด สี่คูณร้อย แตที่แท้จริงแล้วเป็นถังปัสสาวะที่จำนำไปทิ้ง ขอให้ตำรวจที่ยึดไปนั้นลองดื่มดูเผื่อว่าจะมีกำลังเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายการุณ ยังได้โชว์บาดแผลที่ถูกแก๊ซนํ้าตา เป็นบาดแผลประมาณ 3 เซนติเมตร
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 29 สิงหาคม 2551 นายวัชระ เพชรทอง นายยุทธยง ลิ้มเลิศวาที นางอารม มีชัย นายการุณ ใสงาม และนายศิรชัย ใสสะอาด ซึ่งเป็นคณะพันธมิตรฯ ที่เป็นแกนนำร่วมชุมนุมที่หน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แถลงข่าวถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาหัวคํ่าของวันนี้ โดยนายวัชระ ระบุว่า ตำรวจเป็นผู้สร้างความรุนแรงขึ้นมาก่อนโดยเฉพาะการยิงแก๊ซนํ้าตาเข้าสู่ประชาชนกว่า 10ลูก โดยพันธมิตรได้ประกาศตลอดเวลาว่า ระหว่างที่ไปกดดันที่หน้า บชน. นั้น โดยทั้งหมดได้ชูมือทั้ง 2 ข้างขึ้นว่าเป็นการมาสอบถามว่าทำไมตำรวจถึงมาตี คนแก่ ผู้หญิง และเด็ก เราเพียงอยากจะถาม โดยเฉพาะในช่วงที่นายการุณ เป็นแกนนำปราศัยนั้น ยืนยันได้ว่าไม่มีใครจะพังประตู เพียงยื่นมือไปเคาะประตู แต่กลับโดนยิงแก๊ซนํ้าตากว่า 10 ลูกยิงใส่
นายยุทธิยง กล่าวว่า เราอยากจะถามเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่กลับวิตกกังวลเกินเหตุ เรายืนยันว่าเราไม่ได้เข้ามาทำลาย อยากให้ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาคุยแต่กลับวิตกเกินเหตุ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำนั้นต้องทบทวน เหมือนกับว่าจะมีใครในนั้น เป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ต้องคิดมาก จนต้องยิงแก๊ซนํ้าตากับกระสุนยางเข้ามา
ขณะที่นางอารมณ์ มีชัย บอกว่า หลังเกิดเหตุภรรยาของตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ในนั้น บอกกับตนเองว่าใน บชน. นั้น มีทั้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว อยู่ข้างใน ซึ่งอยากจะถามว่าตำรวจต้องการอะไร หรืออยากให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้ ซึ่งการเดินทางไปของเรานั้นเป็นไปในลักษณะของสัญลักษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่องของกองทัพธรรมถูตำรวจเอาไปรวมทั้งนักศักษา2 คนื้ถูกจับตัวไปด้วย
ทั้งนี้ นายวัชระ กล่าวว่า เหตุใด เจ้าหน้าที่ จึงไม่ใช้เครื่องขยายเสียง บอกจะชาชนให้ทราบก่อนที่จะทำการสลายหากไม่ยุติ แต่ตำรวจไทยกลับไม่ประกาศ ซึ่งตนเองเห็นว่าตำรวจไทยขี้ขลาด ซึ่งเป็นการปฎิบัติหน้าที่ที่เกินขอบเขต นอกจากนี้ตนเองขอตั้งขอสังเกตุว่า การที่นางสร้อยฟ้า โอสุกลทิพย์ ผู้ระกาศข่างของ สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที พยายามบอกับผู้ชุมตลอดเวลาว่า ตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรงแต่ภาพที่ออกมาในวันนี้ต้องถามว่านางสร้อยฟ้าคิดอย่างไร รวมทั้งเรื่องที่นายสมัคร อ้างว่าอาวุธปืนที่อยุ่ในประจำการของตำรวจนั้นหายไป 8 กระบอก ขอยืนยันว่าพันธมิตรไม่ได้เอาไปแม้แต่กระบอกเดียว
นอกจากนี้ จากกรณีที่ ช่อง เอ็นบีที แะลช่อง 3 รายงานข่าวว่าถังนํ้าที่ตำรวจยึดได้นั้นเป็นยาเสพติดชนิด สี่คูณร้อย แตที่แท้จริงแล้วเป็นถังปัสสาวะที่จำนำไปทิ้ง ขอให้ตำรวจที่ยึดไปนั้นลองดื่มดูเผื่อว่าจะมีกำลังเพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายการุณ ยังได้โชว์บาดแผลที่ถูกแก๊ซนํ้าตา เป็นบาดแผลประมาณ 3 เซนติเมตร