xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” การันตี “วิฑูรย์” รอดพ้นใบแดง ไม่เกี่ยวแผนบันได 3 ขั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป.
“อภิสิทธิ์” ยัน วิฑูรย์ หลุดคดีใบแดง ไม่เกี่ยวกับบันได 3 ขั้นของ คมช.เตือนพปช.อย่าเล่นการเมืองยึดรูปแบบอดีต ทรท.ชี้ พปช.ไม่ยอมรับ 3 ร่าง พ.ร.บ.ประกอบ รธน.พร้อมประกาศตนเป็นปฏิปักษ์ศาล เท่ากับจงใจฝ่าฝืน รธน.อาจเจอถอดถอน

วันนี้ (24 ส.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทีมกฎหมายพรรคพลังประชาชนระบุการที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ถูกใบแดง เป็นไปตามแผนบันได 3 ขั้นของคณะรัฐประหารที่พยายามจะให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน และตนก็ย้ำตั้งแต่ต้นแล้วว่าการที่พรรคพลังประชาชนพยายามรื้อเรื่องของนายวิฑูรย์ ขึ้นมาเป็นความพยายามของคู่แข่งทางการเมือง แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องพิจารณา ซึ่งยังไม่ได้มีข้อยุติขั้นสุดท้าย และคิดว่าเมื่อ กกต.มีมติอย่างไร ก็ควรชี้แจงเหตุผลให้ทุกฝ่ายได้รับทราบข้อเท็จจริง

“เป็นความพยายามของพรรคพลังประชาชน ไม่ต่างอะไรจากพรรคไทยรักไทย ที่เมื่อก่อนนี้เวลามีการตรวจสอบอะไร ก็จะต้องมีการตอบโต้ด้วยวิธีนี้ พยายามทำให้เป็นเรื่องเหมือนกัน และผมคิดว่าสังคมต้องมีความเข้มแข็งพอสมควร ถ้าฝ่ายหนึ่งทำผิด อีกฝ่ายไม่ได้ทำผิด แล้วเราก็บอกว่าลำเอียงที่ให้ฝ่ายผิด ผิด และฝ่ายไม่ผิด ไม่ผิด มันก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว แต่ทั้งนี้อย่างที่ผมเรียนว่า ให้ กกต.วินิจฉัยให้เสร็จเรียบร้อย เพียงแต่ทางฝ่ายประชาธิปัตย์ได้ชี้แจงและยืนยันมาตลอด และตอนนี้เข้าใจว่าทางคุณวิฑูรย์และผู้เกี่ยวข้องก็ฟ้องร้องผู้ที่กล่าวหาโดยไม่เป็นความจริง เพราะฉะนั้นเขาก็พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณี่พรรคพลังประชาชน ยืนยันมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาศาลรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยให้เหตุผลว่าสุดโต่งเกินไปว่า หากยังไม่มีกฎหมายเหล่านี้ ทางองค์กรอิสระยังสามารถใช้กฎหมายเก่า หรือระเบียบต่างๆ เท่าที่อนุโลมไปได้ แต่คำถามที่จะต้องตั้งกับพรรคพลังประชาชน ก็คือ ทำเช่นนี้เพื่ออะไร โดยเฉพาะร่างกฎหมายที่รัฐบาลมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 มีเสียงข้างมากที่จะปรับปรุงกฎหมายได้ตามที่เห็นสมควรในวาระของกรรมาธิการ และถ้าเพียงต้องการที่จะแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับศาลด้วยการคว่ำกฎหมายในวาระที่ 3 ก็น่าคิดว่าเป็นความจงใจที่จะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในการที่จะไม่ออกกฎหมายให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

“ถ้าสุดโต่ง ทำไมในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งรัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่ ไม่ปรับปรุงให้เรียบร้อยถ้าจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ก็อยู่ในข่ายที่จะถอดถอนได้ ซึ่งต้องไปตรวจสอบดูว่ากฎหมายฉบับต่างๆ ที่จะมีการจงใจคว่ำนั้น มีเงื่อนเวลาที่ทางฝ่ายรัฐบาลทราบอยู่แล้ว อยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขเพิ่มเติมแล้วหรือไม่ ซึ่งต้องไปดูเงื่อนแต่ละฉบับ เพราะบางฉบับรัฐบาลทราบอยู่แล้วว่าต้องมีใน 1 ปี ถ้ามีการคว่ำในลักษณะที่ไม่สุจริต พูดง่ายๆ คือ รัฐบาลมีโอกาส วาระที่ 1 รับหลักการไปแล้ว วาระที่ 2 สามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขตามที่เห็นสมควรได้ ไม่ได้ทำ แต่ถึงวาระที่ 3 เพียงเพื่อจะตอบโต้ศาล และมีหลักฐานอยู่ว่าแนวความคิดเริ่มต้นมาจากการใช้มาตรการนี้ตอบโต้ศาล ผมก็มีความรู้สึกว่าไม่ได้เป็นการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติโดยสุจริตแล้ว ถ้ามีข้อขัดข้องในเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ต้องแสดงออกมาก่อนหน้านี้ ในการที่จะพิจารณาในวารที่ 1 ก็ดี หรือในกรรมาธิการก็ดี” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่พรรคพลังประชาชนมีมติในเรื่องดังกล่าวถือเป็นความจงใจที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนึ่ง ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผลดีกับใคร รวมทั้งส่วนรวมด้วย ในการที่รัฐบาลแสดงตัวเป็นตัวปฏิปักษ์กับศาล
กำลังโหลดความคิดเห็น