“ภูวดล”ย้ำรัฐบาลหุ่นเชิดเดินแผนปล้นชาติต่อเนื่องจากระบอบทักษิณ ผ่าน 8 อภิมหาโครงการ มูลล่า 1.14 ล้านล้าน หากปล่อยให้อยู่ไปประเทศชาติไม่เหลืออะไรแน่ แต่ลูกหลานต้องมารับกรรม ปลุก ปชช.ออกมาสู้ 26 ส.ค.เพื่อเปลี่ยนประเทศไปสู่ความวัฒนาถาวร ชี้หากเปลี่ยนแปลงไม่สำเร็จ ประเทศนี้จะไม่มีวันสันติสุขอีก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วานนี้ (22 ส.ค.) ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ในวันนี้ชาวไทยที่รักชาติ รักศักดิ์ศรีความเป็นไทย และรักพระมหากษัตริย์ทุกคน ไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากจะแสดงพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของทุกคน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ได้ ก่อนที่ประเทศนี้จะล่มจมไปในยุคสมัยของเรา
เพราะประเทศของเราในวันนี้แม้ดูจากเปลือกนอกจะเหมือนกับ เป็นประเทศที่มีการพัฒนาไปอย่างมาก มีพลังทางเศรษฐกิจที่น่าทึ่ง แต่หากทุกคนลองมองอย่างใจเป็นธรรมแล้ว จะเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าได้ว่าตลอด 7-10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนในประเทศของเราทำลำบากขนาดไหน หากเปรียบไปแล้วประเทศเราก็เหมือนกับมีกรรม เพราะตั้งแต่เมื่อประเทศของเราหลุดพ้นจากการ สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่คนในประเทศเดือดร้อนไปทั่ว จนกลายมาเป็นลูกหนี้ของกองทุน IMF และเมื่อหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ได้แล้ว ก็นึกว่าประเทศจะดีขึ้น แต่ก็ต้องมีสภาพเหมือนกับหนีเสือปะจระเข้ อีก เพราะต้องมาพบกับผู้นำประเทศที่หลอกลวง
เนื่องจากในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปกครองประเทศ ได้นำนโยบายประชานิยมมาบริหาร ซึ่งนโยบายแบบนี้เองซึ่งทำให้ประเทศต้องเข้าสู้ระบบ เศรษฐกิจทุนนิยม ที่คนมีเงินน้อยจะถูกดูดเข้าวงจร ด้วยนโยบายที่ฝันเฟื่อง สร้างจินตนาการว่าวันหนึ่งจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบาย สร้างสิ่งต่างๆ จูงใจให้คนใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ทำให้ตั้งแต่ปี 2545 -2549 ประชาชนในชนบทไทย กลายเป็นครอบครัวที่ทันสมัย มีความเจริญทางวัตถุแค่เพียงเปลือกนอก แต่เต็มไปด้วยหนี้สินครัวเรือนที่มากมาย เห็นได้จากการจำนวนการใช้โทรศัพท์มือถือที่เพิ่มมากขึ้น หรือการซื้อรถยนต์ที่ขยายตัวสูงขึ้นอย่างมาก
“วันนี้ประเทศไทยหนี้สินเต็มไปหมด แต่ละครอบครัวเป็นหนี้สินเต็มไปหมด อนาคตของพี่น้องจะไม่มีทางดีขึ้นเลยสำหรับคนยากไร้ ขอให้รู้ไว้ อย่าไปฝันเฟื่องว่ารัฐบาลนี้จะจัดสรรนโยบายเมกะโปรเจกต์ทั้งหลายใส่ลงไป นี้คือวาระปล้นชาติอันยิ่งใหญ่ต่อเนื่องมาของระบอบทักษิณ โดยระบอบทักษิณกลายพันธุ์ โดยพลพรรคทักษิณที่ยังหากินในประเทศนี้ได้อย่างง่ายดาย”
ศ.ดร.ภูวดล กล่าวต่อว่าสาเหตุที่คนจำพวกนี้ยังหากินคิดโกงได้อยู่ในทุกวันนี้ ก็เพราะข้าราชการส่วนใหญ่ โดยเฉพาะข้าราชการกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเศรษฐกิจต่าง ๆ ของประเทศ ที่ยังทำตัวรับใช้ระบอบทักษิณ มาโดยตลอด โดยจะคอยร่วมทุจริตหาประโยชน์ไปตามระบอบทักษิณ จนกลายเป็นระบบการโกงกินอันมโหฬาร ซึ่งถึงแม้คนดี ๆ ในกระทรวงจะมีอยู่แต่ก็ไม่มีอำนาจที่จะต่อต้านได้
ศ.ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่ารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้พยายามผลักดันโครงการขนาดใหญ่เฉพาะ 8 โครงการ ซึ่งยังไม่นับรวมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา ก็มีจำนวนเงินมากถึง 1,140,000 ล้านบาททีเดียว โดยรัฐบาลชุดนี้ตั้งเป้าถลุงเงินจากโครงการเหล่านี้ไว้แล้ว เพราะคนพวกนี้คิดว่าในเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังโกงได้ แล้วในเมื่อตั้งพวกตนมาเป็นรัฐบาลแล้วเหตุใดพวกตนจึงจะโกงบ้างไม่ได้ ดังนั้นตนมองว่า หากเรายังปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้บริหารงานต่อ แล้ววันข้างหน้าประเทศชาติคงจะไม่เหลืออะไร
“ผู้นำพรรคการเมืองบัดซบ ที่ร่วมมือกับรัฐบาลนี้ล้วนแล้วแต่ กิน ๆ โกง ๆ ให้มากที่สุดก่อนจะตายเท่านั้นเอง แล้วถามว่าปัญหาบ้านเมืองจะตกอยู่กับใคร มันก็ตกถึงคนรุ่นเราซึ่งพรุ่งนี้ก็อาจจะต้องตายไป แต่ลูกหลานของเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย ทำไมต้องมารับกรรมบัดซบของนักการเมืองรุ่นนี้เล่า”
ศ.ดร.ภูวดลกล่าวต่อว่า สิ่งที่น่าเสียใจที่สุด ก็คือการที่อธิปไตยของชาติต้องเสียไปให้กัมพูชา ทั้งที่จริงแล้วทหารไทยมีทุกอย่างพร้อมกว่าทหารกัมพูชา แต่กลับมีผู้นำทหารที่ใจเล็กกว่ามด ยอมปล่อยให้รัฐบาลกัมพูชามาคอยรุกรานดินแดน ทำให้สุดท้ายไทยต้องสูญเสียอธิปไตยของชาติไป ส่วนประชาชนชาวไทยอย่างเรา ก็ทำได้เพียงใส่เสื้อว่าเขาพระวิหารเป็นของไทยเพียงเท่านั้น เพราะบรรดาผู้นำทหาร และผู้นำเหล่าทัพก็ทำเพียงตีกอล์ฟ เข้าร้านอาหารหรู ๆ แล้วก็รอรับเงินทองข้าวของจากนักการเมืองไปวัน ๆ โดยไม่คำนึงถึงว่าชาติไทย และคนไทยจะเป็นอย่างไร
ดังนั้นตนจึงอยากจะขอร้องพี่น้องประชาชนทุกคนว่า ในวันอังคารที่ 26 ส.ค. นี้ขอให้ทุกออกมาร่วมสู้ เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ให้ไปสู้ความวัฒนาถาวร เพื่อที่เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างสันติสุขต่อไป แต่หากเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ประเทศนี้ก็ไม่มีวันที่จะมีสันติสุขอีกต่อไป