ที่ประชุม กมธ.สั่งปรับลดงบประมาณ ปี 52 ถึง 52,699 ล้านบาท งบกลางโดนหนัก 17,490 ล้าน เล็งปรับงบค่ารักษาพยาบาล 3,600 ล้าน หลังบวมเกินเหตุ คาดพิจารณาวาระ 2-3 วันที่ 2 ก.ย.นี้
วันนี้ (13 ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 กล่าวว่า กมธ.ได้พิจารณาปรับลดลงประมาณในภาพรวมเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยมียอดปรับลดงบประมาณทั้งสิ้น 52,699 ล้านบาท โดยวันนี้จะเป็นวันเริ่มต้นให้หน่วยราชการที่มีปัญหาในการใช้งบประมาณมาชี้แจงความจำเป็นที่จะขอคืนงบประมาณที่ได้ปรับลดไป จากนั้นจะเชิญ ส.ส.ที่สงวนคำแปรญัตติไว้มาชี้แจงเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ได้ภายในวันที่ 2-3 กันยายน 2551
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า งบกลางเป็นงบประมาณที่ยอดการปรับลดมากที่สุดที่ 17,490 ล้านบาทโดยเป็นการปรับลดในส่วนที่เกี่ยวกับเบี้ยหวัด, เงินบำนาญ, บำเหน็จ, เงินสำรอง, เงินสมทบ และค่าใช้ง่ายในการรักษาพยาบาล โดย กมธ.การมีความเห็นให้ปรับลดในส่วนของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลซึ่งมีการตั้งงบไว้ถึง 48,600 ล้านบาท กมธ.พิจารณาปรับลดลง 3,600 ล้านบาท โดย กมธ.ได้ขอให้กรมบัญชีกลางใช้ความสามารถในการบริหารงบประมาณเนื่องจากงบส่วนดังกล่าวมีการตั้งเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีหากปล่อยต่อไปงบประมาณจะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
“ปัญหาที่ถกกันมากคืองบรักษาพยาบาล โดยหน่วยราชการชี้แจงว่าตัวเลขที่ใช้จริงอาจต้องใช้ถึง 50,000 ล้านบาท ซึ่งกมธ.มองว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คงต้องให้กรมบัญชีกลางใช้ฝีมือการบริหารงบประมาณส่วนนี้” นพ.วรงค์ กล่าว
ส่วนการปรับลดงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย และงบจังหวัดมีการปรับลดลง 16,434 ล้านบาทและ 3,220 ล้านบาท ตามลำดับเนื่องจากการชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร (งบจังหวัดละ 10 ล้านบาท)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่ถูกปรับลดงบประมาณยังประกอบด้วย กระทรวงคมนาคมปรับลด 3,577 ล้านบาท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2,739 ล้านบาท งบรัฐวิสาหกิจ 1,690 ล้านบาท กองทุนและเงินหมุนเวียน 1,360 ล้านบาท
วันนี้ (13 ส.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552 กล่าวว่า กมธ.ได้พิจารณาปรับลดลงประมาณในภาพรวมเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยมียอดปรับลดงบประมาณทั้งสิ้น 52,699 ล้านบาท โดยวันนี้จะเป็นวันเริ่มต้นให้หน่วยราชการที่มีปัญหาในการใช้งบประมาณมาชี้แจงความจำเป็นที่จะขอคืนงบประมาณที่ได้ปรับลดไป จากนั้นจะเชิญ ส.ส.ที่สงวนคำแปรญัตติไว้มาชี้แจงเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ได้ภายในวันที่ 2-3 กันยายน 2551
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า งบกลางเป็นงบประมาณที่ยอดการปรับลดมากที่สุดที่ 17,490 ล้านบาทโดยเป็นการปรับลดในส่วนที่เกี่ยวกับเบี้ยหวัด, เงินบำนาญ, บำเหน็จ, เงินสำรอง, เงินสมทบ และค่าใช้ง่ายในการรักษาพยาบาล โดย กมธ.การมีความเห็นให้ปรับลดในส่วนของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลซึ่งมีการตั้งงบไว้ถึง 48,600 ล้านบาท กมธ.พิจารณาปรับลดลง 3,600 ล้านบาท โดย กมธ.ได้ขอให้กรมบัญชีกลางใช้ความสามารถในการบริหารงบประมาณเนื่องจากงบส่วนดังกล่าวมีการตั้งเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีหากปล่อยต่อไปงบประมาณจะขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ
“ปัญหาที่ถกกันมากคืองบรักษาพยาบาล โดยหน่วยราชการชี้แจงว่าตัวเลขที่ใช้จริงอาจต้องใช้ถึง 50,000 ล้านบาท ซึ่งกมธ.มองว่าถ้าเป็นอย่างนี้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คงต้องให้กรมบัญชีกลางใช้ฝีมือการบริหารงบประมาณส่วนนี้” นพ.วรงค์ กล่าว
ส่วนการปรับลดงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย และงบจังหวัดมีการปรับลดลง 16,434 ล้านบาทและ 3,220 ล้านบาท ตามลำดับเนื่องจากการชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดไม่มีความชัดเจนเท่าที่ควร (งบจังหวัดละ 10 ล้านบาท)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานที่ถูกปรับลดงบประมาณยังประกอบด้วย กระทรวงคมนาคมปรับลด 3,577 ล้านบาท กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2,739 ล้านบาท งบรัฐวิสาหกิจ 1,690 ล้านบาท กองทุนและเงินหมุนเวียน 1,360 ล้านบาท