xs
xsm
sm
md
lg

แฉงาบ “ฝายแม้ว” 3,300 ล้าน โครงการลดโลกร้อนเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ
แฉ! ทุจริตในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3,300 ล้าน ในการสร้าง “ฝายแม้ว” ตามโครงการลดภาวะโลกร้อน ระบุงาบกันเป็นขบวนการ ตั้งแต่ฝ่ายการเมืองยันฝ่ายปฏิบัติ ใครขวางเจอคำสั่งโยกย้ายไปให้พ้นทาง

วันนี้ (7 ส.ค.) แหล่งข่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการทุจริตคอร์รัปชันในโครงการสร้างฝายผสมผสาน หรือ “ฝายแม้ว” ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งฝายดังกล่าวนี้เป็นฝายที่สร้างขึ้นโดยใช้วัสดุในท้องถิ่น เพื่อชะลอน้ำและเก็บกักน้ำตามลำธารหรือแหล่งน้ำขนาดเล็ก

โครงการสร้างฝายผสมผสานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการลดภาวะโลกร้อน ซึ่งทางกระทรวงได้มีการรณรงค์ในเรื่องนี้ โดยดึงงบประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณประจำปี 2551 ของกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นเงินประมาณ 3,300 ล้านบาท มาดำเนินการ โดยกระจายไปอยู่ในความรับผิดชอบของ 3 กรมหลัก คือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรน้ำ โดยมีพื้นที่เป้าหมายเฉพาะภาคเหนือเท่านั้น

“ที่น่าอนาถใจ คือ งบประมาณ 30% ที่ดึงมาจากงบประจำปี 51 ของทั้งกระทรวงฯ จำนวน 3,300 ล้านนั้น ครึ่งหนึ่งถูกฝ่ายการเมืองหักไว้ คือ 1,650 ล้านบาท ที่เหลือ 1,650 ล้านบาทนั้นก็จะถูกผู้บริหารระดับสูงของกรม และผอ.สำนักฯ หักไว้อีกครึ่งหนึ่ง คือ 825 ล้านบาท เหลือไปให้ผู้ปฏิบัติงานในการสร้างฝายเพียง 825 ล้านบาทเท่านั้น และงบจำนวนนี้ก็ไปกระจุกอยู่เฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งๆที่ภาคอื่นก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน” แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ยังมีข้อที่น่าสังเกต คือ ในการสร้างฝายนั้นได้มีการก่อสร้างในช่วงหน้าฝน ซึ่งฝายผสมผสานนี้ไม่ใช่ฝายคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ใช้ไม้ ไม้ไผ่ หิน ดิน หรือวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่นในการก่อสร้าง จุดประสงค์เพื่อชะลอการไหลของน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชี้นให้ผืนป่า แต่เมื่อฝนตกหนัก น้ำไหลบ่ามาแรง ฝายดังกล่าวนี้ก็พังหมดทำให้ไม่สามารถตรวจสอบการใช้งบประมาณได้ เพราะเมื่อฝ่ายตรวจรับงานมาตรวจสอบ ฝ่ายปฏิบัติก็อ้างว่าได้สร้างแล้ว แต่น้ำป่าได้พัดพังไปหมดแล้ว

จะเห็นได้ว่าโครงการฝายผสมผสานนี้เป็นโครงการผลาญงบประมาณของชาติ มีการทุจริตคอร์รัปชันกันทุกระดับ ตั้งแต่ฝ่ายการเมือง ข้าราชการระดับสูง ยันกระทั่งฝ่ายปฏิบัติ

แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังมีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่เป็นคนใกล้ชิดของฝ่ายการเมืองมาดูแล และเพื่อวางแผนในการปรับโครงสร้างบุคลากรที่จะเติบโตในสายงานต่อไป ซึ่งไม่ต่างจากการโยกย้ายในกองทัพ ที่มีการถือรุ่น ถือพรรคพวกเป็นหลัก

“ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ มีคำสั่งกรมอุทยานฯ ให้ย้ายนายโกวิทย์ สุรธรรม ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลกไปเป็น ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 9 อุบลราชธานี และ ล่าสุดก็ถูกย้ายข้ามกรมไปเป็น ผอ.สำนักวิเคราะห์แผนและนโยบาย กรมทรัพยากรน้ำ แล้วย้ายนายศักดา วิเชียรศิลป์ ซี 8 ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนักการเมือง มาเป็น ผอ.สำนักพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก อัตราซี 9 ซึ่งตำแหน่งนี้เปรียบเสมือนแม่ข่าย คุมโครงการฝายผสมผสาน ในพื้นที่ภาคเหนือ

นอกจากนี้ยังมีการโยกย้าย นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานฯ ไปช่วยราชการที่สำนักงานปลัดกระทรวง แล้วให้ นายไพศาล กุวลัยรัตน์ มารักษาราชการแทน เพื่อทำการเซ็นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับล่างที่เป็นกลุ่มที่ใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองไปยึดกุมในตำแหน่งหลักต่างๆ เนื่องจากที่ผ่านมานายเฉลิมศักดิ์ไม่ยอมเซ็นโยกย้ายให้ตามใบสั่งฝ่ายการเมือง” แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น