โปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่แล้ว “ไชยา” นั่ง รมว.พาณิชย์-“โกวิท” รองนายกฯ ควบมท.1 “มั่น” ขึ้นรองนายกฯ ควบ รมว.ไอซีที “มิ่งขวัญ” ไปอุตสาหกรรม ส่วน “เฉลิม-สุวิทย์” หลุดตามคาด
วันนี้ (2 ส.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ออกประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ ความว่า
ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี และแต่งตั้งรัฐมนตรี
(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นาย สมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 29 มกราคม พุทธศักราช 2551 แล้ว และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ตามประกาศลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2551 แล้ว และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ 26 กรกฎาคม พุทธศักราช 2551 นั้น
บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ
อาศัยอำนาจคามความในมาตรา ๑๗๑ และมาตรา ๑๘๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้
1.ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีดังต่อไปนี้
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
นายสุวิทย์ คุณกิตติ
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
นายสิทธิชัย โควสุรัตน์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี
2. ให้แต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้
พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายมั่น พัธโนทัย เป็นรองนายกรัฐมนตรี
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายพิเชษฐ์ ตันเจริญ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายประสงค์ โฆษิตานนท์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 2 สิงหาคม พุทธศักราช 2551 เป็นปีที่ 63 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
นอกจากนั้น สำนักเลขาธิการยังออกประกาศลงวันที่ 2 ส.ค.2551 ความว่า ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่ 2 สิงหาคม พุทธศักราช 2551 นั้น
บัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกรัฐมนตรีนำรัฐมนตรีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ในวันอังคารที่ 5 สิงหาคม 2551 เวลา 17.00น. ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อย่างไรก็ตาม สำหรับอดีตรัฐมนตรี ที่หลุดจากตำแหน่งครั้งนี้ได้แก่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.มหาดไทย นอกจากนั้นยังมี ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่ลาออกจาก รมช.คลังไปก่อนหน้า และนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ ที่ลาออกจาก รมช.มหาดไทย
สำหรับ เบื้องหลังของรัฐมนตรีหน้าใหม่นั้น พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย เป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้รับตำแหน่งในช่วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในฐานะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 6 กับ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ประธาน คมช. อย่างไรก็ตาม จากความล้มเหลวในการควบคุมเหตุการณ์เผาโรงเรียนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศและความไม่เอาใจใส่ต่อเหตุการณ์ระเบิดส่งท้ายปีใหม่เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2549 ทำให้ ถูกย้ายเข้าไปช่วยราชการสำนักนายกฯ จนกระทั่งเกษียณอายุราชการ
นอกจากนี้ พล.ต.อ.โกวิท ยังถูก พล.ต.ท.นิสัย บุญศิริ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีขัดขวางไม่ให้เข้าร่วมโครงการเกษียณก่อนอายุราชการ (เออร์ลี่ รีไทร์) ซึ่งศาลอาญากรุงเทพฯใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 12 ก.ค.50 ให้จำคุก พล.ต.อ.โกวิทเป็นเวลา 1 ปี โดยให้รอลงอาญา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างชั้นอุทธรณ์
ส่วนนายพิเชษฐ์ ตันเจริญ รมช.พาณิชย์ นั้น เป็น ส.ส.จังหวัดฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อแผ่นดิน สมาชิกกลุ่มบ้านริมน้ำ น้องชายนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรค
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.วัฒนธรรม เป็นอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และเป็น ส.ส.พรรคพลังประชาชนในกลุ่มอีสานพัฒนา ซึ่งมีการเรียกร้องโควตารัฐมนตรีให้กับกลุ่ม โดยให้นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขอันดับแรก นายเจริญ จรรโกมล อันดับสอง และนายสมศักดิ์ อันดับสาม แต่ปรากฏว่าเมื่อนายสมศักดิ์ติดโดได้เป็นก่อน ทำให้เกิดความขัดแย้งกันภายในกลุ่ม และนายสมศักดิ์ได้ตัดสินใจลาออกจากกลุ่มแล้ว
นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.เพชรบูรณ์ เป็นเจ้าของกิจการหินอ่อน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมช.คลัง เป็นนักธุรกิจด้านอัญมณีและการส่งออก เจ้าของกิจการเหมืองแร่ที่จังหวัดพังงา ทั้ง 2 คนนี้เป็นนายทุนให้กับพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยนายประสงค์ได้ตำแหน่งแทนนายสิทธิชัย โค้วสุรัตน์ ที่ประกาศลาออกก่อนปรับครม. ส่วนนายพิชัย ได้ตำแหน่งแทน ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ที่ลาออกก่อนปรับ ครม.เช่นกัน
ส่วนนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมช.คลัง เป็นอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และเป็นกรรมการธนาคารหลวงหลวงไทย กรรมการอิสระ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เข้ามาเป็นรัฐมนตรีตามคำเชิญของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายฯ และ รมว.คลัง
