พันธมิตรฯ อ่านคำประกาศต่อหน้าอนุสาวรีย์ฯ ยืนหยัดพิทักษ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต่อต้านการแก้ไข รธน.50 ให้ถึงที่สุด แม้ “รัฐบาลหุ่นเชิด” ของระบอบทักษิณใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อ ก็ไม่ย่อท้อ พร้อมลั่นเป่านกหวีดชุมนุมใหญ่ภายใน 7 วัน หากยื่นญัตติแก้ไข รธน.เข้าสภา
เมื่อเวลาประมาณ 10.50 น.วันนี้ (2 ส.ค.) ภายหลังจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมด้วยประชาชนร่วม 1 แสนคน เคลื่อนขบวนมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและตั้งขบวนอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมงแล้ว นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ได้อ่านคำประกาศพันธมิตรฯ เพื่อยืนหยัดพิทักษ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนี้
คำประกาศ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง
ยืนหยัดพิทักษ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ณ บัดนี้ ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำ ได้เคลื่อนขบวนมหาประชาชนมาถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อย่างมีชัยแล้ว
เราเคลื่อนขบวนมาที่นี่ หลังจากที่ได้หยุดยั้งรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ และพรรคมารแห่งระบอบทักษิณ มิให้ยื่นญัตติล้มล้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ที่ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ของคนในประเทศถึง 14 ล้าน 7 แสนคน ไว้เปลาะหนึ่งแล้ว หลังจากที่ได้หยุดยั้งได้สำเร็จในครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 แต่ทว่ารัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติและเหล่าพรรคมารแห่งระบอบทักษิณยังมิได้สำนึกผิด ยังคงใช้เล่ห์เพทุบายยืดเวลา ที่จะล้มล้างรัฐธรรมนูญต่อไป โดยหวังให้ประชาชนชาวไทยที่ยืนหยัดพิทักษ์รัฐธรรมนูญต้องเหนื่อยล้าและท้อถอยไปเอง
แต่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ และเหล่าพรรคมารแห่งระบอบทักษิณคิดผิด เพราะประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จะไม่มีวันเหนื่อยล้า หรือท้อถอยเป็นอันขาด หากจะยังคงยืนหยัดพิทักษ์การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหาษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเด็ดเดี่ยวและถึงที่สุด
ผองเราสำนึกเป็นอย่างดีว่า นับแต่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสละพระราชอำนาจของพระองค์ พระราชทานรัฐธรรมนูญ และวางศิลาฤกษ์ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขขึ้นในราชอาณาจักรนี้แล้ว พระบรมราชเจตนาของพระองค์ที่จะไม่ทรงสละพระราชอำนาจเพื่อคนใดหรือคณะใด แต่ทรงสละพระราชอำนาจให้กับปวงชนชาวไทย เพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชนชาวไทย ยังคงดำรงความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นหลักยึดของการปกครองแห่งราชอาณาจักรนี้
แต่ทว่า 76 ปีมาแล้ว พระบรมราชปณิธานของพระองค์ก็ยังมิได้สำเร็จดังพระราชประสงค์ เพราะมีนักการเมืองชั่วรุ่นแล้วรุ่นเล่า ทรยศต่อพระบรมราชปณิธานของพระองค์ แย่งยึดเอาอำนาจอธิปไตยที่ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย ไปเป็นของคนคนเดียวหรือหมู่คณะมาโดยลำดับ และนับถึงบัดนี้พระบรมราชปณิธานนั้น ก็ถูกรัฐบาลหุ่นเชิด ขายชาติและเหล่าพรรคมารแห่งระบอบทักษิณ ย่ำยี ทำลาย จนใกล้ดับสูญ ดังนั้นประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศที่จงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงไม่อาจยอมได้อีกต่อไป แล้วพร้อมกันตั้งปณิธานที่จะทำลายการเมืองแบบเก่าที่เน่าเฟะ ที่ปล้นชาติ ปล้นประชาชน เพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง เพื่อสร้างการเมืองใหม่ สืบสานพระบรมราชปณิธานที่ทรงสละพระราชอำนาจให้แก่ปวงชนชาวไทย เพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชนชาวไทยให้จงได้
พวกเราเคลื่อนขบวนมา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแห่งนี้ ก็ด้วยรำลึกว่า ณ ที่นี้ ณ อนุสาวรีย์แห่งนี้ คืออนุสาวรีย์แห่งเจตนารมณ์ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งวีรชนชาวไทย ที่วีระกล้าหาญ ทุกยุคทุกสมัย รวมถึงวีรชน 14 ตุลา 2516, วีรชน 6 ตุลาคม 2519, วีรชน เดือนพฤษภาคม 2535 และวีรชนนิรนามจำนวนมากได้หลั่งเลือด พลีชีพ เสียสละแรงกายแรงใจ หยาดเหงื่อ และทรัพย์สิน เพื่อหมายธำรงและสืบสร้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคงสถาพรในราชอาณาจักรนี้ พวกเราจึงเคลื่อนขบวนมา ณ ที่นี้ เพื่อแสดงความคารวะ เพื่อรำลึกถึง คุณูปการ และจิตใจที่เสียสละ กล้าหาญ ของเหล่าวีรชน เพื่อเป็นแบบอย่างของปวงชนชาวไทยสืบไป และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ตลอดจนเพื่อความเป็นสิริมงคล และชัยมงคล แก่ปวงชนชาวไทยที่กำลังเคลื่อนไหวต่อสู้ เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ พิทักษ์เอกราชอธิปไตยของชาติ และพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พวกเราขอสักการะและอ้อนวอน ดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าวีรชน ซึ่งยังปกปักษ์รักษาผืนแผ่นดินนี้อยู่ และห่วงใยการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอยู่ ได้อำนวยอวยชัย และประสาทพรให้ผองประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีชัยชนะต่ออริราชศัตรูทั้งปวง มีชัยชนะต่อผู้มีจิตใจชั่วช้า โดยเฉพาะคือรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ และเหล่าพรรคมารแห่งระบอบทักษิณ สามารถพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มิให้ถูกล้มล้างได้สำเร็จ และให้รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติรวมทั้งพรรคมารแห่งระบอบทักษิณพินาศไป
ด้วยสัจวาจา และพลังจิตอันบริสุทธิ์ของมวลมหาประชาชนในที่นี้ จงประสิทธิ์ประสาทชัยชนะ และความสำเร็จแก่ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นแกนนำด้วยเทอญ
ด้วยความรักชาติ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2551
ต่อมา เวลาประมาณ 11.10 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ ได้นำประกาศสัจจาวาจา โดยให้ประชาชนผู้มาร่วมชุมนุมหันหน้าเข้าหาอนุสาวรีย์ หลังจากนั้นได้กล่าวว่า "พวกเราพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และองค์กรแนวร่วมขอประกาศเจตจำนงค์อันแรงกล้าและให้สัจจะวาจาว่า ทันทีที่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติ รัฐสภาเน่าเฟะ ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ ขอประกาศลุกขึ้นสู้ประจัญบานและเป่านกหวีดภายใน 7 วัน นับแต่วันยื่น
"นี่เป็นคำสั่งเด็ดขาด เป็นการรบครั้งสุดท้าย ลุกขึ้นสู้และประจัญบาน
"ประชาชน จงเจริญ กองทัพของพระราชา กองทัพของพระราชินีจงเจริญ
"ก่อนเคลื่อนขบวนไชโย พร้อมกัน 3 ครั้ง ไชโย ไชโย ไชโย"
หลังจากนั้นขบวนประชาชนได้เคลื่อนไปยังศาลหลักเมืองและวัดพระศรีรัตนศาสดารามเพื่อทำพิธีสัการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อไป