อดีตโฆษก คตส.ระบุการทำหน้าที่ในฐานะ คตส.ถือว่าสิ้นสุดแล้ว หลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมานและพวก มั่นใจพยานหลักฐานเลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ แน่นหนา แม้จำเลยจะยื่นอุทธรณ์สู้ก็ตาม
วันนี้ (31 ก.ค.) นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุกคุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายบรรพจน์ ดามาพงศ์ และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวเป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันจงใจหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้นบริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 546 ล้านบาทจากหุ้นจำนวน 4.5 ล้านหุ้นซึ่งมีหุ้นมูลค่า 738 ล้านบาท โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง โดยใช้กลอุบายอันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 37 (1) (2) และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 และ 91
โดยศาลสั่งจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 รวมคนละ 3 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 จำคุก 2 ปี ว่า การทำงานของ คตส.ถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว และคดีดังกล่าว คตส.ทำงานอย่างเต็มที่ มีพยานหลักฐานชัดเจนและแน่นหนา จนนำไปสู่กระบวนการยุติธรรม และมีคำพิพากษาดังกล่าว ส่วนการยื่นอุทธรณ์ของจำเลยทั้ง 3 นั้นก็เป็นสิทธิของผู้ตกเป็นจำเลยที่สามารถทำได้ ส่วนจะนำประเด็นใดมาหักล้างยังไม่สามารถทราบได้ แต่เชื่อว่าสำนวนคดีนี้มีหลักฐานและพยานชัดเจนแน่นหนามาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำพิพากษาเสร็จสิ้น พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมคุณหญิงพจมาน บุตรชายและบุตรสาวได้เดินทางกลับทันที โดยทุกคนมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทั้งหมดมีอาการเครียดตั้งแต่ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษา จนกระทั่งเสร็จสิ้น บุตรสาวคุณหญิงพจมานถึงกับส่ายหน้า ขณะที่ พ.ต.ท ทักษิณไม่พูดจาใดๆ ต่อสื่อมวลชน ก่อนจะขึ้นรถกลับในทันที