พันธมิตรฯ ปักหลักริมถนนวิภาวดีฯ หน้าสำนักงานใหญ่ ปตท.นับหมื่นคน ขณะที่ 3 แกนนำ “สนธิ-สมศักดิ์-สมเกียรติ” กล่าวปราศรัยโจมตีนักการเมือง สมคบผู้บริหาร ปตท.สูบเลือด ปชช. พร้อมสัญญาทวงคืนกิจการน้ำมันแห่งชาติกลับเป็นของประชาชนให้ได้
ตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้ (25 ก.ค.) กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทยอยเดินทางมาที่บริเวณด้านหน้า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต อย่างต่อเนื่อง มาปักหลักอยู่ใต้สะพานกลับรถข้ามแยกลาดพร้าว ฝั่งด้านหน้าประตูใหญ่สำนักงาน ปตท. และมีการร้องเพลงปลุกใจเพื่อรอผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ที่จะเคลื่อนพลมาสมทบ รวมทั้งเปล่งเสียงร้องตะโกนทวงคืน ปตท.อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สำนักงาน ปตท.ยังคงปิดประตูทางเข้าออกทุกทาง โดยอนุญาตให้พนักงาน ปตท.เข้าไปภายในอาคารได้ แต่ยังไม่อนุญาตให้ออกจากอาคาร โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
เวลา 10.00 น.ประชาชนทยอยมาถึงหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท.จำนวนมากขึ้น ขณะที่ตำรวจได้สั่งปิดการจราจรบนถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณด้านหน้าสำนักงานใหญ่ ปตท.เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางด้านการจราจร โดยจะปิดถนนไปจนกว่าการชุมนุมจะยุติ
เวลาประมาณ 10.15 น. นายอมร อมรรัตนานนท์ โฆษกบนเวทีเคลื่อนที่ได้ประกาศชี้แจงการจัดชุมนุมเพื่อให้พื้นที่ด้านหน้า ปตท.สามารถรองรับผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเดินทางมาถึง และให้ระวังฝ่ายตรงข้าม ซึ่งมีข่าวว่าได้ส่งคนเข้ามาประมาณ 200 คน แทรกในกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อยุยงให้ก่อความวุ่นวาย
หลังจากนั้น นายอมรเริ่มปราศรัยถึงเหตุผลที่ควรจะนำ ปตท.ออกจากตลาดหลักทรัพย์ และกลับมาเป็นของประชาชน ตามด้วยการปราศรัยของนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ที่ตอกย้ำเหตุผลการทวงคืน ปตท. และเตือนอีกครั้งเรื่องการแทรกซึมเข้ามาก่อกวนของฝ่ายตรงข้าม
เวลาประมาณ 10.30 น.แกนนำพันธมิตรฯ ประกอบด้วยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ได้เดินทางมาถึง อย่างไรก็ตาม ต้องรอขบวนใหญ่ที่ยังอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสที่สวนจตุจักร แกนนำจึงจะเริ่มขึ้นปราศรัย
นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวปราศรัยว่า การดำเนิการของปตท.ขัดแย้งกับความรู้สึกของประชาชน ตั้งแต่ปี 45 ปตท.กลายเป็นบริษัทมหาชน มีการขายหุ้นล็อตใหญ่หมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ถือเป็นการขายหุ้นรวดเร็วที่สุดในโลก นี่คือการปล้นประชาชนอย่างชัดเจนที่สุด เพราะหุ้นส่วนใหญ่ตกอยู่ในมือนักการเมือง นักธุรกิจ ที่เป็นพวกพ้องนักการเมือง รวมทั้งผู้บริหาร ปตท.
เลขาธิการสหภาพฯ กล่าวต่อว่า หลังแปรสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ ขายปตท.ไปแล้ว ราคาน้ำมันเดือน มิ.ย.49 อยู่ที่ 12 บาทกว่าๆ วันนี้ 25 ก.ค.51 ราคาน้ำมันอยู่ที่ 43 บาทกว่า ระยะเวลา 5 ปีเศษๆ ราคาน้ำมันดีเซลกลับสูงขึ้นกว่า 30 บาท นี่คือการกดขี่ขูดรีดประชาชน สร้างความร่ำรวยนักการเมือง นักธุรกิจ ผู้บริหาร ปตท.ซึ่งไม่เคยสนใจประชาชน
“เราพันมิตรฯ และสหภาพแรงงานฯ ขอสัญญาว่า เราจะร่วมกับปฎิบัติการทวงคืนของ ปตท.กลับมาทวงคืนกลับมาเป็นของประชาชนให้ได้ ซึ่งพลังของมวลชนมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ ปตท.กลับคืนมาเป็นของชาติและประชาชน” นายสาวิทย์กล่าว
ด้าน สมศักดิ์ โกสัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยว่ารัฐบาลชั่วยกเอาปตท.กลายเป็นของนายทุนไปแล้ว นักการเมือง พวกพ้อง และผู้บริหาร ปตท.อยู่ดีกินดี ขณะที่ประชาชนเดือดร้อนกันทั่วหน้า น้ำมันขึ้นราคา ขึ้นเอาๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ ปตท.และรัฐบาลกลับไม่ทำอะไรเลย ปตท.กำไรปีละแสนล้าน เอาเงินเข้ากระเป๋าใคร ไม่เคยตกถึงประชาชนเลย มีแต่กดขี่ขูดรีดประชาชน ให้ใช้น้ำมันแพง สำนักงาน ปตท.ตั้งอยู่บนที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เดี๋ยวประชาชนจะเอาที่ดินของชาติคืน