“สมศักดิ์” สุดทน ประกาศท้าชน “สัตว์นรก” ที่ไร้ความเป็นธรรม อัดยับ ตร.รับใช้รัฐบาลหุ่นเชิดหน้ามืด อ้างมาตรฐาน “ดา ตอร์ปิโด” ออกหมายจับ “สนธิ” สนอง “นายใหญ่” ย้ำชัดยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม พร้อมปลุก “พันธมิตรฯ” ทั่วประเทศ รวมพลังลุกฮือต่อสู้กับ “เหล่าคนชั่ว”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วันนี้ (23 ก.ค.) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในข้อหาเผยแพร่คำปราศรัยของ น.ส.ดารณี ชาญเชิงศิลปกุล หรือดา ตอร์ปิโด ว่า พี่น้องพันธมิตรฯ จำเหตุการณ์ในวันที่พันธมิตรฯ ไปชุมนุมเสวนาที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่กลับโดน นปก.ขว้างสิ่งของเข้ามาจนมีคนเลือดตกยางออกจำนวนมากถึง 2 ครั้ง และยังโดนรังแกอีกหลายๆ ครั้ง รวมไปถึงกรณีที่มีกลุ่มคนยกพวกบุกไปทำลายบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งเราก็เห็นกันอยู่ จนมาถึงกรณีที่ตำรวจออกหมายจับนายสนธิ แล้วบอกว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกับ น.ส.ดารณี ดังนั้น การกระทำเช่นนี้มันชี้ชัดว่าเรากำลังต่อสู้กับสัตว์นรกที่ไม่มีความเป็นธรรมแม้แต่นิดเดียว
“กรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ เพราะรัฐบาลที่เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราจะเห็นจากการโยกย้ายนายตำรวจที่ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลหุ่นเชิด เพื่อต่อสู้กับพันธมิตรฯ เพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของเขา แต่เมื่อเราต่อสู้ความจริงก็ปรากฏ จนทำให้รัฐมนตรี 3-4 คน ออกไปจากรัฐบาลแล้ว ฉะนั้นเราต้องตระหนักถึงความเลว ซึ่งคนพวกนี้มันเลวโดยมหัศจรรย์ ดังนั้น อย่าไปโศกเศร้า อย่าไปกลัวความไม่เป็นธรรม เพราะคนมีเจตนาดี จะไม่มีวันพ่ายแพ้คนชั่ว ดังนั้น ถ้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นกัน ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มาสู้กัน” นายสมศักดิ์ กล่าว
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า การต่อสู้กับอธรรม มันก็ต้องมีอุปสรรคเป็นเรื่องปกติ ถ้าติดคุกเราก็ยอม เพราะถือเป็นเรื่องเล็ก ให้มันรู้ว่าคุกเอาไว้ขังคนดี โดยมีคนชั่วครองเมืองอยู่อย่างนิรันดร ถ้าเป็นอย่างนั้น ส่วนเรื่องการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ต้องมีเจตนา ยกตัวอย่าง หากคนแรกที่ลุกขึ้นมาพูดจาบจ้วงสถาบัน แล้วคนหลังบอกว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แล้วอีกคนก็บอกว่ามาตรฐานเดียวกัน ก็เหมือนคนหนึ่งไปขโมยของ แล้วมีคนช่วยจับโจรช่วยเอาของกลางไปคืน แต่กลับหาว่าโดนของกลาง แล้วจะต้องโดนข้อหาเดียวกัน
“ความโลภทำให้คนเราทำได้ทุกอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันโคตรเลว ผมยังมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เพราะมีอยู่ถึง 3 ศาล โดยในอดีตสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดจาจาบจ้วงสถาบันหลายครั้งหลายหน แต่อัยการสั่งไม่ฟ้อง ดังนั้นเราต้องดูกรรมที่แสดงเจตนา เพราะคนที่ป้องกันเพื่อต้องการรักษาสิ่งที่เป็นธรรมให้อยู่กับประเทศไทย ฉะนั้นอย่าไปวิตกกังวลกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ฉะนั้น เราจึงต้องแปลเปลี่ยนความอธรรม โดยการเสริมกำลังที่จะสู้กับมัน ฉะนั้นเราอย่าไปหมดกำลังใจ และสร้างกำลังใจให้กับทุกคน ซึ่งเมื่อร้อยเรียงกันขึ้นมาใหม่ มันก็จะกลายเป็นกองทัพ ดังนั้น อย่าอ่อนแอ เพราะเราจะชนะได้ด้วยจิตใจที่กล้าหาญ โดยจะต้องมองปัญหาให้เป็นเรื่องเล็กๆ เราจะสู้ให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมศิโรราบให้กับพวกมันอย่างเด็ดขาด” แกนนำพันธมิตรฯ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า พี่น้องประชาชนเดินทางไปแสดงความรักชาติ มันก็เอาคนมาขวาง มาตีที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ รวมทั้งกรณีที่นายการุณ ใสงาม ได้รับบาดเจ็บ เพราะโดนหนังสติ๊กยิง แต่เขากล้าสู้อยู่เปิดเวที จนท้ายที่สุดไอ้พวกนั้นก็หนีไป ดังนั้น สุดท้ายอำนาจเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอำนาจเถื่อน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนเลวคือใคร สิ่งเหล่านี้จึงส่งสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ชัยชนะใกล้เข้ามาแล้ว เพราะฝ่ายตรงข้ามเร่งเร้า โดยเขาพยายามอัดฉีดเงินอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะดึงคนมาต่อสู้ เพื่อที่จะดิ้นให้หลุดพ้นจากความผิดทั้งหลายที่ถูกพันธนาการอย่างแน่นหนา ฉะนั้นวันนี้เขาจึงพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความรุนแรง โดย พ.ต.ท.ทักษิณ วางแผนเพื่อหาทางหนีไปต่างประเทศ โดยอ้างว่าเกิดจากสถานการณ์รุนแรง
“กองทัพของเราต้องฉลาด โดยสร้างสันติวิธี แล้วอาศัยจังหวะเป่านกหวีดเพื่อไปสู่จุดชี้เป็นชี้ตาย ดังนั้น ทุกจังหวัดต้องมารวมตัวกันโดยเปิดเผย เขาจึงพยายามทำทุกอย่าง ส่วนตำรวจที่มีอำนาจ ซึ่งดำเนินการเรื่องนี้นั้น เขาไม่มีความรู้สึกเรื่องความถูกต้อง และความเป็นธรรม ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพราะทำเพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มบางพวก ฉะนั้น กรรมจึงแสดงเจตนาด้วยการแสดงออกโดยกาย วาจา และใจ ดังนั้น เราจึงมาคิดแผนการต่อสู้กับอำนาจอธรรมที่อยู่กับคนชั่ว โดยเราจะสู้กับมันด้วยหนึ่งสมอง สองมือ และสองเท้า เพื่อจัดการกับคนพวกนี้ให้ได้โดยเร็ว” นายสมศักดิ์ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การทำอะไรเราต้องมีความสุข โดยแปลเรื่องหนักใจให้เบาใจ ซึ่งเมื่อเราเจอปัญหาอะไร ก็ต้องทำให้เราเบาใจ ไม่มีคำว่าแพ้ ไม่มีคำว่าสู้ไม่ได้ มีแต่ชนะสำหรับนักต่อสู้ ซึ่งเราจะต้องยึดถือตลอด โดยเราจะทำในสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ จนกว่าจะบรรลุชัยชนะในที่สุด ดังนั้นเราอย่าไปกลัวการต่อสู้ เพราะย่อมมีความเจ็บปวดเป็นธรรมดา ดังจะเห็นได้จากบรรพบุรุษของเราในอดีตที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติของเรา ฉะนั้น เราต้องสามัคคีกันสู้เพื่อลูก เพื่อหลาน เพื่อบ้านเมืองของเรา
“วันพรุ่งนี้ เราต้องฟังจากกองบัญชาการ เพราะเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณเอาไว้ ดังนั้นเราจะต้องทวงคืนทุกสิ่งที่เสียไป และเอาคนโกงมาลงติดคุกให้ได้ นั่นคือชัยชนะ ซึ่งนั่นคือความสำเร็จ และถ้ายังไม่ถึง เราต้องไม่ยอม เราจะต้องสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะ และขอยืนยันว่าพวกเราจะไม่ทอดทิ้งกัน เราจะชนะด้วยกัน ถ้าติดคุก ก็ต้องติดด้วยกัน เราไม่ใช่พวกขี้ขลาดตาขาว จึงขอให้พวกเขาทำเข้ามา แล้วเราจะสู้กับมันทุกรูปแบบ” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า กรณีที่เขาออกกฎเกณฑ์มาให้จับนายสนธิ เพราะต้องการทำให้พวกเราขวัญเสีย เพื่อจะทำให้พวกเราอ่อนแอ ดังนั้น เราจะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป ส่วนพี่น้องพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัด ขอให้เตรียมพร้อมเอาไว้ เพราะโอกาสที่เราจะแสดงพลังเพื่อที่จะจัดการกับคนเหล่านั้น มันใกล้ที่จะถึงแล้ว ฉะนั้นจึงอยากให้พี่น้องพันธมิตรฯ เข้มแข็งเอาไว้ และมั่นใจในว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ เราจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน