“ลุงจำลอง” จวก ตร.อย่าจับมั่ว เผยการชุมนุมของพันธมิตรฯ ดีกว่า “ละครนํ้าเน่า”

“พล.ต.จำลอง” ตอก ตำรวจอย่าจับมั่วซั่ว เพราะจะไม่มีใครมาบอกว่ามีคนจาบจ้วงสถาบัน ยก “มติชน” เขียนชมพันธมิตรฯ ดีกว่าละครนํ้าเน่า ขณะที่อดีต จปร.รุ่นที่ 7 มอบเงิน 4 แสนให้พันธมิตรฯ และเอเอสทีวี

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย 

วันนี้ (23 ก.ค.) เมื่อเวลา 21.45 น. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศัยโดยได้ยกหนังสือพิมพ์มติชนที่เขียนถึงการชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่า เป็นการรวมตัวกันเพื่อสร้างการเมืองภาคประชาชนที่กำลังมีอิทธิพลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งยังมีการใช้การถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ไปทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างยิ่งในหมู่คนที่เบื่อหน่ายละครนํ้าเน่า

ทั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งก็กำลังติดรายการของเอเอสทีวีอย่างมาก โดยมีเพื่อนฝูงด้วยกันบอกว่าการถ่ายทอดของเอเอสทีวีนั้นประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นที่ชื่นชอบสะใจของผู้ชม โดยที่ไม่มีละครเรื่องไหนจะสนุกเท่ากับทางเอเอสทีวี ที่มีตัวละครเป็นคนเป็นๆ ในรัฐบาลเป็นผู้ร้าย ซึ่งทางเอเอสทีวีมีการสัดสรรรายการให้แก่ผู้ชมได้ชมกันอย่างถึงพริกถึงขิง ดีกว่ารายการเรียลิตีโชว์ รวมทั้งมีการเดินสายจัดรายการไปที่ต่างจังหวัด และมีรายได้จากทั่วประเทศอย่างถล่มทลายซึ่งมากกว่าฟรีทีวีบางช่องด้วยซํ้า

พล.ต.จำลอง ยังกล่าวว่า เวลาใกล้เป่านกหวีดเริ่มมาถึงแล้ว และกล่าวถึงการจับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าทำไมคนที่ทำเพื่อรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ กลับต้องถูกจับ ซึ่งทำไมบ้านเมืองถึงยํ้าแย่ขนาดนี้ โดยกรณีนี้หากตำรวจตั้งข้อหาโดยที่ไม่เป็นความจริงแล้วต่อไปจะไม่มีใครมาบอกว่ามีการจาบจ้วงสถาบัน เพราะกลัวว่าตำรวจจะจับ และยังกล่าวขอบใจผู้ชุมนุมที่รู้สึกเจ็บแค้นแทนนายสนธิ

ทั้งนี้ ก่อนที่ พล.ต.จำลองจะขึ้นกล่าวปราศัยนั้น พล.ท.สมพงศ์ บุญญสิริกุล เป็นตัวแทนนักเรียน จปร.รุ่นที่ 7 และตัวแทนประชาชนจังหวัดสระบุรี ได้มอบเงินให้แก่พันธมิตรฯ และเอเอสทีวีจำนวน 200,000 บาท ซื้อจานดาวเทียมเอเอสทีวี 100,000 บาท มอบให้แก่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง 100,000 บาท และมอบให้แก่ นางสาวอัญชลี ไพรีรัก พิธีกรของทางสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี จำนวน 20,000 บาท รวมทั้งสิ้น 420,000 บาท และยังกล่าวถึงนายทหารชั้นนายพล ว่าตนเองเคยสอนนายพลเหล่านี้ว่า การรักษาความมั่นคงเป็นภารกิจของทหารจะต้องทำเมื่อชาติวิกฤต โดยที่ไม่ต้องรอฟังคำสั่งใคร แต่ทหารในปัจจุบันไม่รู้ว่าเชื่อฟังคำสั่งใคร

พล.ท.สมพงศ์ กล่าวถึงนายทหารด้วยว่า นายทหารนั้นจะต้องไม่เหี่ยวเฉาตามกาลเวลา และต้องทำตัวให้เป็นผ้าที่ขาวสะอาดอยู่เสมอ และยังกล่าวถึงการจับนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ด้วยว่า เป็นการกลั่นแกล้งโดยไม่มีเหตุผล