แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายพิภพ ธงไชย และ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เดินทางไปยังรัฐสภา เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันนี้ (15 ก.ค.) เพื่อยื่นรายชื่อประชาชน 40,000 กว่ารายชื่อ ต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้งคณะออกจากตำแหน่ง กรณีมีมติรับแรงการลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาสนับสนุนให้กัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190
ทั้งนี้ ประชาชนกว่า 40,000 รายชื่อดังกล่าว เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามกฎหมาย พร้อมแนบหลักฐาน และรับรองสำเนาบัตรประชาชน ได้ขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 164 โดยการลงลายมือชื่อ เพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ให้ถอดถอนบุคคลตามมาตรา 270 ออกจากตำแหน่ง ด้วยเห็นว่าพฤติการณ์ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอันประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี เข้าข่ายการกระทำความผิด มาตรา 270 ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
โดยข้อเท็จจริงปรากฏเป็นพฤติการณ์ของคณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ว่าได้มีมติเห็นชอบกับหนังสือสัญญาที่นำเสนอโดยประเทศกัมพูชา และยินยอมให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลงนามในเอกสารแถลงการณ์ร่วมระหว่าง ไทย-กัมพูชา เพื่อให้ประเทศกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารและบริเวณโดยรอบให้เป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว อันเป็นหนังสือสัญญาที่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตกับประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงอย่างกว้างขวาง โดยที่ก่อนการดำเนินการในการทำหนังสือสัญญาดังกล่าว คณะรัฐมนตรีมิได้ให้ข้อมูลหรือจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ไม่ได้ชี้แจงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญา และมิได้เสนอกรอบการเจรจาต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบแต่ประการใด อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 190 ตามคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 6-7/2551 เรื่องพิจารณาที่ 23/2551 และเรื่องพิจารณาที่ 24/2551 ศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2551
พฤติการณ์ดังกล่าวจำต้องได้รับการตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การถอดถอนออกจากตำแหน่ง