พันธมิตรฯ หางตาไม่แล “เหล่” ออก-นัดดาวกระจาย “อสส.” สัปดาห์หน้า

“สุริยะใส” ไม่ให้ราคา “นพดล” ลาออก เย้ย เหมือนตอกย้ำการหมดสภาพทั้งทางพฤตินัยและนิตินัย ของรัฐบาล จี้ “สมัคร-ครม.-พรรคร่วม-พลังแม้ว” รับผิดชอบร่วมต่อความผิดฐานขายชาติ ยันจะปล่อยให้ว่ากันไปตามกลไกสภาก่อน เผย พันธมิตรฯ เดินหน้าใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจายต่อเนื่อง คาดเคลื่อนพลทวงถามคดี “แม้ว” ที่อัยการสูงสุดสัปดาห์หน้า

วันนี้ (10 ก.ค.) ที่เวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 18.05 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ แถลงถึงกรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ว่า เราคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะลาออก เพราะความผิดครั้งนี้คาหนังคาเขา คนไทยสัมผัสได้ ซึ่งเมื่อสถานการณ์จวนตัวจึงต้องตัดสินใจลาออก เราไม่ให้เครดิตว่าเป็นสปิริตอะไร และไม่ได้เป็นการสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาล แต่กลับเป็นการตอกย้ำการหมดสภาพทั้งพฤตินัยและนิตินัยของรัฐบาล แม้แต่ฐานเสียงของพรรคพลังประชาชนในภาคเหนือและอีสาน ก็อาจจะส่งผลให้คะแนนเสียงลดลงในการเลือกตั้งครั้งหน้า

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และ ส.ส.โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ที่โหวตรับรอง นายนพดล จะต้องแสดงความรับผิดชอบด้วย และพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ควรอ้างเหตุผลนี้ เพื่อต่อรองทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เราจะยังไม่ใช้สิทธิ์ 2 หมื่นรายชื่อ แต่จะปล่อยให้ฝ่ายค้าน และ ส.ว.ว่ากันไปตามกลไกของสภาก่อน

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (9 ก.ค.) พันธมิตรฯได้วิเคราะห์สถานการณ์กันว่า ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ ซึ่งรัฐบาลก็รู้ว่าตัวเองหมดความชอบธรรมแล้ว แต่ต้องลากสถานะของตัวเองไปให้นานที่สุด เพราะประการแรก จะต้องอยู่ให้ถึงเดือน ก.ย.และ ต.ค.เพื่อล้วงลูกการจัดโผโยกย้ายประจำปีของกองทัพ ประการที่สอง ยิ่งอยู่นานขึ้นยิ่งเป็นประโยชน์ต่อการฟอกผิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม และประการที่สาม เพื่อเร่งอนุมัติโครงการสำคัญๆ โดยเฉพาะเมกะโปรเจกต์ เพื่อถอนทุน เตรียมไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ทั้งนี้ นายสุริยะใส เชื่อว่า นายสมัคร จะยังไม่ยุบสภาหรือลาออก เราจึงจำเป็นต้องทำการต่อสู้ โดยเตรียมยุทธศาสตร์ดาวกระจายอีกครั้ง โดยจะไปทวงถาม ความคืบหน้าในการทำหน้าที่ของอัยการสูงสุด ที่ยังมีหลายคดีค้างอยู่ ว่ามีอุปสรรคอะไร โดยคาดว่าจะไปสัปดาห์หน้า

“เราอยากให้กระบวนการยุติธรรมเร่งพิจารณาคดี เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคดีมีความชัดเจน ทำให้เห็นอนาคต และความหวังทางการเมือง จึงหวังว่าอัยการสูงสุดจะมีคำตอบหรือคำอธิบายที่ดีว่า ความล่าช้าที่เกิดขึ้น เป็นการถ่วงรั้งคดีเพื่อทักษิณหรือไม่ หรือมีอุปสรรคตรงไหน เพราะเวลานี้อัยการสูงสุด ถูกตั้งคำถามไม่น้อยกว่า สตช.” นายสุริยะใส ระบุ