“จำลอง” ยื่นหนังสือถึงประมุขศาล-ล้มแผนถอดถอนผู้พิพากษาแล้ว

“จำลอง” แจงได้ยื่นหนังสือถึงผู้ใหญ่ทั้ง 8 ศาล เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงกรณีสั่งรื้อเวที วอนศาลให้ความคุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพตาม รธน.ยันไม่ยื่นถอดถอนผู้พิพากษาศาลแพ่งแล้ว ย้ำยังคงความมุ่งหมายเดิมแบบประชาธิปไตย พร้อมขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ที่ช่วยกันเตือนสติ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ปราศรัย 

วันที่ 8 ก.ค.เมื่อเวลา 20.40 น.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยที่สะพานมัฆวานฯ ว่า วันนี้เรามาชุมนุมปักหลักกันเป็นวันที่ 45 แล้ว คราวที่แล้วได้บอกว่าเราชนะมา 15 เรื่อง วันนี้ชนะเพิ่มมาอีก 2 เรื่อง (ศาล รธน.วินิจฉัยให้แถลงการณ์ร่วมไทย-เขมรขัด ม.190, ศาลฎีกาให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช) รวมทั้งหมดเป็น 17 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดเป็นฝีมือของพวกเรา

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เราต้องอพยพเคลื่อนย้ายกันเหมือนกับไฟไหม้บ้าน เนื่องมาจากเราเป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่งศาลทุกอย่าง เมื่อเราต้องเหน็ดเหนื่อยกับคำสั่งของศาล ตนได้ไปปรึกษาหารือกับแกนนำ และได้บอกกับผู้สื่อข่าวไปแล้วเมื่อเวลา 10 นาฬิกาของวันนี้ ว่า เราทำในฐานะที่ตนเป็นนักชุมนุมอาชีพ เป็นขาประจำในการชุมนุม อย่างในปี 35 ตนนั้น ติดทั้ง 2 คุก ทั้งคุกตำรวจและคุกทหาร เราก็ยอม ในการชุมนุมครั้งต่อมาก็ถูกดำเนินคดีและได้ถูกยกฟ้องในเวลาต่อมา

“อีก 4-5 กรณีเราก็ยอม ดังนั้น ผมจึงทำจดหมายเปิดผนึกเพื่อยื่นต่อผู้ที่เป็นผู้ใหญ่สูงสุดของศาล ทั้งหมด 8 ศาล ให้รับทราบไว้ว่า เมื่อเกิดกรณีอย่างนี้อีก ขอความกรุณาศาลท่านให้ความคุ้มครองเราในเรื่องเสรีภาพที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ” พล.ต.จำลอง กล่าว

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า วันนี้ ตนได้ไปยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ของศาลทั้ง 8 ศาล และบัดนี้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรู้แล้วว่า อะไรที่เกิดขึ้นกับเรา และแกนนำทั้ง 5 คน ได้ปรึกษาหารือกันเมื่อคืนนี้ว่า เราต้องขอความร่วมมือจากพันธมิตร 2 หมื่นชื่อเป็นอย่างน้อย เพื่อยื่นการถอดถอนท่านผู้พิพากษาศาลแพ่งที่ไม่ให้คุ้มครองในเรื่องเสรีภาพ เมื่อประกาศออกไปแล้วมีเสียงคัดค้านเกิดขึ้น อย่างที่บอกว่าเราชุมนุมกันตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อมีเสียงคัดค้านเราก็ฟัง และเราได้ประชุมกันแล้วว่าจะไม่ยื่นถอดถอน

“จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า ยังไม่ถึงขึ้นต้องทำแบบนั้น เพียงแต่เรียนให้ท่านผู้ใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดของแต่ละท่านทราบก็เพียงพอแล้ว เรายังคงดำรงความมุ่งหมายเดิม และทำแบบประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่เห็นอย่างไรก็ทำแบบนั้น และขอขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ที่เตือนสติเรา” พล.ต.จำลอง กล่าว