พันธมิตรฯ เตรียมปรับแผนการชุมนุม ยันปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแพ่งอย่างเคร่งครัด เผยพรุ่งนี้ (4 ก.ค.) จะทำเรื่องอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่ง ในประเด็นเสรีภาพการชุมนุมโดยเปิดเผยปราศจากอาวุธ หวั่นกลายเป็นบรรทัดฐานการชุมนุมในอนาคต จะปิดถนนหรือใช้เครื่องเสียงอาจจะทำไม่ได้
วันนี้ (3 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งศาลแพ่งยกคำร้องของพันธมิตรฯ เรื่องการชุมนุม โดยให้เปิดถนนพิษณุโลกและพระราม 5 พร้อมทั้งงดใช้เครื่องขยายเสียงตั้งแต่เวลา 07.30-16.30 น.ว่า พันธมิตรฯ คงต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลแพ่งอย่างเคร่งครัด และปรับแผนการชุมนุม ส่วนใดที่ยังติดใจกันอยู่ใช้การเจรจาพูดคุยกันได้ แต่ถ้าจะห้ามการชุมนุมใช้เครื่องขยายเสียงเลยเป็นไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 กรกฎาคมนี้จะทำเรื่องอุทธรณ์คำสั่งของศาลแพ่งว่าชอบหรือไม่ชอบ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ประเด็นใหญ่ที่จะอุทธรณ์ คือ เรื่องเสรีภาพการชุมนุมเปิดเผยโดยปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 63 รัฐธรรมนูญ ว่ามีขอบเขตแค่ไหน อย่างไร เพราะหากคำสั่งของศาลแพ่งเป็นบรรทัดฐาน ต้องนึกถึงภาพการชุมนุมในอนาคต ถ้ามีคนร่วมเป็นหมื่นหรือแสนคน จะปิดถนนหรือใช้เครื่องเสียงอาจจะทำไม่ได้เลยหากประเด็นนี้เป็นบรรทัดฐาน
นอกจากนี้ หลักปฏิบัติกับหลักกฎหมายควรจะไปด้วยกัน เช่น กลุ่มชุมนุมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยจึงปิดถนน เนื่องจากมีการแฝงตัวจากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาตลอดเวลา แต่ศาลบอกว่าไม่ใช่เหตุผลทางกฎหมาย รวมทั้งเรื่องของเขตอำนาจศาลว่าควรเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลแพ่ง เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน ท้ายที่สุดหากจะมีการยืนยันคำสั่งเดิม ก็ขอให้ได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย วางบรรทัดฐานไม่ให้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 63 เป็นหมันไป