ทนายพันธมิตรฯ ยื่นคำร้องซักค้านขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลแพ่ง คดีอาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยม และทนายลูกกรอกร้องให้ยุติการชุมนุม ยืนยันการแสดงพลังของประชาชนถือเป็นการใช้สิทธิโดยชอบตาม กม.
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มอบหมายเสมียนทนายความ เข้ายื่นคำร้องซักค้านคำขอคุ้มครองชั่วคราวต่อศาลแพ่ง รัชดาฯ กรณีที่คณะอาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง รัชดาฯ ขอให้ศาลมีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการชุมนุมดังกล่าว
สำหรับคำร้องซักค้านดังกล่าวอ้างถึงเหตุผลการชุมนุมโดยใช้สิทธิเสรีภาพชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อเรียกร้องการตรวจสอบหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และมิได้มีเจตนากระทำการให้กระทบต่อสิทธิของผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ (27 มิ.ย.) นางวรรธนันท์ พรวนต้นไทร ร่วมกับอาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยมรวม 10 คน และนายเมธี ใจสมุทร ทนายความ ได้เดินทางมาเข้ายื่นเพื่อฟ้องร้องกล่าวโทษต่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกอบด้วย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสุริยะใส กตะศิลา และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นจำเลย 1 ถึง 6 ตามลำดับ ที่ชุมนุมกีดขวางการจราจรบริเวณทำเนียบรัฐบาล ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับการเดินทางของประชาชน โดยเรียกร้องขอให้รื้อถอนเวทีปราศรัย และขนย้ายสิ่งกีดขวางทั้งหมดที่ปิดกั้นถนนพระราม 5 และถนนพิษณุโลก นอกจากนี้ ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้รถโดยสารสามารถผ่านเข้าออกถนนดังกล่าวได้ และงดใช้เครื่องกระจายเสียงระหว่างเวลา 07.30-16.30 น. ในวันจันทร์ถึงศุกร์ รวมทั้งห้ามปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย และขอให้จัดการกับสิ่งปฏิกูลอย่างมีระบบระเบียบ รวมทั้งขอให้จำเลยที่ 1 ถึงจำเลยที่ 6 ชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่าทนายความแทนโจกท์ทุกคน
โดยศาลนัดฟังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 13.30 น. โดยคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว มีสาระสำคัญเช่นเดียวกับการขอให้ศาลมีคำสั่งในการไต่สวนฉุกเฉิน
มีรายงานข่าวแจ้งว่า นายเมธี ใจสมุทร หรือป๊อด เกิดที่ตำบลสุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จังหวัดตรัง แต่ไปเติบโตที่ปัตตานี เป็นลูกพี่ลูกน้องและทีมงานของนายศุภชัย ใจสมุทร รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชนนั่นเอง