“นพดล” เพ้อคนส่วนใหญเชื่อ “เขาพระวิหาร” ถูกต้อง ใส่ไฟ “พันธมิตรฯ” ไร้สาระหาความจริงไม่ได้ สุดอกตัญญูเหน็บประชาธิปัตย์พรรคเก่า หากมีสาระ-บริหารงานดีคงไม่ลาออกมา เผยเลิก “ดร.อ้อ” แล้วเหตุเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน อ้างเฉยไม่แปลกที่คนดีๆ สองคนจะไปด้วยกันไม่ได้
วานนี้ (28 มิ.ย.) นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "กฤษณะล้วงลูก" ทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล ถึงกรณีเขาพระวิหารว่า เรื่องดังกล่าวตนได้อธิบายไปหมดแล้ว โดยยืนยันได้เสมอว่าเรื่องเขาพระวิหารนั้นตนทำอย่างโปร่งใส ไทยไม่ได้เสียดินแดนไปอย่างแน่นอน เพราะกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเขาพระวิหาร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นที่หรือโบราณสถานในฝั่งของไทยซึ่งตนคิดว่าเมื่อได้อธิบายไปแล้วคนส่วนใหญ่เชื่อในข้อเท็จจริงที่ตนชี้แจง แต่อาจจะมีไม่เชื่อบ้างคงเป็นเพราะมีอคติอยู่ในใจที่ตนเป็นที่ปรึกษาของอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อพูดอะไรไปก็มีอคติคงไม่เชื่อตนอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ไม่คิดมากถือว่าเป็นกรรมของตัวเอง
“มันเป็นกรรมของผม มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอ เอาอย่างนี้ดีกว่าถ้าผมทำถูกต้องของให้ผมเจริญ ถ้าทำไม่ถูกต้องขอให้ผมฉิบหาย” นายนพดลกล่าวสาบาน
ผู้ดำเนินรายการ ถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรที่ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ พาดพิงถึงอยู่บ่อยครั้ง นายนพดล กล่าวว่า ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะตนไม่สนใจกลุ่มพันธมิตรฯ อยู่แล้ว ตนจะใส่ใจก็เพียงประชาชนที่มีใจเป็นกลางเท่านั้น ดังนั้น สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีที่ถ่ายทอดสดการปราศรัยของพันธมิตรฯ ตนก็ไม่เคยดูและก็ไม่คิดจะดู เพราะคิดว่าไร้สาระ เดาได้เลยว่ามีแต่เรื่องเท็จและคำพูดที่หยาบคาย แต่อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้โกรธแค้นอะไร ทุกวันนี้ก็เพียงแต่แผ่เมตตาให้กับพันธมิตรฯ และคิดเสียว่า “มารไม่มี บารมีไม่เกิด” เพราะขนาดพระพุทธเจ้ายังมีมารผจญเลย แล้วตนซึ่งเป็นแค่คนธรรมดาจะไม่มีมารผจญได้อย่างไร
ต่อคำถามว่า ก่อนนี้นายนพดลเองก็เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วเหตุใดจึงลาออก นายนพดล กล่าวว่า ถ้าพรรคที่เดิมที่ตนอยู่มีเนื้อหาสาระ มีการบริหารงานอย่างดีและชัดเจน ไม่มีการกล่าวหาเลื่อยลอยอย่างไร้เหตุผล ตนก็คงไม่ออกมาอย่างนี้
ช่วงท้ายรายการผู้ดำเนินรายการได้ถามถึงชีวิตส่วนตัวว่า ปัจจุบันความสัมพันธ์กับ "ดร.อ้อ" ณหทัย ทิวไผ่งาม เป็นอย่างไรบ้าง นายนพดล กล่าวว่า ตอนนี้ก็เลิกกันไม่ได้คบหากันแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ก็คบกันเหมือนพี่น้อง ส่วนสาเหตุที่เลิกลากันเป็นเพราะมีทัศนคติบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะคนสองคนที่เป็นคนดีทั้งคู่บางครั้งก็อาจจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
