ศาลปกครองมีคำสั่งจำหน่ายคดีพันธมิตรฯ ฟ้องตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงรบกวน อ้างเหตุย้ายสถานที่ชุมนุมแล้ว จึงหมดเรื่องเดือดร้อนเสียหาย จึงให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 คน
วันนี้ (23 มิ.ย.) คณะตุลาการศาลปกครองได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนฉุกเฉินเพิ่มเติมต่อจากเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาด้วยการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร.หยุดกระทำการเปิดเพลงหรืออื่นใดผ่านเครื่องขยายเสียง ณ บริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งตัวแทนฝ่ายพันธมิตรที่เข้าชี้แจงยังคงเป็น นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ เช่นเดียวกับฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงเป็น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดการไต่สวนคณะตุลาการฯได้ใช้เวลาตลอดทั้งวัน ในการเขียนคำสั่ง จนกระทั่งเวลา 17.00 น.จึงมีคำสั่งให้มีการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความโดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากนายสนธิ และพวกรวม 5 คน รวมทั้งผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายการชุมนุมจากบริเวณจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ไปชุมนุมต่อที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก ในช่วงเย็นวันที่ 20 มิ.ย.จึงเป็นผลให้เหตุแห่งการฟ้องคดีดังกล่าวสิ้นสุดลง ความเดือดร้อนหรือเสียหายของผู้ฟ้องทั้ง 5 จากการรบกวนโดยเครื่องขยายเสียงได้หมดสิ้นไปแล้ว และไม่มีกรณีที่ศาลจะกำหนดคำบังคับเพื่อเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ตามมาตรา 72 วรรค 1(3) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ดังนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอให้ศาลปกครองกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีของผู้ฟ้องคดีอีก จึงให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5
วันนี้ (23 มิ.ย.) คณะตุลาการศาลปกครองได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนฉุกเฉินเพิ่มเติมต่อจากเมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาด้วยการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร.หยุดกระทำการเปิดเพลงหรืออื่นใดผ่านเครื่องขยายเสียง ณ บริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งตัวแทนฝ่ายพันธมิตรที่เข้าชี้แจงยังคงเป็น นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ เช่นเดียวกับฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงเป็น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดการไต่สวนคณะตุลาการฯได้ใช้เวลาตลอดทั้งวัน ในการเขียนคำสั่ง จนกระทั่งเวลา 17.00 น.จึงมีคำสั่งให้มีการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความโดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากนายสนธิ และพวกรวม 5 คน รวมทั้งผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายการชุมนุมจากบริเวณจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ไปชุมนุมต่อที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ถนนพิษณุโลก ในช่วงเย็นวันที่ 20 มิ.ย.จึงเป็นผลให้เหตุแห่งการฟ้องคดีดังกล่าวสิ้นสุดลง ความเดือดร้อนหรือเสียหายของผู้ฟ้องทั้ง 5 จากการรบกวนโดยเครื่องขยายเสียงได้หมดสิ้นไปแล้ว และไม่มีกรณีที่ศาลจะกำหนดคำบังคับเพื่อเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้กับผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ตามมาตรา 72 วรรค 1(3) แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
ดังนั้น เมื่อศาลมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว ก็ไม่จำต้องวินิจฉัยคำขอให้ศาลปกครองกำหนดมาตรการหรือวิธีการใดๆ เพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีของผู้ฟ้องคดีอีก จึงให้ยกคำขอของผู้ฟ้องคดีทั้ง 5