“ปชป.” มั่นใจข้อมูลซักฟอกบีบลูกกรอกเปลี่ยน รมต.1-2 ตำแหน่ง เผยข้อมูลลึก รู้ละเอียด แกนนำ พปช.สุมหัวโรงแรมไหน เรื่องอะไร ระบุหากเปิดอภิปรายไม่ทันสมัยประชุมนี้จะขอให้รัฐบาลเปิดสมัยวิสามัญอีก 1 วาระ
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการใช้มาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ หลังจากที่รับบาลไม่ยอมให้เปิดอภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมวิสามัญนี้ว่า ตนเชื่อว่าขณะนี้ยังสามารถใช้เวทีรัฐสภาได้ และยังเหลือเวลาเพียงพอสำหรับการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอาจจะใช้เวลาช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อเปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ทันสมัยประชุมนี้ พรรคก็อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประชุมสมัยวิสามัญขึ้นอีก 1 วาระ อาจจะเป็นในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ก็ได้ ซึ่งจะง่ายกว่าการให้ ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 1 ใน 3 เข้าชื่อเพื่อเสนอให้มีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพราะเสียงของ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวคงไม่เพียงพอ และอาจต้องใช้เสียงของ ส.ว.ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะเห็นด้วยกับเราหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในการร่วมกับ ส.ว.เข้าชื่อ ใช้สิทธิตามมาตรา 129 นายองอาจ กล่าวว่า เป็นไปได้ค่อนข้างยาก ในการให้มาร่วมเข้าชื่อกันนั้นจึงยากพอสมควร เพราะ ส.ว.ทั้ง 150 คนก็มีความคิดที่แตกต่างกัน และอาจะไม่เห็นด้วยกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลายคนก็ออกมาแสดงความกล้าหาญ มั่นใจว่าจะตอบคำถามของฝ่ายค้านได้ ดังนั้น ก็ควรรีบบรรจุลงในวาระการประชุมสภาให้ทันในสมัยประชุมนี้
“อยากฝากบอก ส.ส.พรรคพลังประชาชน ว่าให้รอดูข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่าลึกขนาดไหน ขนาดพวกคุณไปพบกันที่โรงแรมไหน คุยเรื่องบริหารประเทศอย่างไร เรายังรู้ ซึ่งข้อมูลเหล่าดังกล่าวจะนำไปพูดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย พรรคพลังประชาชนก็จับตาดูให้ดี” นายองอาจ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หวังผลกับการอภิปรายดังกล่าว ถึงขั้นให้คณะรัฐมนตรีมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า อยากตั้งข้อสังเกตว่าตั้งแต่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีทุกครั้ง ไม่ว่ารัฐบาลใด ผลการอภิปรายก็จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ ก็คาดว่าจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีได้ 1-2 คน
