“เลขาธิการสภาหภาพแรงงานฯ” ชี้เป็นสิทธิอันชอบธรรมของผู้ใช้แรงงานออกมาชุมนุมขับไล่ รบ.หุ่นเชิด ย้ำที่ผ่านไม่เคยคิดแก้ปัญหาปากท้อง ปชช.ระบุสังคมไทยหายนะ เกษตรกรหมดอาชีพทำกินในอนาคต จากนโนบายรัฐบาลอุ้มนายทุน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาวิทย์ แก้วหวาน ปราศรัย
วันนี้ (2 มิ.ย.) สาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสภาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า รัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดเวลาในการบริหารประเทศแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คิดแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเลย แต่กลับไปคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นผิด ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้คนส่วนใหญ่ ดังนั้นการออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลถือเป็นความชอบธรรม เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งองค์กรแรงงานระหว่างประเทศก็เห็นด้วยกับการชุมนุมอย่างสงบของเรา เพราะเรามีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
เลขาธิการสหภาพแรงาานฯ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ประชาชนทั้งประเทศได้เสียภาษีให้รัฐบาล แต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้แรงงานได้ ภาษีที่เราเสียไปก็เปล่าประโยชน์ ซึ่งเราได้ติดตามการทำงานของผู้ใช้แรงงานทุกวันนี้มีแต่ยากจนลง ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอำนาจ จากนายทุน โดยเฉพาะการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียมกันทั้งประเทศ วันนี้ค่าแรงตกวันละ 100 กว่าบาท ทำให้ผู้ใช้แรงงานทุกวันนี้ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ยิ่งทำยิ่งจนลง เราพยายามเรียกร้องแต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจในปัญหาปากท้องของผู้ใช้แรงงานภาคประชาชน นี่คือความหายนะของสังคมไทยและต่อไปในอนาคตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
นายสาวิทย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลทักษิณยังสร้างปัญหาให้ภาคประชาชนผู้ใช้แรงงานมากมาย ในหลายเรื่อง จากนโยบานแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ยิ่งทำให้พี่น้องเกษตรกรยากจนลง ใช้เงินไม่เป็น นำเงินไปซื้อรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ สุดท้ายไม่มีที่ทำกิน อย่างกฎหมายขายชาติที่ให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ก็ยังอยู่ ในขณะที่พี่น้องภาคเกษตรกรรมของเรากลับไม่มีดินทำกิน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่างที่เกษตรกรจะเลิกอาชีพ จะไม่มีเกษตรกรต่อไปในอนาคต จะกลายเป็นความหายนะของสังคมไทย
“การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ประชาชนมีแต่เสียเปรียบรัฐไม่ดูแลสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ส่วนการแปรรูปรัฐวิสหกิจ อย่างปตท.ได้สร้างความเจ็บปวดให้ประชาชน เพราะมีแต่ผู้รัฐมนตรี ญาติรัฐมนตรี พวกพ้อง ร่ำรวย การขายหุ้น ปตท.โดยนโยบายของรัฐบาลทักษิณ เมื่อเดือนมิถุนายนปี45 จำนวน 2 พันล้านหุ้นนั้นใช้เวลาในการขายเพียง 1นาที 17 วินาที หุ้นขายเกลี้ยงหมดในพริบตา หุ้นส่วนใหญ่ไปอยู่ตระกูลชินวัตร ดามาพงศ์ มหากิจศิริ จึงรุ่งเรืองกิจ โดยใช้ชื่อแม่บ้าง คนขับรถบ้าง รวยกันมหาศาล ราคาหุ้นในขณะนั้น 35 บาท วันนี้หุ้นปตท.อยู่ที่ 400 กว่าบาท ถ้าราซื้อ1 ล้านหุ้น กำไรเห็นๆ 300 กว่าล้านบาทโดยไม่ต้องทำอะไร นี่คือความอยุติธรรที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง”
นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้รัฐบาลยังจ้องจะขายรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีกำไร และรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน ซึ่งตรงนี้จะให้ประชาชนจะไม่ได้บริการที่ดี ถูกเอกชนเอารัดเอาเปรียบ ดังนั้น อะไรที่เป็นปัญหาเราต้องเปลี่ยนแปลง เป็นความชอบของประชาชนเจ้าของประเทศที่จะออกมาไล่รัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะมาสลายการชุมนุมอย่างสงบของประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสาวิทย์ แก้วหวาน ปราศรัย
วันนี้ (2 มิ.ย.) สาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสภาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า รัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี และนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หมดเวลาในการบริหารประเทศแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ได้คิดแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนเลย แต่กลับไปคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นผิด ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้คนส่วนใหญ่ ดังนั้นการออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลถือเป็นความชอบธรรม เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งองค์กรแรงงานระหว่างประเทศก็เห็นด้วยกับการชุมนุมอย่างสงบของเรา เพราะเรามีวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน
เลขาธิการสหภาพแรงาานฯ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ประชาชนทั้งประเทศได้เสียภาษีให้รัฐบาล แต่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้แรงงานได้ ภาษีที่เราเสียไปก็เปล่าประโยชน์ ซึ่งเราได้ติดตามการทำงานของผู้ใช้แรงงานทุกวันนี้มีแต่ยากจนลง ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้มีอำนาจ จากนายทุน โดยเฉพาะการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่ไม่เป็นธรรม ไม่เท่าเทียมกันทั้งประเทศ วันนี้ค่าแรงตกวันละ 100 กว่าบาท ทำให้ผู้ใช้แรงงานทุกวันนี้ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ยิ่งทำยิ่งจนลง เราพยายามเรียกร้องแต่รัฐบาลไม่เคยใส่ใจในปัญหาปากท้องของผู้ใช้แรงงานภาคประชาชน นี่คือความหายนะของสังคมไทยและต่อไปในอนาคตจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
นายสาวิทย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลทักษิณยังสร้างปัญหาให้ภาคประชาชนผู้ใช้แรงงานมากมาย ในหลายเรื่อง จากนโยบานแปลงสินทรัพย์เป็นทุน ยิ่งทำให้พี่น้องเกษตรกรยากจนลง ใช้เงินไม่เป็น นำเงินไปซื้อรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ สุดท้ายไม่มีที่ทำกิน อย่างกฎหมายขายชาติที่ให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ก็ยังอยู่ ในขณะที่พี่น้องภาคเกษตรกรรมของเรากลับไม่มีดินทำกิน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกหลายอย่างที่เกษตรกรจะเลิกอาชีพ จะไม่มีเกษตรกรต่อไปในอนาคต จะกลายเป็นความหายนะของสังคมไทย
“การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ประชาชนมีแต่เสียเปรียบรัฐไม่ดูแลสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ส่วนการแปรรูปรัฐวิสหกิจ อย่างปตท.ได้สร้างความเจ็บปวดให้ประชาชน เพราะมีแต่ผู้รัฐมนตรี ญาติรัฐมนตรี พวกพ้อง ร่ำรวย การขายหุ้น ปตท.โดยนโยบายของรัฐบาลทักษิณ เมื่อเดือนมิถุนายนปี45 จำนวน 2 พันล้านหุ้นนั้นใช้เวลาในการขายเพียง 1นาที 17 วินาที หุ้นขายเกลี้ยงหมดในพริบตา หุ้นส่วนใหญ่ไปอยู่ตระกูลชินวัตร ดามาพงศ์ มหากิจศิริ จึงรุ่งเรืองกิจ โดยใช้ชื่อแม่บ้าง คนขับรถบ้าง รวยกันมหาศาล ราคาหุ้นในขณะนั้น 35 บาท วันนี้หุ้นปตท.อยู่ที่ 400 กว่าบาท ถ้าราซื้อ1 ล้านหุ้น กำไรเห็นๆ 300 กว่าล้านบาทโดยไม่ต้องทำอะไร นี่คือความอยุติธรรที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง”
นายสาวิทย์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้รัฐบาลยังจ้องจะขายรัฐวิสาหกิจที่ไม่มีกำไร และรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน ซึ่งตรงนี้จะให้ประชาชนจะไม่ได้บริการที่ดี ถูกเอกชนเอารัดเอาเปรียบ ดังนั้น อะไรที่เป็นปัญหาเราต้องเปลี่ยนแปลง เป็นความชอบของประชาชนเจ้าของประเทศที่จะออกมาไล่รัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลไม่มีความชอบธรรมที่จะมาสลายการชุมนุมอย่างสงบของประชาชน
