xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.ภูวดล” ชวนสู้เปลี่ยนแปลงบ้านเมือง อย่าหวั่นคนอัปรีย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภูวดล ทรงประเสริฐ
“ดร.ภูวดล” ร่ายประวัติตระกูล “ชินวัตร” ระบุเก่งไม่มีปัญหา แต่อย่าโกงชาติบ้านเมือง กังขารัฐบาลถุยไปบ่นไปขายข้าวแพงกว่ามาเลย์ทั้งที่มาเลย์ซื้อข้าวจากไทย ยกคำสอนแม่ให้กลัวคนดี ยี้คนอัปรีย์ เชื่อการชุมนุมครั้งนี้ไม่ยืดเยื้อ ระบุประเทศจะดีได้ระบอบการเมืองต้องดี พร้อมให้กำลังใจร่วมกันชุมนุม เชื่อพวกเราช่วยกันเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

เมื่อเวลาประมาณ 15.55 น.ของวันนี้ (26 พ.ค.) ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยย้ำว่าวันนี้เป็นการชุมนุมวันที่ 2 แล้ว และผู้มาร่วมชุมนุมไม่ต้องหวาดกลัวกุ๊ย เพราะตัวเขานั้นยึดคำสอนของแม่ที่ว่า “ให้กลัวคนดี ไม่ได้กลัวคนอัปรีย์”

จากนั้น ดร.ภูวดลได้เล่าประวัติความเป็นมาของตระกูลชินวัตร โดยย้อนไปถึงก๋งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าคือ “เถ้าแก่เส็ง” เป็นชาวจีนโพ้นทะเล เป็นจีนแคระที่ไม่ได้มาจากจีนโดยตรง แต่มาจากเมืองไซง่อน ประเทศเวียดนาม และมาตั้งถิ่นอยู่ในจันทบุรีในช่วงปี 1890 จากนั้นไปตั้งหลักอยู่ที่เชียงใหม่ เป็นพ่อค้าภาษีอากรขนาดเล็ก และมีเมียชื่อนางยินดี ซึ่งก็คือย่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ

ดร.ภูวดล เล่าอีกว่า ตระกูลชินวัตรนี้แตกออกเป็น 2 สาขาใหญ่ สาขาหนึ่งเป็นพ่อของ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด อีกตระกูลเป็นทางสายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่ง ดร.ภูวดล ระบุว่า สายบน (สายของ พล.อ.ชัยสิทธิ์) มีฐานะดีกว่าสายล่าง (พ.ต.ท.ทักษิณ) มีที่นาเยอะ ทำกินอยู่บนหยาดเหงื่อแรงงานของชาวนา

“ตระกูลนี้ถือเป็นตระกูลเก่าแก่ของเชียงใหม่ ที่เชียงใหม่มี 3 ตระกูลใหญ่ ตระกูลนิมมาเหมินทร์ แซ่เก่าคือ ลิ้ม แซ่เดียวกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล อีกตระกูลหนึ่งคือชุติมา มาจากแซ่ฉั่ว และตระกูลที่ 3 คือชินวัตร” ดร.ภูวดลเล่า และเผยอีกว่า แต่ก่อนมีโรงภาพยนตร์ของตระกูลชินวัตร ลูกหลานของตระกูลทำมาค้าขายเก่ง เรียนหนังสือเก่ง โดยเฉพาะ ด.ช.ทักษิณ เรียนที่มงฟอร์ดและเข้าเรียนเตรียมทหาร

“ปัญหาคือ ถ้าเก่งแล้วคนนับหน้าถือตาคุณก็ดี แต่อย่าโกงบ้านเมือง ที่บอกว่าไม่เล่นแล้วการเมือง แต่เคลื่อนไหวทางการเมืองตลอด คนที่น่ากลัวกว่าตัวผู้ คือตัวเมีย ซึ่งเป็นภรรยา ปัญหาการเมืองไทยถึงทางตัน เพราะคนๆ นี้นี่เอง เรามีคนเก่ง แต่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง”

“กรณีเทมาเส็ก ผมเป็นคนเปิดเผยคนแรกในประเทศไทย ผมมีความรู้พอที่จะพูด พูดจนชาวบ้านรู้ว่าคืออะไร เป็นความระยำของรัฐบาลสิงคโปร์ ที่จริงแล้วประเทศนี้เป็นประเทศเผด็จการมากกว่าพม่าด้วยซ้ำ คนสิงคโปร์ไม่มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลด้วยซ้ำ หนังสือพิมพ์ที่จำหน่ายในสิงคโปร์ไม่สามารถวิพากษ์ความระยำความเส็งเครงของรัฐบาลได้”

“นายกฯ ปากสุนัขไปสิงคโปร์มาก็ชื่นชม แต่ชาตินี้กินชาติเรามานานแล้ว สิงคโปร์เป็นชาติแรกที่เอาสับปะรดกระป๋อง ข้าวไทยไปขายตั้งแต่ ร.6 แล้วไปตีตราสุลต่าน เราไม่รู้เรื่องเลย ยังไปชื่นชมเขาอีก”

“ไม่มีพ่อค้าที่ไหนใจบุญ ถ้าจะทำค้าขายก็ต้องได้ผลกำไรสูงสุด” ดร.ภูวดลย้ำ

ดร.ภูวดล เล่าอีกว่า ช่วงปี 2540 ที่ประเทศไทยเศรษฐกิจพัง คนที่ทำพังคือนายทุน และที่ไทยฟื้นขึ้นมาได้ ไม่ใช่เพราะไอ้หน้าเหลี่ยม เพราะคนไทยมีเงินสะสมอยู่ในแบงก์ ประชาชนในระดับรากหญ้าไม่ได้เจ๊งตามไปด้วย ซึ่งเมื่อเงินของชาวบ้านยังอยู่ในธนาคาร รัฐบาลก็ขายพันธบัตรโดยให้อัตราดีกว่าดอกเบี้ยในธนาคาร แล้วรัฐก็เอาเงินตัวนั้นมาหมุน “ลองดูรัฐบาลเหลี่ยมว่าขายพันธบัตรไปกี่ล็อต”

“รัฐบาลเหลี่ยมต้มหมูประชาชน ทุกวันนี้ที่พังเพราะประชานิยมสร้างไว้ เงินจะไหลมาเพราะรัฐบาลสามารถขายพันธบัตรได้ สุดท้ายก็ต้องขายลูก ขายนา และอย่างที่พามาขายที่สุพรรณฯ นั่นแหละ แต่ละตัวๆ ยิ่งกว่าควายด้วยซ้ำ เราไม่ต้องเคารพนักการเมืองชั่วอีกต่อไป” ดร.ภูวดลกล่าว

“นักการเมืองดีมีน้อยนิด แต่นักการเมืองอัปรีย์จัญไรเต็มสภา บทเรียนชั่วชีวิตคนรุ่นเรา จำไว้เลย ต้องสอนลูกสอนหลานเรา”

“ประเด็นต่อไปที่อยากจะเตือนพี่น้อง คือ พรรคการเมืองชั่วคุมกลไกสื่อได้หมด รัฐมนตรีคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นเกย์ พยายามอ้างโน่นอ้างนี่ บอกว่าเก่งภาษาอังกฤษมาจากโลกไหน พูดแค่ 1 ชั่วโมง ผมแปล 2 ชั่วโมงก็เสร็จ ไม่ต้องรอเป็นอาทิตย์หรอก ที่พูดที่ลอส แองเจลิส ระยำตำบอนยิ่งกว่านี้อีก สื่อมวลชนช่องไหนพูดบ้างนอกจากเอเอสทีวี นักการเมืองชั่วเหล่านี้ยิ่งกว่าคางคกขึ้นวอ”

ทั้งนี้ ดร.ภูวดลกล่าวกับผู้เข้ารวมชุมนุมว่าทุกคนไม่ต้องกังวล รักษาแนวร่วมของตัวเองไว้ สงครามครั้งนี้ไม่ยืดเยื้อ

“ถ้ารัฐบาลชั่วอยู่ได้ ผมไม่อยู่ประเทศนี้หรอก ยังมีอีกหลายประเทศให้ไปหากิน ผมสู้เพื่อให้รัฐบาลชั่วๆ ออกไป เชื่อว่าประเทศนี้มีสิ่งศักดิ์ต้องคุ้มครองพวกเรา”

“ส่วนนายกฯ ก็ยิ่งกว่าลูกรอก ยิ่งกว่านอมินี วันอาทิตย์ทีก็มาถุยไปบ่นไป ไม่ต้องไปสนใจหน้าไหน มันถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องต่อสู้โดยเฉพาะพี่น้องชาวใต้บ้านผมก็ลุกขึ้นมาสู้กับมัน ถ้าสู้ไม่ได้ก็ปล่อยให้ประเทศนี้สุนัขกินไป ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไหนจะต่ำได้ขนาดนี้ เรามีวัตถุความเจริญ แต่วัฒธรรมการเมืองบ้านนี้มันถอยหลังเข้าคลอง หรือถอยหลังลงคลองกันแน่”

นอกจากนี้ ดร.ภูวดลยังเล่าว่า เขาเห็นประเทศมาเลเซียต้องซื้อข้าวจากไทยไปกิน ทุกเบอร์ทุกยี่ห้อ แต่กลับตั้งราคาถูกกว่าประเทศไทยถุงละ 3 บาท เพราะรัฐบาลสนับสนุนถึงอยู่ได้ ถามว่าประเทศไทยช่วยอะไรพี่น้องได้ไหม

“ที่ด่านประดังเบซาร์ เพราะน้ำมันมาเลย์ถูกกว่าเราลิตรละ 16 บาท ประเทศมาเลมีก๊าซ มีน้ำมันพอเข้าใจ แต่ข้าวทำไมเรากินแพงกว่า” ดร.ภูวดลแจกแจง อีกทั้งเขายังชี้ว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางสถาบันยุทธศาสตร์ของมาเลย์เชิญเขาไปให้คำปรึกษาตลอด ทำให้เห็นว่ามาเลเซียรู้ปัญหาภาคใต้มากกว่าคนไทยตลอด ขณะที่เราเองไม่มุ่งแก้ปัญหาอะไรเลย

“นักวิชาการไทยพูดเรื่องสามเหลี่ยมเศรษฐกิจมา 20 กว่าปีแล้ว แต่ไม่เคยมีใครสานต่อ เขตเศรษฐกิจที่เชื่อมอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย รัฐบาลเราผิดพลาดมาแต่อดีต คิดแต่ว่าจะเอาตังค์อย่างเดียว เลยเป็นเรื่องอยู่ในกระดาษจนขณะนี้” ดร.ภูวดลยกอีกกรณี

นอกจากนี้ นักวิชาการขวัญใจผู้ร่วมเวทีปราศรัยจากรั้วเกษตรศาสตร์ยังอีกระบุว่า ประเทศจะดีได้ระบอบการเมืองต้องดี ถ้าระบอบการเมืองไม่ดี อย่าหวังว่าประเทศจะไปถึงดวงดาว บางตระกูลเป็นหัวหน้าพรรคกินกันไปหลายชั่วโคตรก็ยังไม่หมด ชาวบ้านได้อะไร ประชาชนอาจจะดีใจมีถนนหนทาง มีเงินผ่อนรถ แต่แค่ซื้อน้ำมันก็หมดแล้ว ไม่มีเงินเก็บไว้ให้ลูก ผ่อนเงินดาวน์กันทั้งชีวิต

“มันก็เลยเกิดวัฒนธรรมชั่ว แดกได้แดกเลย ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลง อนาคตรุ่นลูกรุ่นหลานคงอยู่ได้แบบกุ๋ยๆ แบบที่เจอกันเมื่อวาน เราไม่ได้โกรธเขาเลยพวกที่มาทำ เพราะสถานภาพเขาจน จึงไปจ้างวานเขาทำแบบนั้นได้” ดร.ภูวดลกล่าว

อีกทั้งเขาย้ำว่า เรามีความคิดต่างกันคุยกันได้ แต่อย่ามาใช้กำลังกัน เดี๋ยวก็เลือดตกยางออก ที่พูดไม่ได้กลัว แต่อย่ามาทำความเดือดร้อนให้เด็ก ผู้หญิง ที่ไม่รู้เรื่อง เรามาพูดกันด้วยสันติวิธี ปัญหาบ้านเมืองมันแก้ได้ ถ้านักการเมืองชั่วรู้ว่าทำชั่วมาพอแล้ว

“คนมีเงินไหว้ได้ถ้าทำดี ถ้าคนอัปรีย์ถุยน้ำลายใส่ บ้านผมสอนอย่างงี้ คนจนแต่เป็นคนดีก็ไหว้ได้ แต่ถ้าเป็นคนไม่ดี ด่าใส่เลย เราช่วยกันแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ บ้านนี้เมืองนี้ได้เปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน” ดร.ภูวดลทิ้งท้าย

สำหรับการปราศรัยบนเวทีชุมนุมของพันธมิตรฯ ที่เชิงสะพานมัฆวานฯ ได้มีมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลีงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดไม่เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล ส่วนกำหนดการที่สำคัญวันนี้ แกนนำพันธมิตรฯ จะขึ้นเวทีปราศรัยในเวลา 20.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น