“รมว.ต่างประเทศ” ร่วมสมทบ ซก อาน เหินฟ้ากรุงปารีส เจรจาคณะกรรมการมรดกโลกหาข้อยุติเขาพระวิหาร ย้ำ ไม่มีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ แต่ยอมรับมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้
วันนี้ (18 พ.ค.) นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีชาวบ้าน อ.กัณฑรักษ์ จ.ศรีสะเกษ เรียกร้องให้ รมว.ต่างประเทศ มีการเปิดเผยรายละเอียดการที่กัมพูชา ขอให้ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งจะกินพื้นที่ทับซ้อนฝั่งประเทศไทย ว่า ก่อนหน้านี้ กัมพูชาเสนออยากให้ตัวปราสาทและรอบอาณาปราสาทที่เป็นเขตอนุรักษ์ หรือเขตกันชนที่บังเอิญอยู่ในพื้นที่เราอ้างสิทธิ์ทับซ้อน เราไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ไทยยืนยันว่าหากขึ้นทะเบียนตัวปราสาทที่อาณาเขตอยู่ในฝั่งกัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนได้ แต่พื้นที่ที่เป็นเขตทับซ้อน ต้องมาบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งเป็นท่าทีของรัฐบาลตั้งแต่สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี มาถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ท่าทีของไทยยังเหมือนเดิม และตามที่ตนได้หารือกับ นายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีท่าทียืดหยุ่นมากขึ้นและอยากได้ข้อยุติโดยเร็วในการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และยังจะเป็นกาสร้างบรรยากาศที่ดีในฐานะประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง
“ล่าสุด ทางกัมพูชาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงบางประการที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งเราต้องรอให้ นายซก อาน ไปพูดคุยกับคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งแนวโน้มผมอาจไปพูดคุยในเวทีดังกล่าวด้วยในวันที่ 22-23 พ.ค.ที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อหาทางคุยเพื่อให้ได้ข้อยุติ โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องวินวิน ไม่มีการเกี้ยเซียะ และไม่มีการเชื่อมโยงผลประโยชน์เรื่องแก๊สธรรมชาติ ดังนั้นขอให้ชาวบ้านกัณฑรักษ์และพี่น้องชาวไทย 63 ล้านคนสบายใจได้” นายนพดล กล่าว