สำนวนสอบ “ยุทธ ใบแดง” หมิ่นกองทัพ ส่อเค้าใบขาว คณะกรรมการสอบชี้ไม่ใช่คดีเลือกตั้ง โยนเป็นเรื่องอาญาแต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับมติ กกต.ว่า จะแจกใบแดงซ้ำสองหรือไม่
วันนี้ (28 เม.ย.) แหล่งข่าวจาก กกต.เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบสวนกรณีที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม ได้ร้องต่อ กกต.กล่าวหา นายยงยุทธ ติยะไพรัช กระทำการปราศรัย ใส่ร้าย กล่าวหาว่าทหารเข้าไปบุกคนบ้านประชาชน เป็นการหมิ่นประมาทกองทัพ ว่า ทางคณะกรรมการเห็นพ้องว่า เรื่องที่ พล.อ.สมเจตน์ มาร้องไม่เข้าข่ายมาตรา 53(5) ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.เพราะเนื่องจากว่าคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ ระบุว่า เป็นเรื่องของการหมิ่นประมาท ใส่ความให้กองทัพเกิดความเสียหาย ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะกรรมการ เห็นว่า น่าจะเป็นคดีความทางอาญา และเห็นว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคล 2 คน เป็นการกล่าวหากันไปมา จึงเห็นว่า พล.อ.สมเจตน์ ในฐานะเป็นผู้เสียหาย น่าจะไปแจ้งความดำเนินคดีทางอาญา จะเป็นการถูกต้องกว่ามาร้องที่ กกต.เมื่อถามว่า กรณีที นายยงยุทธ ระบุว่า ทหารเข้าไปตรวจค้นบ้านหัวคะแนนทำให้เกิดคะแนนสงสาร ต่อพรรคพลังประชาชนหรือไม่
แหล่งข่าวกล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่เข้าตามความผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่มีผลต่อการทำให้เกิดความสำคัญผิดในคะแนนนิยมจนทำให้คะแนนสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่าง 2 คน 2 ไม่เกี่ยวกับพรรคเลย นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีออกมาตั้งข้อสังเกตล่วงหน้า ว่า กกต.จะลงมติให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นใบที่ 2 จากกรณีที่นายทหารยศพลเอกเข้าร้องเรียนนั้น ว่า เป็นการคาดการณ์กันไป โดย กกต.5 คน ยังไม่มีใครได้รับสำนวน ซึ่งตามหลักการ การให้ใบแดง ใบที่ 2 สามารถทำได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ แต่กรณี พล.อ.สมเจตน์ ไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียจากการเลือกตั้ง จึงอาจไม่เข้าข่ายความผิด ตามมาตรา 53 วงเล็บ 5 ของกฏหมายเลือกตั้ง ที่ห้ามผู้สมัครใส่ร้ายผู้อื่นด้วยความเท็จ เพื่อจูงใจในคะแนนนิยม แต่หาก กกต.เห็นถึงความผิดที่ชัดเจน ก็อาจนำมาพิจารณาเอาผิดได้
