“เทพเทือก” เฉยมติยุบพรรค - “อนงค์วรรณ” น้ำตาร่วง

“สุเทพ” ไม่ยินดียินร้ายมติ กกต.ยุบ 2 พรรค ปัดข่าว “ลูกปลาไหล” แตกรังเข้าซบ ขณะรองเลขาฯ ปชป.เห็นใจ “บรรหาร” ในฐานะเคยเป็นพวกกันมาก่อน คาดศาลใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะหลักฐาน กกต.มีน้ำหนัก ด้าน “อนงค์วรรณ” น้ำตาคลอ ยังเชื่อศาลจะเห็นต่าง

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องถึงอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ว่า ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมายและข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ขอแสดงความรู้สึกใดๆ ยังไป นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ตนรู้สึกเฉยๆ ไม่ขอยินดียินร้ายอะไร

เมื่อถามถึงข่าวที่ว่า มี ส.ส.พรรคชาติไทย ประมาณ 15 คนจะย้ายเข้ามาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดียุบพรรคเสร็จสิ้นก่อน ส่วนความเป็นไปได้ที่จะทาบทาม ส.ส.ของพรรคที่ถูกตัดสินยุบนั้น ยังบอกไม่ได้ในขณะนี้

ด้าน นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจและเห็นใจไปยังหัวหน้าพรรคที่ถูกยุบ โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคชาติไทยที่เคยเป็นพวกกันมาก่อน ซึ่งตนขอให้กำลังใจ ทั้งนี้ ต้องเคารพในกฎหมาย ส่วนมติของ กกต.ที่ออกมา 4 ต่อ 1 นั้น เชื่อว่า คงไม่มีปัญหาอะไร แม้จะออกมาล่าช้าไปบ้าง อย่างไรก็ตาม การที่ กกต.ต้องส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้ส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญนั้น คาดว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะหลักฐานของ กกต.มีน้ำหนักมากพออยู่แล้ว

ด้าน นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รักษาการหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาคลอเบ้า หลังทราบมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.4 ต่อ 1 ส่งสำนวนยุบพรรคให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า รู้สึกผิดหวัง แต่ขณะนี้ยังไม่คิดถึงขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป และยังไม่ได้คุยกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เพราะว่าไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค และไม่อยากให้ใครเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ เคยพูดเล่นๆ ไว้ ว่า ถ้าถูกตัดสิทธิ์จริงก็ให้ไปปัดกวาดบ้านเลขที่ 111 ไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม จะยังคงรอคำตัดสินของศาล โดยเชื่อว่า คำตัดสินสามารถแตกต่างกันได้ และยังจะเดินหน้าทำงานในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อไป